POLITICS

เวทีเสวนาข้อเสนอจากตัวแทนผู้ประกันตน หวัง ผู้ได้รับเลือก รักษาผลประโยชน์ของผู้ประกันตน

วันนี้ (12 ธ.ค. 66) เวทีแลกเปลี่ยนข้อเสนอจากผู้แทนผู้ประกันตน ที่จะใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 24 ธันวาคม 2566 นี้ถึงผู้สมัครบอร์ดประกันสังคม โดยมี สุธิลา ลืนคำ ผู้แทนผู้ประกันตนมาตรา 33 วิภา มัจฉาชาติ ผู้แทนผู้ประกันตนมาตรา 39 สุจิน รุ่งสว่าง ผู้แทนผู้ประกันตนมาตรา 40 อดิศร เกิดมงคล เครือข่ายแรงงานข้ามชาติ และ ดร.โชคชัย สุทธาเวศ สถาบันปรีดี พนมยงค์ ดำเนินรายการโดย ฐปณีย์ เอียดศรีไชย

ดร.โชคชัย สุทธาเวศ สถาบันปรีดี พนมยงค์ กล่าวว่า เราได้ก้าวมาสู่การเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม หลังจากมีความพยายามในการยกร่างกฎระเบียบในการเลือกตั้ง พร้อมกันนี้ ยังได้พูดถึงการผลักดันให้เกิดกฎหมายประกันสังคมว่าเริ่มต้นตั้งแต่สมัยจอมพล ป.พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี จนมาสำเร็จในปี 2533 สมัยรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัน

สุจิน รุ่งสว่าง​​​​ ผู้แทนผู้ประกันตนตามมาตรา 40 มองถึงการขยายกองทุนสู่แรงงานนอกระบบ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ต้องปรับและมองถึงความยั่งยืนด้วย
จึงเสนอแนวทาง ดังนี้

1.ความสมดุล เพราะในปัจจุบันประกันสังคมมีการแบ่งเป็น 3 ช่องทาง คือ คนจน คนรวย คนปานกลาง คุณสุจินมองว่า ควรเป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้สิทธิประโยชน์เท่ากัน อยากให้เข้าไปปรับให้มีความสมดุล และเอื้อต่อพี่น้องที่มีรายได้น้อยด้วย อยากให้กฎหมายเป็นร่มใหญ่ที่คุ้มครองคนทุกระบบ

2.เรื่องบริหารจัดการ อยากเห็นกองทุนเป็นองค์กรอิสระ ปราศจากนักการเมือง หรือข้าราชการ เข้ามามีอำนาจมากกว่าสัดส่วนของผู้ประกันตนที่มีจะส่วนร่วม ในบอร์ดผู้ประกันตน

3.เรื่องหน่วยเลือกตั้ง เพราะการที่ต้องเดินทางเข้าไปเลือกตั้งตามหน่วยต่าง ๆ เป็นการเพิ่มภาระการใช้จ่ายให้กับประชาชนที่อยู่นอกตัวเมือง

4.ความยั่งยืนของกองทุน ขยายอย่างไรเพื่อให้เกิดความยั่งยืน และผลกำไรที่ให้ไปลงทุนควรมีโปร่งใส

5.วาระของบอร์ดประกันสังคมควรมากกว่า 2 ปี ระยะเวลาแค่นี้ยังไม่สามารถพัฒนาอะไรได้เลย พัฒนาไม่ทัน ไม่มีความต่อเนื่อง ควรจะเป็น 4 ปี

ด้าน วิภา มัจฉาชาติ​​​​ ผู้แทนผู้ประกันตนตามมาตรา 39 กล่าวว่า กว่าจะได้มาของการเลือกตั้งในครั้งนี้มีการต่อสู้มาอย่างยาวนาน เลยมีข้อเสนอ ดังนี้

1.แก้ระเบียบที่ไม่สอดคล้อง และพัฒนาด้านการลงทะเบียนเลือกตั้ง สร้างความรับรู้ และให้เข้าถึงประชาชนมากกว่านี้

2.งบของประกันสังคม ควรกระจายอย่างทั่วถึง เปลี่ยนจากงบที่ไม่มีความจำเป็น ไปพัฒนาในส่วนอื่นดีกว่า

3.บำนาญของมาตรา 39 ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต “สังคมไทยทำงานยันตาย แต่ไม่มีอะไรมั่นคงเลย” ไปดูแลผู้ประกันตรงให้ถ้วนหน้า จะช่วยความมั่นคงของผู้ประกันตน และคุ้มค่าในการส่งเงินกองทุนประกันสังคม

สุธิลา ลืนคำ ผู้แทนผู้ประกันตนมาตรา 33 กล่าวว่า ตนเป็นผู้ประกันตนมาตั้งแต่ปี 2534 เชื่อว่าเรื่องประกันสังคมอยู่ในหัวใจของแรงงานทุกคน ไม่อยากให้มีการนิยามลักษณะการจ้างงานเป็นหมวดต่างๆ ประกันสังคมต้องครอบคลุมกับคนทำงานอย่างถ้วนหน้า ผู้ประกันตน มาตรา 33 หลายอย่างไม่สอดคล้องกันเลย เช่น สิทธิ์ในการทำฟันปีละ 900 บาทไม่สามารถทำอะไรได้เลย แถมยังต้องเสียค่าธรรมเนียมครั้งละ 50 บาท ทำอะไรมากไม่ได้นอกจากขูดหินปูน ไม่สอดคล้องและไม่เพียงพอกับลักษณะสังคมและค่าจ้างขั้นต่ำ ควรจะต้องปรับปรุงเรื่องสิทธิประโยชน์ 7 กรณีของผู้ประกันตน การส่งเงินสมทบ ของคนตกงานจากมาตรา 33 เมื่อตกงานต้องไปส่งมาตรา 39 ทำไมต้องไปส่งเงินแทนนายจ้างด้วย เรื่องการบริการและการคุ้มครองของผู้ประกันตนเมื่อไปใช้บริการทางการแพทย์เข้ารับการรักษาไม่ว่าในโรงพยาบาลของรัฐหรือเอกชนมักเจอปัญหาเรื่องมาตรฐานการรักษา

สุธิลา เปิดเผยด้วยว่า ถูกผู้อื่นมาสวมลงทะเบียน ทำให้ต้องเดินทางไปดำเนินการที่สำนักงานประกันสังคมด้วยตัวเอง และยังมีคนอีกมากมายที่เกิดปัญหาแบบนี้ แต่อย่างน้อยถือว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ที่จะมีสิทธิ์เลือกผู้แทนของตนเองเข้าไปเพื่อรักษาสิทธิ์ของผู้ประกันตน หวังว่าผู้ได้รับการเลือกตั้งจะสามารถรักษาผลประโยชน์ของผู้ประกันตนไม่ให้คนโยกเงินไปมาได้ทำงานหวังว่าผู้ได้รับการเลือกตั้งจะสามารถรักษาผลประโยชน์ของผู้ประกันตนไม่ให้คนโยกเงินไปมาได้ คุ้มครองคนทำงานในลักษณะงานแบบใหม่เช่นกลุ่มไรเดอร์คนทำงานนวดคนรักอิสระหาแนวทางที่ตอบโจทย์ลักษณะการทำงานในยุคใหม่

อดิศร เกิดมงคล เครือข่ายแรงงานข้ามชาติ กล่าวว่า ปัญหาของกลุ่มแรงงานข้ามชาติคือวันนี้แรงงานข้ามชาติยังไม่สามารถมีสิทธิเลือกตั้งตัวแทนบอร์ดประกันสังคมได้ ราว 1,500,000 คน จึงไม่มีหลักประกันว่าตัวแทนบอร์ดประกันสังคมจะสนใจความเดือดร้อนของกลุ่มแรงงานข้ามชาติ จึงเป็นโจทย์ที่ต้องออกแบบการมีส่วนร่วมและการจัดการสวัสดิการให้ครอบคลุมคนทุกกลุ่ม เพราะกลุ่มแรงงานข้ามชาติถือเป็นอีกกลุ่มแรงงานที่มีปริมาณมากในประเทศไทย

ความท้าทายอีกเรื่องคือการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย จะออกแบบระบบประกันสังคมอย่างไรให้สามารถจัดสวัสดิการดูแลผู้สูงวัยหลังวัยทำงานได้อย่างเพียงพอในอนาคต เพราะมีการคาดการณ์ว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจำนวนแรงงานระบบจะลดลงหลายล้านคน การปฏิรูประบบเงินสมทบ ให้ครอบคลุมและเป็นธรรมมากขึ้น หากในอนาคตแรงงานไทยจำนวนลดลง ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะมีจำนวนแรงงานข้ามชาติเพิ่มมากขึ้น ขอให้คำนึงถึงกรอบความหลากหลายของผู้ประกันตนที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย จึงเป็นหน้าที่ที่บอร์ดชุดใหม่นี้จะต้องออกแบบให้แรงงานข้ามชาติมามีส่วนร่วมในการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมครั้งหน้าด้วย

Related Posts

Send this to a friend