พ่อเหยื่อซ้อมทรมานขอบคุณ ‘ชวน’ ดันกฎหมายซ้อมทรมาน-อุ้มหาย สำเร็จ
วันนี้ (31 ส.ค. 65) นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร มอบหมายให้ น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร ผู้ช่วยเลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร รับมอบหนังสือขอขอบพระคุณที่ผลักดันร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. … จาก นายสมศักดิ์ ชื่นจิตร ตัวแทนผู้เสียหายจากการทรมานและการกระทำให้สูญหาย และคณะจำนวนกว่า 10 คน
โดยนายสมศักดิ์ ชื่นจิตร ได้บรรยายในจดหมายว่า ตนอายุ 60 ปี อาชีพค้าขาย อยู่ จ.ปราจีนบุรี มีบุตรชายชื่อ นายฤทธิรงค์ ชื่นจิตร ในปี 2552 บุตรชายของตนได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธร จ.ปราจีนบุรีควบคุมตัวไปทำร้ายร่างกาย ซ้อมทรมานโดยใช้ถุงขยะสีดำคลุมศีรษะไม่ให้มีอากาศหายใจ เพื่อต้องการให้นายฤทธิรงค์ ยอมรับสารภาพว่าไปชิงทรัพย์ของผู้อื่นมา ซึ่งในขณะนั้นบุตรชาย อายุ 18 ปี เป็นเด็กนักเรียนศึกษาอยู่ชั้น ม.6 แต่สุดท้ายบุตรชายไม่ถึงแก่ชีวิตดังเช่นคดีที่ สภ.นครสวรรค์ เนื่องจากบุตรชายของตนได้ใช้อุบายแกล้งยอมรับสารภาพแล้วนำตำรวจที่ทำร้ายออกไปหาของกลางภายนอก และร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านจึงรอดชีวิตมาได้ ต่อมาบุตรชายได้ร้องทุกข์กล่าวโทษกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว แต่สุดท้าย บุตรชายก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอันพึงมีมิได้แต่อย่างใด โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบทั้งหมดสั่งยุติเรื่อง จนบุตรชายต้องดำเนินการฟ้องต่อศาลด้วยตนเอง 13 ปี ที่ครอบครัวของตน ต้องต่อสู้กับผู้มีอำนาจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยการกระทำมิได้ต่างกับการก่ออาชญากรรมแฝงในเครื่องแบบ โดยมีอาวุธที่เป็นความชอบธรรมอยู่ในมือ คือ กฎหมาย
ทั้งนี้ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 65 สภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบผ่านร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการซ้อมทรมานและบังคับสูญหาย พ.ศ. …. และจะมีการประกาศเป็นกฎหมายต่อไป โดยกฎหมายดังกล่าวนี้จะให้ความเท่าเทียมกัน เป็นประโยชน์ และคุณอนันต์ต่อประชาชนทั่วไปอย่างที่สุด ซึ่งครอบครัว “ชื่นจิตร“ ได้ต่อสู้เรียกร้องให้มีกฎหมายดังกล่าวมาตลอด 13 ปี ที่บุตรชายได้ถูกกระทำโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธร จ.ปราจีนบุรี เมื่อปี 2552 ด้วยการทำร้ายกระทำโดยการ “ทรมาน“ เพื่อให้ได้มาซึ่งคำสารภาพว่าบุตรชายของตนไปชิงทรัพย์ของผู้อื่น
ซึ่งในวันที่ 24 ส.ค. 65 สภาผู้แทนราษฎร ได้มอบสิ่งที่ดี เป็นหลักประกันความเป็นธรรมทั่วหน้าให้แก่ประชาชน เพื่อปกป้องสิทธิ์มิให้ผู้ใดถูกละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ได้ง่าย โดยการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐที่ลุแก่อำนาจกระทำโดยที่มิชอบด้วยกฎหมาย
ในฐานะที่เป็นเหยื่อผู้หนึ่งที่ถูกกระทำจากเจ้าหน้าที่รัฐ จึงขอขอบคุณในสิ่งที่ดี ๆ ที่ทางสภาผู้แทนราษฎรผู้ทรงเกียรติได้มีมติส่งมอบกฎหมาย พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการซ้อมทรมานและบังคับสูญหาย พ.ศ. …. ให้กับประชาชนตาดำ ๆ ที่มีต้นทุนชีวิตที่น้อยนิด และไม่มีหนทางจะไปต่อสู้กับอำนาจที่มิชอบใด ๆ ทั้งสิ้น โดยต้องตกเป็น “แพะ“ ทั้งที่เป็นผู้บริสุทธิ์