‘ท่าอากาศยานไทย’ เตรียมเปิดใช้ “อาคาร SAT-1” แบบ Soft Opening 28 ก.ย. นี้

วันนี้ (25 ก.ย. 66) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ The Reporters พาชม อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 หรือ อาคาร SAT-1 ที่สร้างขึ้นเพื่อขยายศักยภาพท่าอากาศยานให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้บริการซึ่งเป็นแผนงานที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้ความสำคัญ และเร่งรัดดำเนินงานให้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม และรัฐบาล

อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 หรือ อาคาร SAT-1 เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 โดยมีพื้นที่ใช้สอยภายในอาคาร 251,400 ตารางเมตร และพื้นที่ลานจอดอากาศยานรวมกว่า 260,000 ตารางเมตร ซึ่งช่วยเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในการรองรับผู้โดยสารได้จากเดิม 45 ล้านคนต่อปีเป็น 60 ล้านคนต่อปี โดยจะเปิดใช้ แบบ Soft Opening ในวันที่ 28 ก.ย. นี้

สำหรับตัวอาคาร SAT-1 ได้รับการออกแบบงานสถาปัตยกรรมให้สอดคล้องกับอาคารผู้โดยสารหลัก หรือ Main Terminal โดยใช้การก่อสร้างเป็นระบบ Modular ที่ก่อสร้างได้รวดเร็วและใช้วัสดุที่ดูแลรักษาได้ง่าย คำนึงถึงการออกแบบอาคารที่ยั่งยืน สนับสนุนการประหยัดพลังงาน โดยเน้นการใช้แสงจากธรรมชาติ มีความสูง 4 ชั้น และมีชั้นใต้ดิน 2 ชั้น ประกอบด้วย ชั้น B2 เป็นพื้นที่สำหรับสถานีขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ Automated People Mover Station หรือ APM Station, ชั้น B1 เป็นพื้นที่ห้องงานระบบ, ชั้น G เป็นพื้นที่สำหรับระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าสัมภาระ และพื้นที่สำนักงาน, ชั้น 2 เป็นพื้นที่สำหรับผู้โดยสารขาเข้า รวมทั้งพื้นที่สำหรับผู้โดยสารเชื่อมต่อเที่ยวบิน, ชั้น 3 เป็นพื้นที่สำหรับผู้โดยสารขาออก มีพื้นที่พักคอยสำหรับผู้โดยสารรอขึ้นเครื่องเป็นแบบ Open Gate และมีพื้นที่ร้านค้าตลอดแนวทางเดิน และชั้น 4 เป็นพื้นที่สำหรับห้องรับรองพิเศษผู้โดยสาร ห้องรับรองของสายการบิน และอื่น ๆ

โดยอาคาร SAT-1 เชื่อมต่อกับ Main Terminal ด้วยอุโมงค์ใต้ดินระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งภายในอุโมงค์ประกอบไปด้วย ระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ หรือรถไฟฟ้า APM, ระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า และถนนให้บริการเขตการบิน โดยรถไฟฟ้า APM เป็นระบบล้อยางแบบไร้คนขับซึ่งทำหน้าที่ขนส่งผู้โดยสารระหว่างอาคารผู้โดยสารหลัก และอาคาร SAT – 1 ซึ่งใช้เวลาในการรอรถไฟฟ้า และเวลาโดยสารประมาณ 3 นาที และสามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 210 คนต่อขบวน

สำหรับการตกแต่งภายในของอาคาร SAT-1 มีการออกแบบสถาปัตยกรรมให้สอดคล้องกับ Main Terminal โดยผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรม ศิลปะที่สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทย ให้กลมกลืนไปกับโครงสร้างอาคารที่ทันสมัย โดยมีผลงานการตกแต่งชิ้นเอกเป็นช้างหิมพานต์ รวมทั้งมีการตกแต่งสวนด้วยสัตว์ หิมพานต์ ตามคติความเชื่อไทยโบราณ อาทิ กินนร, กินรี, เหมราช และหงส์สา และมีการติดตั้งบุษบกไม้ปิดทอง และบุษบกแก้ว ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานองค์พระพุทธปฏิมา ปางเปิดโลก และ ปางมารวิชัย โดยถอดแบบมาจากวัดผาซ่อนแก้ว ฯลฯ

ปัจจุบันอาคาร SAT-1 ได้ผ่านการทดลองปฏิบัติการความพร้อมทั้งระบบ ตั้งแต่การให้บริการลานจอดอากาศยานประชิดอาคาร ทางขับเชื่อม และถนนเชื่อมต่อ รวมถึงงานภายในอาคาร งานระบบสาธารณูปโภค ระบบรถไฟฟ้า APM งานระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระ ความต่อเนื่องของการให้บริการ ตลอดจนการตรวจสอบความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล โดยหน่วยงานควบคุมและกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง จึงมีความพร้อมที่จะเปิดให้บริการอาคาร SAT-1 เพื่อสนับสนุนศักยภาพของอาคารผู้โดยสารหลักให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเมื่อเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ จะเกิดประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน ทั้งผู้ใช้บริการและอุตสาหกรรมการบิน ร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

ทั้งนี้ การเปิดให้บริการแบบ Soft Opening ในวันที่ 28 ก.ย. นั้น เป็นวันเดียวกันกับวันที่มีการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อปี 2547 อีกด้วย