’จาตุรนต์‘ นำคณะ กมธ.วิสามัญสร้างสันติภาพชายแดนใต้ เข้าพบ รมว.ยุติธรรม
’จาตุรนต์‘ นำคณะ กมธ.วิสามัญสร้างสันติภาพชายแดนใต้ เข้าพบ รมว.ยุติธรรม เห็นควรเพิ่มบทบาท ก.ยุติธรรม ในคณะพูดคุยแก้ปัญหา และองค์กรบริหารจัดการสามจังหวัดชายแดนใต้
วันนี้ (15 พ.ย. 66) เวลา 12:00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม คณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาและเสนอแนวทางส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ สภาผู้แทนราษฎรเข้าหารือแลกเปลี่ยนความเห็นกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะผู้บริหารของกระทรวงฯ
ภายหลังการหารือ นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการ เปิดเผยว่า ในการหารือวันนี้ กมธ.ได้ซักถามแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ที่เป็นประโยชน์มากต่อการทำงาน เนื่องจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รับผิดชอบงานด้านยุติธรรมโดยตรง และเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในจังหวัดชายแดนใต้ ทั้งในฐานะข้าราชการกระทรวงยุติธรรม และเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต.
โดยประเด็นที่หารือ และได้ประโยชน์มาก คือเรื่องบทบาทของกระทรวงยุติธรรมในการเยียวยาผู้ที่ได้รับความเสียหาย และคุ้มครองประชาชนจากการคุกคามทำร้าย และความเสียหายที่อาจจะเกิดจากการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเราได้ฝากคำถามถึงกระบวนการยุติธรรมในช่วงเปลี่ยนผ่าน ที่เป็นประโยชน์ต่อการสร้างสันติภาพในชายแดนใต้ต่อไป
อีกทั้งในการประชุมแลกเปลี่ยนวันนี้ มีอดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ที่ขณะนี้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีร่วมอยู่ด้วย จึงได้หารือร่วมกันเกี่ยวกับการพูดคุยเพื่อสันติภาพที่เคยริเริ่มเมื่อปี 2556 ที่ทำให้เห็นศักยภาพในช่วงเวลานั้น โดยเห็นร่วมกันว่าควรจะหาทางให้การพูดคุยสันติภาพเกิดขึ้นอีก หรือเริ่มขึ้นใหม่ โดยจัดให้มีองค์กรที่รับผิดชอบให้เหมาะสม เพื่อให้การควบคุมนั้นมีประสิทธิภาพ และเกิดผลดีมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้พูดคุยกัน เกี่ยวกับองค์กรบริหารจัดการในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ที่มีความซับซ้อน และมีความเหลื่อมที่ไม่มีความชัดเจนในการบริหารจัดการ รวมถึงได้ฝากประเด็นให้กับทางรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ผู้บริหาร และ กรรมาธิการฯ ในการนำไปสู่หัวข้อที่จะใช้ศึกษา และหารือร่วมกันอีกครั้ง เพื่อทำเป็นข้อเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่า ในประเด็นการสร้างสันติภาพ และแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นหนึ่งในนโยบายของกระทรวงยุติธรรม พบว่าในการแก้ปัญหาที่ผ่านมา ก็มีคณะที่ส่งเสริมการพูดคุยเพื่อสันติภาพที่อยู่ภายใต้กระทรวงยุติธรรม เป็นหนึ่งในคณะที่ไปพูดคุยที่ประเทศมาเลเซียอีกด้วย
โดยส่วนหนึ่งของกระทรวงยุติธรรม ก็ได้สอบถามแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ในฐานะที่เคยร่วมกันมีบทบาทในการสร้างสันติภาพ และสอบถามในบทบาทของกระทรวงยุติธรรม ในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน ซึ่งยังไม่ได้ลงรายละเอียดมาก เพราะเราอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน แต่กระทรวงยุติธรรมกำลังจะเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมในบางประเด็น เช่น เรื่องที่ดิน ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ รวมทั้งการเยียวยา และการฟื้นฟูในช่วงการเปลี่ยนผ่านจากความขัดแย้ง ซึ่งเราจะต้องคืนความยุติธรรมให้กับประชาชน
อีกทั้ง จะต้องมีการไปตรวจสอบกระบวนการที่ไม่สอดคล้องกับหลักนิติธรรม และปรับบทบาทของหน่วยงานในอดีต ที่มองเรื่องความมั่นคงของรัฐ เหนือกว่าความมั่นคงของประชาชน ซึ่งเราอยากให้ความสุขของประชาชนกับความมั่นคงของรัฐเป็นเรื่องเดียวกัน ซึ่งกรรมาธิการก็ได้ถามในหลายๆ เรื่องที่นอกเหนือจากกระทรวงยุติธรรมจะตอบได้ เช่น จะยังมีคณะพูดคุยเพื่อสันติภาพอยู่หรือไม่
โดยในความเห็นส่วนตัว เห็นว่า กรรมาธิการชุดนี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่ง ถ้าผลการศึกษา และข้อเสนอแนะ อาจจะเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องการ เนื่องจากมีองค์ประกอบที่มีความสมบูรณ์ และหลากหลาย อย่างไรก็ตามการรักษาสันติภาพในสามจังหวัดชายแดนใต้ เป็นนโยบายของกระทรวงยุติธรรมที่จะต้องทำให้เป็นรูปธรรมให้เกิดขึ้น โดยจะเอาข้อมูลจากกรรมาธิการฯ ที่เสนอมา และนำข้อมูลจากประชาชนที่เรียกร้องมา เพื่อมาปรับให้เข้ากับนโยบายที่เราวางไว้ คือจะต้องเอาความยุติธรรมเข้าไปสู่ประชาชน เช่น การดำเนินคดีกับนักโทษเรื่องความมั่นคง ที่เอาออกจากพื้นที่ ทำให้เกิดการตัดขาดกับครอบครัว และยากลำบากในการเดินทางมาเยี่ยม จึงให้มีการพิจารณาทบทวน เพราะ เรือนจำในสามจังหวัดชายแดนใต้มีความมั่นคงอยู่แล้ว และจะต้องไม่เป็นภาระกับประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเจ้าหน้าที่รัฐ ว่าได้มีการกำหนดช่วงเวลาหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ในการประชุมวันนี้ยังไม่ได้ลงในรายละเอียด แต่ในส่วนของกระทรวงยุติธรรมได้มีคณะที่ลงไปดู ซึ่งศอ.บต. ได้เลขาฯ คนใหม่แล้ว และควรเป็นหน่วยงานที่พัฒนาในพื้นที่ ไม่ใช่เพิ่มความมั่นคงอีก โดยเรามีการเยียวยาด้านจิตใจ ตั้งแต่ปี2547 แต่ทางครอบครัวอยากได้เรื่องความยุติธรรม เช่นคดีตากใบ ซึ่งไม่ได้เป็นคดีพิเศษ แต่เราจะเร่งประสานงานกับตำรวจให้
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ในที่ประชุมหารือมีการพูดถึงเรื่องการยกเลิกกฎหมายพิเศษ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี เผยว่า ยังไม่ได้พูดคุยในประเด็นดังกล่าว เนื่องจากมีระยะเวลาน้อย แต่คณะกรรมาธิการก็จะตั้งเอพูดคุยในเรื่องนี้กับอีกหลายฝ่าย
นายจาตุรนต์ กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมาเราได้สอบถามกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องกฎหมายพิเศษเหล่านี้แล้ว และรับฟังความเห็นกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการใช้กฎหมายนี้ ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นหัวข้อที่เราจะนำไปศึกษาพิจารณาต่อไปเพื่อหาข้อสรุป โดยเมื่อวานนี้ได้ฝากกับหน่วยงานทีาเกี่ยวข้อง ให่ช่วยพิจารณาเรื่องนี้ต่อ และจะมีการหารืออีกครั้ง
ส่วนเรื่ององค์กรบริหาร และพูดคุยสันติภาพกับบทบาทของกระทรวงยุติธรรม เราเห็นตรงกันว่า องค์กรหรือคณะพูดคุยสันติภาพยังไม่มีความชัดเจน ควรจะปรับให้กระทัดรัด แต่ควรจะมีกระทรวงยุติธรรมอยู่ด้วย ส่วนองค์กรบริหารจัดการนั้น ขณะนี้ขาดคณะกรรมการขับเคลื่อนบูรณาการ เนื่องจากมีการเปลี่ยนรัฐบาล บางคำสั่งถูกยกเลิกไป จึงไม่มีระบบที่จะบูรณาการในการบริหารจัดการ ซึ่งถ้าจะมีขึ้นเราเห็นว่ากระทรวงยุติธรรม น่าจะไปเป็นมีส่วนสำคัญในองค์กรแบบนี้ ไม่ใช่องค์กรความมั่นคง หรือการเพิ่มบทบาทของกระทรวงยุติธรรมทั้งในคณะพูดคุย และองค์กรบริหารจัดการ
สำหรับ คณะกรรมการเจรจาพูดคุยเพื่อสันติภาพควรมีประเทศที่ 3 เข้าไปด้วยหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ยังไม่ได้แลกเปลี่ยนไปถึงขั้นได้ข้อสรุป เพราะรับฟังแค่ความเป็นมาของเรื่องนี้จากผู้ที่เคยทำเรื่องนี้ แต่ขั้นตอนจากนี้จะเป็นอย่างไร ก็ต้องรอฟังรัฐบาลโดยรวม และยังไม่ได้รับนโยบายจากทางรัฐบาล ซึ่งเราจะนำไปศึกษา และพูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องอีกหลายขั้นตอน โดยเราจะเชิญผู้ที่มีประสบการณ์ในการพูดคุยสันติภาพทุกคณะมาพูดคุยกัน













