‘วันนอร์’ เผย รอรัฐบาลประสานถก วัน-เวลา แถลงนโยบาย

‘วันนอร์’ เผย รอรัฐบาลประสานถก วัน-เวลา แถลงนโยบาย ต้องถวายสัตย์ฯก่อน เชื่อ โควต้า กมธ. 35 คณะไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องใครเป็นผู้นำฝ่ายค้านต้องรอพรรคการเมืองพร้อม

วันนี้ (31 ส.ค. 66) ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการเตรียมการแถลงนโยบายรัฐบาลใหม่ โดยระบุว่า วันและเวลาที่จะแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาเป็นเรื่องของรัฐบาล ซึ่งถ้าสภาได้รับเรื่องจากรัฐบาลแล้วจะนัดประชุมวิปทั้ง3 ฝ่าย เพื่อตกลงวันและเวลาที่มีความพร้อมที่สุด ซึ่งคิดว่าจะเป็นเร็วๆ นี้ แต่เบื้องต้นทางรัฐบาลยังไม่ประสานมาว่าจะแถลงเมื่อใด เนื่องจากต้องนำคณะรัฐมนตรี(ครม.)ชุดใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ ก่อนถึงจะแจ้งมายังสภาได้ ทั้งนี้ยืนยันว่าสภามีความพร้อมตลอดเวลา

ส่วนการจัดสรรโควตาคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญ ทั้ง 35 คณะ ประธานสภาผู้แทนราษฎรระบุว่า นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่2 รับผิดชอบเรื่องนี้อยู่ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กอง กมธ.ได้เสนอไปยังนายพิเชษฐ์แล้วว่าพรรคการเมืองใดจะได้สัดส่วนเป็นกมธ.กี่คน และจำนวนของพรรคการเมืองที่จะได้ประธานกมธ. มีกี่คณะ ทั้งนี้สิ่งที่ต้องพูดคุยกันคือเมื่อได้สัดส่วนแล้วต้องตกลงว่าใครจะอยู่คณะ กมธ.ใดใน 35 คณะ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน โดยวันนี้ (31 ส.ค. 66) เวลา 13.30 น. หัวหน้าพรรคการเมืองจะประชุมกันเพื่อรับทราบจำนวน สส.ที่จะไปเป็น กมธ. จากนั้นหัวหน้าพรรคจะไปแจ้งสมาชิก แล้วยื่นกลับมายังสภา

ขณะเดียวกันฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านต้องตกลงกันว่าพรรคใดจะได้ตำแหน่งประธานคณะใด เพราะหากปล่อยให้โหวตกันภายในคณะ กมธ.ด้วยกันเอง พรรคที่มี สส.จำนวนมากก็จะได้เป็นประธาน กมธ.ไป ซึ่งมีแนวปฏิบัติมีอยู่แล้วว่า ฝ่ายค้านได้กี่คณะ และควรได้เป็นประธานคณะใดตามอำนาจหน้าที่ที่ควรจะเป็น ฝ่ายรัฐบาลก็เช่นกัน

นายวันมูหะมัดนอร์ ยังกล่าวถึง ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ว่าหลังจากที่ได้รัฐบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางสภาจะทาบทามไปยังพรรคที่ ไม่ได้ร่วมรัฐบาลและไม่มีตำแหน่งประธาน รองประธานสภา ว่าพรรคใดประสงค์จะเป็นผู้นำฝ่ายค้าน แล้วจึงกราบบังคมทูลแต่งตั้งต่อไป ส่วนหากนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ไม่ลาออกจากตำแหน่ง ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านก็จะต้องเป็นของพรรคลำดับถัดไป และหากพรรคนั้นไม่เรียบร้อยก็ต้องรอ ส่วนระยะเวลาขึ้นอยู่กับความพร้อมของพรรคที่อยู่ในฝ่ายค้าน และมีสัดส่วนที่เป็นผู้นำฝ่ายค้านได้ ส่วนจะใช้เวลารอนานเพียงใด ต้องรอจนกว่าพรรคนั้นๆจะพร้อม เพราะเป็นภาระของสภาฯที่จะต้องให้มีผู้นำฝ่ายค้าน ไม่เช่นนั้นจะขาดสัดส่วนการพิจารณาเรื่องต่างๆ