นายกฯ หารือทวิภาคีกับ ปธน.เกาหลีใต้ ระหว่างการประชุมผู้นำเอเปค ถกความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ
นายกรัฐมนตรี หารือทวิภาคีกับ ปธน.เกาหลีใต้ ระหว่างการประชุมผู้นำเอเปค ถกความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ – พิจารณาเพิ่มแรงงานถูกกฎหมายทำงานในเกาหลี และดูแลปัญหานักท่องเที่ยวถูกปฏิเสธเข้าเมือง พร้อมสนับสนุนบทบาทของเกาหลีใต้ในฐานะคู่เจรจาของอาเซียน ย้ำความสัมพันธ์ใกล้ชิด และเชิญเยือนไทยอย่างเป็นทางการ
วันนี้ (29 ต.ค. 68) เวลา 15:40 น. (ตามเวลาท้องถิ่นเมืองคยองจู ซึ่งเร็วกว่ากรุงเทพฯ 2 ชั่วโมง) ที่ห้องหารือทวิภาคี ศูนย์ประชุม Hwabaek International Convention (HICO) เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้พบหารือทวิภาคีกับ นายอี แช มย็อง ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ระหว่างการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค
ในการหารือครั้งนี้ ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่ให้เกียรติเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมเอเปค ซึ่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยังซาบซึ้งในการที่ไทยได้ส่งทหารไทยเข้าร่วมสงครามเกาหลีด้วย ซึ่งทั้งสองฝ่ายแสดงความยินดีที่ได้พบหารือกันเป็นครั้งแรก หลังจากที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้โทรศัพท์มาแสดงความยินดีในโอกาสที่เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรียังชื่นชมเมืองคย็องจูว่า เป็นเมืองที่งดงาม และเปี่ยมด้วยมรดกทางประวัติศาสตร์ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยาของไทย พร้อมเชิญประธานาธิบดีเกาหลีใต้เยือนไทยอย่างเป็นทางการในโอกาสแรก เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยเสนอให้ทั้งสองประเทศตั้งเป้าหมายการค้าให้ถึง 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเขตการค้าเสรี (FTA) เป็นเครื่องมือสำคัญ และหวังว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสามารถสรุปประเด็นที่คั่งค้างได้โดยเร็ว พร้อมยืนยันว่าไทยจะให้การดูแลนักลงทุนเกาหลีใต้อย่างเต็มที่ ทั้งในโครงการของ Hyundai, COSMAX, KakaoBank ที่จะจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาในไทย และบริษัท Korea Land & Housing Corporation (LH) ที่จะตั้งนิคมอุตสาหกรรมเกาหลีใต้แห่งแรกในไทย นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการที่เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล จะนำคณะนักธุรกิจเกาหลีใต้มาหารือความร่วมมือกับภาคเอกชนไทยในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งไทยยินดีต้อนรับและพร้อมอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความร่วมมือด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ว่า คนไทยนิยมวัฒนธรรมเกาหลี โดยเฉพาะ K-Pop อย่างกว้างขวาง จนเยาวชนไทยจำนวนมากสนใจเรียนภาษาเกาหลี และชื่นชมเกาหลีใต้ที่เป็นหนึ่งในประเทศผู้นำด้านการผลิตคอนเทนต์ของโลก พร้อมระบุว่า จะมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยศึกษาระบบนิเวศด้านอุตสาหกรรมคอนเทนต์ของเกาหลีใต้ โดยเฉพาะการสนับสนุนสตาร์ตอัปและ SME ทั้งด้านทักษะและงบประมาณ
อีกทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวยืนยันว่า ไทยจะสนับสนุนบทบาทของเกาหลีใต้ในฐานะประเทศคู่เจรจาของอาเซียน และประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-เกาหลีใต้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายของการหารือ นายกรัฐมนตรียังได้ขอประธานาธิบดีพิจารณาเพิ่มจำนวนแรงงานถูกกฏหมาย ที่จะมาทำงานในเกาหลี รวมทั้งช่วยดูแลปัญหาที่คนไทย และนักท่องเที่ยวไทยถูกปฏิเสธการเข้าเมืองเมื่อเดินทางมาถึงเกาหลีแล้ว ส่งผลเกิดสูญเสียจ่ายในการเดินทางทั้งเงิน และเวลาด้วย













