POLITICS

‘พิพัฒน์’ ชี้ กรณีรถตำรวจนำ นทท.ต่างชาติ ทำโดยพลการ ไม่ได้ขออนุญาต

‘พิพัฒน์’ ชี้ กรณีรถตำรวจนำ นทท.ต่างชาติ ทำโดยพลการ ไม่ได้ขออนุญาต ส่วนกรณีขายบัตรพริวิลเลจคาร์ดเกินราคา ไม่สามารถคุมได้เพราะเกิดต่างประเทศ ยันไม่มีโปรโมชันเสริม ทำบัตรปชช. ประสาน สตช.ตรวจสอบแล้ว

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่างถึงกรณีตำรวจท่องเที่ยวไปให้บริการนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงในช่องทางพิเศษที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมมีรถตำรวจนำขบวน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่เพียง 2 คนที่ไปกระทำการโดยพลการ ไม่ได้ขออนุญาตจากกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว

การที่ตำรวจท่องเที่ยวจะให้บริการกับนักท่องเที่ยวได้สามารถทำได้ในลักษณะเป็นกลุ่ม 4-5 คน เช่น กรณีเป็นแขกของรัฐบาล เป็นบุคคลสำคัญที่เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย เป็นผู้นำรัฐบาลที่เข้ามาเป็นการส่วนตัว เป็นราชวงศ์ของประเทศต่างๆ ที่เดินทางเข้าประเทศไทย หรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเป็นกลุ่มใหญ่ หรือกลุ่มรถเล็กมาในลักษณะการแรลลี่ หากต้องการอำนวยความสะดวกหรือดูแลเรื่องความปลอดภัยสามารถแจ้งมาที่กระทรวงการท่องเที่ยว หรือกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้

ส่วนกรณีบัตรไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด ที่มีบริษัททัวร์หรือบริษัทนายหน้านำไปขายเกินราคา นายพิพัฒน์มองเป็นเรื่องการตลาดที่ไม่สามารถควบคุมได้เพราะเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในต่างประเทศ ซึ่งบัตรนี้จะมี 7-8 บัตร และมีวงเงินในบัตรที่จะสามารถจองที่นั่งพิเศษและมีเจ้าหน้าที่เข้าไปรับแล้วนำเข้าช่องทางพิเศษ และให้การบริการในการส่งถึงหน้าประตูทางออก แต่หากต้องการให้มีรถรับส่งก็จะคิดค่าบริการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ

ยืนยันว่าการที่มีบริษัททัวร์ไปขายเกินราคา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ไม่สามารถจะรับผิดชอบในสิ่งเหล่านั้นได้ ซึ่งประเทศไทยมีการมอบบัตรพิเศษให้กับบุคคลที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ รวมถึงทำประโยชน์ให้ประเทศไทย เช่น กรณี ‘หมีเซียะ’ นักแสดงชื่อดังมาร่วมโปรโมทการท่องเที่ยว

ส่วนกรณีมีการโฆษณาเกินจริง ว่ามีโปรโมชันเสริมสามารถทำบัตรประชาชนได้ ในบัตรไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ดนั้น ทาง ททท. และบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ได้ประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการตรวจสอบ หากเกิดเหตุการณ์นี้จริง จะให้ตำรวจเข้าไปสืบสวนสอบสวนบริษัททัวร์ที่โฆษณาแบบนั้นว่ากระทำเกินจริงหรือไม่ ซึ่งหลักเกณฑ์ของบัตรไม่มีการโฆษณาเกินจริง เนื่องจากมีอัตราค่าใช้บริการที่แน่นอนและมีราคาที่สูง

ส่วนกรณีเน็ตไอดอลใต้หวันครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทยนั้น นายพิพัฒน์ย้ำว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทย ดังนั้นใครที่พกพา หรือนำเข้ามาในประเทศไทยถือว่าผิดกฎหมายประเทศไทย แต่การเจอนักท่องเที่ยวสูบเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจะจับปรับได้ จะต้องนำส่งศาลอย่างเดียว

Related Posts

Send this to a friend