POLITICS

‘สุทิน’ เผย พร้อมสนับสนุนกองทัพซื้อเครื่องบิน หากจำเป็น

‘สุทิน’ เผย พร้อมสนับสนุนกองทัพซื้อเครื่องบิน หากจำเป็น กำชับเงินงบประมาณปี 67 ต้องใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด ตั้ง ‘จิรายุ’ นั่งโฆษกกลาโหม หวังงัดฝีปากกับ ‘วิโรจน์-รังสิมันต์’

วันนี้ ( 30 พ.ย. 66) เวลา 12.30 น. นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดการแข่งขันการปฏิบัติทางอากาศยุทธวิธี ประจำปี 2567 และการสาธิตการฝึกยุทธวิธีทางอากาศ ณ สนามฝึกใช้อาวุธชัยบาดาล จ.ลพบุรี

นายสุทิน ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวหลังดูการปฏิบัติการยุทธวิธีเสร็จสิ้นว่า ได้ข้อคิดอยู่หลายเรื่อง ประการแรก คือ เกิดความเชื่อมั่นในศักยภาพของกองทัพและอยากให้ประชาชนที่ไม่เคยเห็นการฝึกได้มีโอกาสมาเห็น เนื่องจากได้เห็นการทิ้งระเบิดที่แม่นยำมาก ซึ่งสวนทางกับสภาพอากาศที่มีลมแรงในวันนี้ เห็นถึงสมรรถนะและเกิดความเชื่อมั่นของกองทัพอากาศ ได้เห็นและได้ข้อมูลเกี่ยวกับในฝูงบินและเครื่องบินหลายลำนำมาประยุกต์ แต่ได้มีความพยายามที่จะซ่อมบำรุงขึ้นมาใหม่ และนำมาใช้ได้ใหม่ เห็นได้ถึงการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และเห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมของไทย

จึงเห็นว่าอุตสาหกรรมในประเทศไทยมีคุณภาพสูง ทั้งนี้จากที่ตนเองทราบข้อมูลเครื่องบินฝูง T-6 เป็นเครื่องบินประกอบในประเทศไทย และทดลองขับ-ฝึกในไทย ทำให้เกิดข้อคิดว่า นอกจากความเชื่อมั่นในศักยภาพของกองทัพ ตนเองก็เชื่อมั่นในอุตสาหกรรมป้องกันในประเทศของไทย เราเชื่อมั่นว่าจะส่งเสริมให้อุตสาหกรรมป้องกันประเทศขึ้นมาเป็นอุตสาหกรรมอีกอันหนึ่ง ที่นอกจากประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว สามารถนำเงินเข้าสู่ประเทศได้ เพื่อช่วยทางรัฐบาลและรายได้ด้านอื่นๆ เข้าสู่ประเทศ

ส่วนการซ่อมบำรุงของกองทัพอากาศ จะใช้ได้ไม่นาน เห็นด้วยกับการที่กองทัพประกาศเสนอจัดซื้อเครื่องบินใหม่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า บางอย่างสามารถซ่อมหรือปรับได้ในระดับหนึ่ง แต่ที่จริงต้องมีเครื่องใหม่เข้ามาทดแทน แต่ดีว่าเราไม่ได้มีการซื้อใหม่ทันที และพยายามใช้ของเก่าที่ปรับ เมื่อปรับไปแล้วก็ต้องหมดอายุ และมีวันสิ้นสุดของการปรับ ฉะนั้นจึงหนีไม่พ้นการซื้อใหม่ ก็เหมือนอย่างที่ตนเองเคยพูด “ซื้อเท่าที่จำเป็น” แต่ตนเองเห็นด้วยที่กองทัพอากาศ เสนอให้มีการซื้อใหม่ และเห็นด้วยที่จะนำรายการต่างๆที่จะซื้อเข้าสู่กรรมการคุณธรรมที่จะดู ซึ่งกรรมการชุดนี้เป็นบุคคลภายนอก ที่จะเข้ามาดูว่าการซื้อมีความจำเป็นจริงหรือไม่ ตามนโยบายที่ทางกระทรวงและรัฐบาลพูดไว้ และมีอย่างอื่นทดแทนได้หรือไม่ รวมไปถึงการใช้งบประมาณที่คุ้มค่าตั้งแต่อดีต หากซื้อในกรอบของหลักคิดนี้ ก็สามารถอธิบายสังคมได้

ในส่วนการเตรียมชี้แจงงบประมาณที่เข้าแล้ว จะกำชับอะไรหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า กำชับให้อธิบายให้ได้ว่าจำเป็นยังไง และจะนำงบประมาณไปใช้ให้คุ้มค่าอย่างไร การซื้อ-การจ้างโปร่งใสอย่างไร ซึ่งกองทัพต้องมีการชี้แจงรายละเอียดให้ชัดเจน เพื่อให้เห็นถึงความโปร่งใส

ส่วนกรณีคนไทยที่กลับจากอิสราเอล ได้มีการฝากผู้บัญชาการทหารสูงสุดดูแลอย่างไรบ้าง นายสุทิน กล่าวว่า หลังเดินทางกลับมาแล้ว เป็นเรื่องของกระทรวงแรงงานและกระทรวงอื่นที่ต้องเข้าไปดูแล แต่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ทางกองบัญชาการกองทัพไทยเป็นผู้ไปนำคนไทยกลับมาจากอิสราเอล เมื่อกลับมาแล้วกระทรวงอื่นต้องรับผิดชอบต่อ

ด้านประเด็นการแต่งตั้ง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ขึ้นมาเป็นโฆษกกลาโหมฝ่ายการเมือง นายสุทิน กล่าวว่า ในงานกลาโหมยุคนี้จะมีประเด็นการเมืองเยอะ ฉะนั้นโฆษกประจำที่เป็นข้าราชการ คงไม่ถนัดพูดเรื่องการเมือง หรือไปตอบโต้นักการเมือง ซึ่งเราเห็นใจโฆษกของข้าราชการ และคิดว่า น่าจะมีโฆษกที่สามารถพูดเรื่องการเมืองได้อย่างไร้ข้อจำกัด จึงคิดว่า นายจิรายุ น่าจะเหมาะ ซึ่งเมื่อมาคุยกับ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล หรือคุยกับ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล น่าจะมีความสมน้ำสมเนื้อกัน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าประเมินแล้วใช่หรือไม่ว่าปีหน้ากระทรวงกลาโหม อาจจะต้องรับมือหนักในเรื่องการชี้แจงงบประมาณและเรื่องการซักฟอก นายสุทิน ตอบว่า ก็มีส่วนถูก อีกอย่าง คือ สถานการณ์ของโลกวันนี้เป็นสถานการณ์ที่ไม่มีใครยืนยันได้ว่า เรื่องความสงบและภัยสงครามจะมาถึงเมื่อไหร่

“หากภัยสงครามมาตัวพระเอกก็คือกระทรวงกลาโหม ประเด็นก็จะเกิดกับกลาโหมเยอะ ฉะนั้น การพูดคุยการอธิบายมันก็ต้องเยอะ คนก็ต้องพร้อม” นายสุทิน กล่าว

Related Posts

Send this to a friend