‘เศรษฐา’ เข้าสภาฯ ชี้แจงโครงการแลนด์บริดจ์ ชี้ เป็นเมกะโปรเจ็คสำคัญของโลก แสดงจุดยืนไทยเป็นกลาง
วันนี้ (4 ม.ค.67) เวลา 12.20 น.ที่อาคารรัฐสภา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงการคลัง เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 และชี้แจงการอภิปรายงบประมาณ หลังจาก พญ.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายสนับสนุนโครงการแลนด์บริดจ์
นายกรัฐมนตรี ขอบคุณที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พูดถึงโครงการแลนด์บริดจ์ เพราะกำลังเป็นที่สนใจของนักลงทุน และเป็นโครงการสำคัญของรัฐบาล โดยหลายผู้ผลิตที่อยากมาตั้งโรงงานในไทย ในขณะที่ไทยมีประชากรแค่ 70 ล้านคน แต่ต้องตั้งโรงงานใหญ่ และปัญหาช่องแคบมะละกา เริ่มอึดอัด และเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ทำให้ระยะเวลาที่ผ่านช่องแคบนานขึ้น อีกทั้งมูลค่าสินค้า 15 ปีข้างหน้า ต้องใช้เส้นทางเดินเรือเพิ่มขึ้น ช่องแคบมะละกา ไม่สามารถบริหารได้สูงสุด
“โครงการแลนด์บริดจ์ จะแบ่งเบาภาระ เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน การค้าน้ำมันทั่วโลกมี 60 เปอร์เซ็นต์ ถ้าช่องแคบมะละกา คับแคบ เรื่องขนถ่ายสินค้าจะเป็นเรื่องใหญ่ รัฐบาลนี้ตระหนักดีจึงคิดทำแลนด์บริดจ์ จุดยืน Geo-Politics เราเป็นกลาง โดยเฉพาะความขัดแย้ง จีนและสหรัฐอเมริกา รุนแรง ไทยเป็นกลางครับ ดังนั้นการเสนอตัวทำแลนด์บริดจ์ จะเชื่อมต่อโลกทั้งโลก ไทยเป็นศูนย์กลางขนถ่ายสินค้าของโลก”
นายเศรษฐา ยืนยันว่า เป็นเรื่องจำเป็นที่รัฐบาลต้องผลักดันโครงการแลนด์บริดจ์ แต่ไม่ได้นิ่งนอนใจ ไม่ได้เพิกเฉยต่อเสียงประชาชนในพื้นที่ รัฐบาลจะฟังข้อคิดเห็นของประชาชน ฝ่ายค้าน และนักธุรกิจ เพื่อให้มันใจว่าโครงการแลนด์บริดจ์จะเป็นโครงการเมกะโปรเจ็คสำคัญของโลก
“การมีโครงการแลนด์บริดจ์ ทำให้ซาอุดิอารเบีย สนใจอยากมาลงทุน มาสร้างโรงกลั่นน้ำมัน ทำให้ไทยมั่นคงทางพลังงาน นอกเหนือจากความมั่นคงทางอาหาร ทำให้พึ่งตนเองได้ ทำให้ความเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญของโลก ขอบคุณครับ” นายเศรษฐา กล่าวย้ำ












