WORLD

ทูตอิหร่าน เผยนายกฯ ปาเลสไตน์รับปากจะปล่อยตัวชาวไทย แต่ติดอิสราเอลโจมตีอย่างต่อเนื่อง

ทูตอิหร่าน เผยนายกฯ ปาเลสไตน์รับปากจะปล่อยตัวชาวไทย แต่ติดอิสราเอลโจมตีอย่างต่อเนื่องจนตัวประกันไม่ทราบสัญชาติเสียชีวิตแล้ว 9 ราย ถึงเวลารัฐบาลไทยกดดันยุติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ – ป้องปาเลสไตน์สู้เพื่อปลดแอกดินแดน ไม่ใช่ก่อการร้าย

วันนี้ (20 ต.ค. 66) นายซัยยิด เรซา โนบัคตี เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ประจำประเทศไทย แถลงข่าวเป็นภาษาอังกฤษต่อสื่อมวลชน ณ โรงแรม อัลมีรอซ เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร

นายซัยยิดแสดงความอาลัยต่อคนไทยที่เสียชีวิตทุกคน พร้อมทั้งระบุว่า ผู้เสียชีวิตในความขัดแย้งครั้งนี้นั้น ส่วนหนึ่งเป็นพลเรือนในฉนวนกาซาที่ถูกอิสราเอลโจมตี อย่างเหตุระเบิดล่าสุด ณ โรงพยาบาล อัล อาห์ลี อาหรับ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตนับร้อยคน

นายซัยยิด ยังกล่าวว่า ขณะนี้มีข่าวปลอมมากมายเกี่ยวกับปาเลสไตน์ แท้จริงแล้วปาเลสไตน์ครอบครองพื้นที่ดังกล่าวมาตั้งแต่สมัยประวัติศาสตร์จักรวรรดิออตโตมัน แต่เมื่ออังกฤษซึ่งเป็นฝ่ายสัมพันธมิตรชนะสงครามโลกครั้งที่สอง จนมีชาวยิวย้ายถิ่นเข้ามาในดินแดนนี้ กลับมีการไล่ล่า เข่นฆ่าชาวปาเลสไตน์ในท้องถิ่น ซึ่งไม่เป็นไปตามมติสหประชาชาติ

“บางคนบอกชาวปาเลสไตน์เป็นผู้ก่อการร้าย แต่ถ้าคุณลองดูประวัติศาสตร์ ไม่ต้องยาวไกลเลย อย่างสงครามเวียดนามที่สหรัฐอเมริกาบุกรุกเวียดนาม แล้วกลุ่มปลดแอกเพื่อชาติพยายามปลดแอกดินแดนของเขาเอง พวกเขาเป็นผู้ก่อการร้ายไหม? หรือชาวยูเครนที่ตะวันตกสนับสนุนในการต่อสู้กับรัสเซีย พวกเขาเป็นผู้ก่อการร้ายไหม? แม้แต่ในประเทศไทย ก็มีประวัติศาสตร์ที่ชาวพม่าที่มีพละกำลังมากกว่าก็บุกโจมตีไทย แล้ววีรบุรุษของไทยก็ประกาศอิสรภาพจากพม่า เขาเป็นผู้ก่อการร้ายไหม? ไม่เลย แต่ชาวปาเลสไตน์กำลังต่อสู้เพื่อดินแดนและบ้านของพวกเขา เพราะมันถูกยึดและทำลายไป ดังนั้น ชาวปาเลสไตน์ไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย”

ส่วนกรณีกลุ่มฮิชบอลเลาะห์ในประเทศเลบานอน ที่มีการอ้างว่าโจมตีเข้ามายังอิสราเอลนั้น นายซัยยิด ยังระบุว่า เป็นกลุ่มข่าวกรองอิสลาม ที่มีความขัดแย้งกับอิสราเอลแค่ในระดับที่จำกัดเท่านั้น ซึ่งขณะนี้พยายามที่จะไม่ให้มีผู้ได้รับผลกระทบ โดยการป้องกันไม่ให้อิสราเอลโจมตีเข้ามาทางเลบานอน แต่หากอิสราเอลเริ่มโจมตีฉนวนกาซาขึ้นมา กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ก็มีศักยภาพที่จะเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งพอจะตอบโต้อิสราเอลได้

สำหรับประเด็นการจับกุมและลักพาตัวชาวต่างชาติ รวมถึงชาวไทยในพื้นที่ความขัดแย้งนั้น นายซัยยิด ชี้แจงว่า เกิดขึ้นจากการที่ชาวปาเลสไตน์ต้องการยึดคืนผืนดินของปาเลสไตน์ที่อิสราเอลยึดครองไป ซึ่งในพื้นที่นั้นปรากฏว่ามีชาวต่างชาติอยู่ด้วย แต่เมื่ออิสราเอลยังคงโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตัวประกันกว่า 9 คนเสียชีวิต ฮามาสจึงยังพยายามนำพาตัวประกันไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัยที่สุด ปัจจุบันนี้ ชาวต่างชาติที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ทั้งชาวไทยและฟิลิปปินส์ อยู่ในเซฟเฮาส์ของปาเลสไตน์ โดยมีฮามาสดูแลอย่างดี

นายซัยยิด ยังเปิดเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ได้พบกับนายกรัฐมนตรีแห่งรัฐปาเลสไตน์ ณ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์แล้ว รัฐมนตรีฯ อิหร่าน ได้ร้องขอนายกฯ ปาเลสไตน์ ให้มีการปล่อยตัวประกันทั้งชาวฟิลิปปินส์และชาวไทย โดยระบุว่า ชาวไทยนั้นล้วนเป็นพี่น้องที่มีความสัมพันธ์กันมายาวนานนับร้อยปี ซึ่งนายกฯ ปาเลสไตน์รับปากจะปล่อยตัว และจะทำอย่างเต็มที่ แต่สาเหตุที่ยังไม่สามารถส่งตัวกลับไป เพราะสภาวะอันตรายมาก เนื่องจากอิสราเอลยังทิ้งระเบิดอย่างไม่เลือกปฏิบัติ

ส่วนแนวโน้มของสงคราม นายซัยยิด มองว่าหากอิสราเอลสังหารคนไปเรื่อย ๆ แล้วมีบางประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องสนับสนุน สงครามอาจขยายตัวไปอย่างมาก เราหวังว่าอิสราเอลจะหยุดการสังหารหมู่ และอาชญากรรมสงคราม เพื่อที่เราจะได้จัดการแลกเปลี่ยนตัวประกัน เรายังคงรอการปล่อยตัวประกันชาวปาเลสไตน์ ที่เป็นพลเรือนผู้บริสุทธิ์ ทั้งผู้หญิง และเด็กกว่า 6,000 คนในอิสราเอล

นายซัยยิด ยังกล่าวถึงความเป็นไปได้ในการเจรจาว่า แม้อิสราเอลจะพูดถึงการเจรจา แต่ในขณะเดียวกันอิสราเอลก็ยังยิงถล่มใส่ผู้คนอยู่ จึงเป็นสองมาตรฐาน ทั้งที่สถานการณ์นี้ควรให้มานั่งด้วยกัน เพื่อปล่อยตัวประกันต่อไป แต่อิสราเอลกลับไม่คิดและไม่นั่งเจรจา มองเพียงว่าการถล่มสังหารจะแก้ปัญหาได้ นี่ทำให้สถานการณ์ซับซ้อนมาก หวังว่าในอนาคตอิสราเอลจะร่วมโต๊ะเจรจาและคลายปมปัญหาด้วยกัน

นายซัยยิดยังกล่าวขอบคุณรัฐบาลไทย ที่ได้แสดงจุดยืนความเป็นกลางในความขัดแย้งครั้งนี้ ทั้งยังมองว่า รัฐบาลไทยพยายามทำอย่างเต็มที่ ในการเจรจากับรัฐบาลอิหร่าน รัฐบาลกาตาร์ และรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย เป็นต้น เพื่อพาพลเรือนไทยกลับมาจากอิสราเอล แต่อย่างที่เรียนไปว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของอิสราเอล ที่ควรจะหยุดยิงถล่มพลเรือนผู้บริสุทธิ์ได้แล้ว

“นี่เป็นเวลาสำหรับรัฐบาลไทย และผู้คนในโลกใบนี้ ในการผลักดันให้รัฐบาลอิสราเอลยุติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เพื่อให้ตัวประกันสามารถกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย … พวกเราหวังให้ประชาคมระหว่างประเทศผลักดันให้อิสราเอลยุติการยิงถล่มผู้บริสุทธิ์ เพื่อจะได้เห็นการปล่อยตัวประกัน ซึ่งเป็นพี่น้องของเรา ทั้งชาวไทยและชาวฟิลิปปินส์” เอกอัครราชทูตอิหร่าน ประจำประเทศไทย กล่าว

Related Posts

Send this to a friend