เริ่มประชุมระดับรัฐมนตรีเอเปคแบบเต็มคณะ ‘ดอน’ มองผู้นำเอเปคต้องเปลี่ยนมายด์เซ็ตเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ

เริ่มประชุมระดับรัฐมนตรีเอเปคแบบเต็มคณะ เช้านี้ ‘ดอน’ กล่าวเปิด ลั่นทั้งโลกรออยู่ มองผู้นำเอเปคต้องเปลี่ยนมายด์เซ็ตเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ‘จุรินทร์’ หวังผลลัพธ์วันนี้ช่วยพัฒนากรอบเอเปคในอนาคต สอดรับกับหัวข้อหลักของไทยที่เป็นเจ้าภาพ
วันนี้ (17 พ.ย. 65) นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานร่วม ในการประชุมรัฐมนตรีเอเปคแบบเต็มคณะ ครั้งที่ 33 ซึ่งเป็นการประชุมร่วมระหว่างรัฐมนตรีด้านการต่างประเทศ กับรัฐมนตรีด้านการค้าของทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจ โดยมีพิธีเปิดการประชุมในเวลา 09:00 น.
นายดอน กล่าวเปิดการประชุมเป็นภาษาอังกฤษว่า ผมมีความยินดีในการต้อนรับทุกท่านสู่การประชุมรัฐมนตรีเอเปคแบบเต็มคณะ ครั้งที่ 33 การที่เรารวมกันวันนี้เป็นการพบหน้ากันครั้งแรกในรอบ 4 ปี และเป็นการแสดงให้เห็นว่า ท้ายที่สุดมนุษยชาติก็มิอาจจำนนต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กระทบในหลากหลายมิติที่ผ่านมา นอกจากนี้ การเข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ก็เปิดโอกาสให้เราทบทวนถึงยุทธศาสตร์การเติบโต ทั้งแนวคิดการรักษาเสถียรภาพ ให้ครอบคลุม และสมดุลมากขึ้น
“ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กระตุ้นให้เหล่าผู้นำร่วมแสวงหาทางออกทางเศรษฐกิจที่เป็นไปได้และดีกว่านี้ ซึ่งต้องประกอบด้วยการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และแนวคิดใหม่ (Mindset) มิใช่การเลือกธำรงรักษาโครงสร้างสถานะเดิม … การประชุมเอเปคจะต้องผงาดเหนืออุปสรรคทั้งปวง และนำพาความหวังสู่โลกทั้งใบ ผ่านการร่วมมือกันที่เราจะเจริญรุ่งเรือง เอาชนะหายนะที่ย้ำเตือนให้เราต้องแสวงหาหนทางฟื้นฟูเศรษฐกิจและการค้า เพราะเป้าหมายทางเศรษฐกิจนั้นสามารถบรรลุได้ แม้จะมีความแตกต่างทางการเมืองและความมั่นคงก็ตาม จึงถึงเวลาแล้วที่เราจะเริ่มลงมือและทำให้สำเร็จกัน เมื่อทั้งโลกกำลังรออยู่” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว
ด้าน นายจุรินทร์ กล่าวต้อนรับเหล่ารัฐมนตรีเอเปคเป็นภาษาไทยว่า ประเทศไทยมีความยินดีที่ได้รับโอกาสเป็นเจ้าภาพในรูปแบบกายภาพอีกครั้งหนึ่ง สำหรับการประชุมครั้งนี้โดยเฉพาะในหัวข้อการค้าและการลงทุน จะเป็นการเปิดโอกาสให้รัฐมนตรีเอเปคร่วมกันติดตามผลการดำเนินงานของเอเปคที่ผ่านมาตลอดทั้งปี และที่สำคัญคือ การร่วมกันกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนงานของเอเปคที่รองรับสถานการณ์การค้าโลกในปัจจุบัน โดยให้ความสำคัญกับทุกภาคส่วน ส่งเสริมทั้งทางด้านการค้า การลงทุน ที่เปิดกว้าง ยั่งยืน มีพลวัตร และมีความเชื่อมโยงกัน
สำหรับการเป็นเจ้าภาพของประเทศไทยครั้งนี้นั้น ไทยได้กำหนดหัวข้อหลักของการประชุม นั่นคือ OPEN CONNECT และ BALANCE ซึ่งประเทศไทยได้ขับเคลื่อนผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมมาตลอดทั้ง 3 ประเด็น
OPEN คือการเปิดกว้างไปสู่ทุกโอกาส ทั้งทางด้านการค้า การลงทุน รวมถึงส่งเสริมการรวมตัวทางเศรษฐกิจ และการขับเคลื่อนการจัดทำ FTAAP โดยที่ประขุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค เมื่อเดือนพฤษภาคมปีนี้ ที่ผมได้รับเกียรติทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้แสดงบทบาทการสนับสนุนการค้าแบบพหุภาคีและบทบาทขององค์การการค้าโลก และการประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้าโลกเมื่อเดือนมิถุนายนปีนี้ที่สมาพันธรัฐสวิส ก็ประสบความสำเร็จตามที่คาดหวังไว้
“ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผลลัพธ์จากการประชุมรัฐมนตรีเอเปคในปีนี้ จะนำไปสู่ข้อเสนอแนะสำหรับการพัฒนาการทำงานในเอเปค ที่สอดรับกับหัวข้อหลักการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยในปีนี้ ซึ่งก็คือ OPEN CONNECT BALANCE จึงขอให้ทุกท่านใช้โอกาสนี้ดำเนินการให้เอเปคให้คืบหน้าอย่างต่อเนื่อง และส่งต่อให้กับที่ประชุมระดับผู้นำปีนี้ต่อไป” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
สำหรับประเด็นหารือในการประชุมรัฐมนตรีเอเปคแบบเต็มคณะในวันนี้ ประกอบด้วย
ช่วงที่ 1 “การเติบโตอย่างสมดุล ครอบคลุม และยั่งยืน” (Balanced, Inclusive and Sustainable Growth) จัดขึ้นในช่วงเช้า
ช่วงที่ 2 “การค้าและการลงทุนที่เปิดกว้างและยั่งยืน” (Open and Sustainable Trade and Investment) จัดขึ้นในช่วงบ่าย
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในเวลา 17:45 น. จะมีการแถลงข่าวผลการประชุมรัฐมนตรีเอเปคแบบเต็มคณะ ภายหลังจากการประชุมเสร็จสิ้น ติดตามได้ที่ The Reporters สดจากศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
เรื่อง : ณัฐนนท์ เจริญชัย
ภาพ : พุฒิพงศ์ ธัญญพันธุ์