POLITICS

‘สุทิน’ ชี้ รัฐบาลติดกรอบ MOA เสี่ยงเป็น ’รัฐบาลเป็ดง่อย‘ หวั่นสูญเปล่า ไม่ได้รัฐธรรมนูญใหม่

‘สุทิน’ ชี้ รัฐบาลติดกรอบ MOA มีข้อจำกัดทั้งเวลา – งบประมาณ – เสียงข้างน้อย เสี่ยงเป็น ’รัฐบาลเป็ดง่อย‘ ไร้พลังขับเคลื่อน–หวั่นสูญเปล่า ไม่ได้รัฐธรรมนูญใหม่ แถมถูกสังคมหวาดระแวงไม่ไว้วางใจ บอก สื่อต่างชาติ เรียก นายกฯ ว่า “ราชากัญชา” ทำภาพพจน์ประเทศเสียหาย บอก สุดท้ายจะไม่ได้อะไรเลย

วันนี้ (30 ก.ย. 68) ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วาระเรื่องด่วน 1 คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธารรัฐสภา เป็นประธานในการประชุม

นายสุทิน คลังแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า นโยบายนี้ดูมา 2 วัน ก็เอาใจช่วยรัฐบาล เขียนนโยบายให้ตอบสนองประชาชน และทำได้จะเข้าใจว่าเกร็ง หรือถูกกดดันจาก MOA ก็เลยเขียนไม่รู้จะเอาอย่างไรแน่ ซึ่งเมื่อฟังดูแล้วหลายอย่างทำไม่ได้ กฎหมายหลายฉบับ ใช้เวลาเป็นปี ดังนั้น 4 เดือนไม่มีทางทำได้ ตนเองจะแสดงความกังวลว่าจะเป็น 4 เดือนที่สูญเปล่า นอกจากนโยบายที่ทำไม่สอดคล้องกับเงื่อนเวลาแล้ว ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ ตัวรัฐบาลเองก็อยู่ในสภาพที่มีข้อจำกัดเยอะมาก

เมื่อวานนี้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ใช้คำว่ารัฐบาลเป็ดง่อย เมื่อมาดูแล้วก็มีเหตุผล ดังนั้น ที่บอกว่าเป็นเป็ดง่อย ไม่ใช่อยากให้เสียกำลังใจ หรือท้อแท้ แต่จะได้เอาชนะคำเหล่านี้ ก้าวข้ามข้อจำกัดให้ได้ และลบคำสบประมาทให้ได้

ข้อจำกัดแรก คือมี MOA เป็นข้อจำกัด ซึ่งจำกัดเวลาให้แค่ 4 เดือน ถือว่าใจร้ายมาก ตนเองไม่รู้ว่าเอาอะไรมาวัดเป็น 4 เดือน รัฐธรรมนูญก็จะไม่เสร็จ นโยบายก็จะทำไม่ได้ ดังนั้น ตนเองรู้ว่านายกรัฐมนตรี กำลังรู้ซึ้งแล้วว่ามันคือทุกขลาภ และยังมีข้อจำกัดอีกว่า เลือกให้มา ไม่ได้ทำอย่างอื่น ให้แก้รัฐธรรมนูญ และยุบสภา แต่เพื่อนสมาชิกที่เป็นผู้ที่มีบุญคุณเรียกร้องให้ทำเยอะ จึงคิดว่ามีข้อจำกัดในเรื่องนี้ก็จะเหนื่อย

ข้อจำกัดต่อมา นอกจากกำกับภารกิจ และกำกับเวลาแล้ว จะทำให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย เมื่อเลือกแล้วก็ไม่ได้เป็นรัฐบาลด้วย ถูกลอยแพ

ข้อจำกัดเรื่องการไม่ได้จัดงบเอง นโยบายที่เขียนมาเยอะ แต่ไม่ได้จัดงบไว้ รัฐบาลก่อนเป็นคนทำ แต่ยังมีเงินประมาณประมาณกว่าแสนล้านบาท ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจฟรี ๆ และเป็นงบที่ท่านโหวตคว่ำงบประมาณฉบับดังกล่าว เมื่อสองเดือนที่แล้วด้วย จะกล้าใช้หรือไม่ อาจต้องกล้าหาญหน่อย

ข้อจำกัดต่อมาคือความเชื่อมั่น และความเชื่อถือจากต่างชาติ และในประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พูดก็ดูมีความตั้งใจดี แต่ลืมไปหรือไม่ว่า ถ้ารัฐบาลไม่ได้รับความเชื่อถือจากต่างชาติ และในประเทศ จะฝืดมาก ความเชื่อมั่นแรกรู้หรือไม่ว่าวันที่เซ็น MOA สถาบันจัดอันดับความเชื่อถือ ลดประเทศไทยอยู่ในแดนลบ

อีกทั้ง สื่อต่างชาติทำให้ภาพพจน์นายกรัฐมนตรี และภาพพจน์ประเทศเสียหายยับ ซึ่งสื่อต่างชาติพาดหัวว่า ได้ราชากัญชามาเป็นนายกรัฐมนตรี ตนเองสงสาร และเห็นใจนายกฯ รวมถึงได้ ขุนศึกกัญชามาเป็นนายกฯ

ขณะที่ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา บอกว่าจะฟื้นฟูและเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา แต่หากภาพพจน์ประเทศเป็นแบบนี้ นักท่องเที่ยวที่จะมา จะเป็นพวกขี้ยา แต่นักท่องเที่ยวที่เป็นครอบครัวไม่มา

นายสุทิน ได้ชื่นชมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ตั้งใจ แผนงานดี ไปหาตลาดใหม่ แต่เมื่อเดินออกไป เขาจะคุยกับเราหรือไม่ และเวลา 4 เดือน ใครจะมากล้าลงทุนตกลงกับเรา คือวิบากกรรม และด่านใหญ่ ที่จะต้องไปทำจะแก้อย่างไร จะทำให้ 4 เดือนนี้เขากล้ามาลงทุนกับเราอย่างไร

นายสุทิน ระบุว่า ต้องยอมรับว่านายกฯ และครม. ไม่ได้ขี้เหร่อะไรมาก แต่สังคมไทย เกิดความรู้สึกว่าหวาดระแวง ไม่ไว้วางใจ และกลัว เพราะหวาดระแวงว่าจะเข้ามาทำคดีสำคัญ ๆ ของท่าน และไม่ไว้วางใจ กลัวว่าจะมาสร้างเครือข่ายกินรวบประเทศ เพราะมีเครือข่าย สว. รวมถึงมีองค์ประกอบหลายอย่าง ที่จะทำให้วิตก ทำให้เป็นเป็ดง่อย และอ่อนแรง

นายสุทิน ย้ำว่า ทุกคนจับจ้องเรื่องฮั้ว สว. และเขากระโดงมาก ทำให้พวกตนเองต้องจับจ้องด้วย แต่วันใดที่นายกรัฐมนตรี แตะสองเรื่องนี้ สังคมจะบีบให้พวกตนต้องอภิปราย นี่คือความไม่ไว้ใจในประเทศทำให้เกิดปัญหา

นายสุทิน กล่าวอีกว่า ข้อจำกัดในเวลา 4 เดือน ทำให้ข้าราชการเกียร์ว่าง และอีก 4 เดือน ก็ไม่รู้ใครจะมา ถ้าอยากแก้ปัญหาเรื่องการขับเคลื่อนนโยบายในระยะเวลาที่จำกัด หากไม่ได้ความร่วมมือจากข้าราชการ จะถือเป็นนรก เพราะการเป็นรัฐบาลในช่วงระยะสั้นวิกฤติอย่างนี้ กับปัญหาประเทศที่รออยู่ข้างหน้า ต้องเป็นรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม

นายสุทิน ยกตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงงบประมาณ การเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ผู้มีพระคุณจะเอาด้วยหรือไม่ วันดีก็ค้ำ วันไม่ดีก็จิกท่าน ทำให้ท่านก็จะซีเรียส และไม่กล้าผ่านงานสภา ไม่มีความกล้าหาญที่จะขับเคลื่อนนโยบายที่สำคัญ ดังนั้น ข้อจำกัดเหล่านี้ ตนเองก็เห็นใจ

นายสุทิน กล่าวอภิปรายต่อว่า ก็จะไม่มีความสามารถในระยะเวลาอันสั้น หากใช้เวลาซักปี ตนเองว่าทำได้ ตนเองไม่ติดใจในฝีมือ แต่พอใช้เวลา 4 เดือน เทวดาก็ยังยาก และยังมีข้อจำกัดเป็นเป็ดง่อยด้วย หาก 4 เดือน ทำเรื่องพัฒนาแก้ไขปัญหาประเทศไม่ได้

“ความดีใช้เวลาในการทำ แต่การทำลายใช้เวลาสั้น ๆ ก็ทำได้สร้างเมือง ต้องใช้เวลาเวลานาน แต่ทำลายวินาทีเดียวก็ทำได้” นายสุทิน กล่าว

นายสุทิน กล่าวอีกว่า หลายท่านอภิปรายว่า จะไปทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ และก็จะหันมาทำทางลัด 4 เดือนต่อไป เพื่อ 4 ปีข้างหน้า เกิดการแก้ปัญหาตัวเอง กลัวว่าจะมายุ่งเกี่ยวกับ ฮั้ว สว. เขากระโดง และ SKYY9 ที่คิดแบบนั้น เป็นเพราะว่าทุกคนยุ่งเกี่ยวในนี้หมด จะเอามีดตัดมือตัวเองนั้น ไม่ทำ

นายสุทิน กล่าวว่า หากโยกงบประมาณไปในทางที่ไม่ดี จะเกิดปัญหากับสภา และตัวท่านเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใครมาเป็นรัฐบาล จะเลือกตั้งข้างหน้า ก็ต้องหาเสียง แต่จะหาเสียงด้วยสิ่งที่พอรับได้ หรือเกินงามหรือไม่ เรื่องนี้ต้องระวัง

นายสุทิน กล่าวอีกว่า คนกลัวจะมาโยกย้ายผู้บริหารข้าราชการเพื่อการเลือกตั้ง ให้เป็นพรรคเป็นพวก และหากไม่ทำเรื่องเหล่านี้ ทำอย่างพองาม ก็อาจจะพอไปได้ แต่หากไปทำก็จะมีปัญหาอีก ดังนั้น เรื่องทั้งหมด ก็จะเกิดปัญหาทำให้ท้ายที่สุดสิ่งที่เราคิดว่ากลัวก็จะเบี้ยว MOA กัน ถ้าเบี้ยวจริง ก็บัวแล้งน้ำ สุดท้าย ไม่ได้อะไร โดยเฉพาะเรื่องรัฐธรรมนูญ ต้องยอมรับว่า รัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่เราใฝ่ฝัน เมื่อนำเรื่องนี้มาผูกมัดกับการตั้งนายกฯ ก็มองเห็นเจตนาดีว่าจะใช้โอกาสนี้มัด แต่ดูไปดูมาแล้ว มัดไม่อยู่ และแก้ไม่ได้ และสุดท้ายจะไม่ได้อะไรเลย

นายสุทิน กล่าวว่า ดูในนโยบายแล้วไม่พูดเต็มปากเต็มคำ เมื่อมาตอบแล้วก็รู้ว่า จะเริ่มนับหนึ่งในวันเลือกตั้ง เพราะจะทำประชามติในวันเลือกตั้ง ซึ่งเกิน 4 เดือนไปแล้ว หากประชามติผ่าน จะมีขั้นตอนต่อไป แต่ถ้าไม่ผ่าน ก็จบข่าว ล่มสลาย แม้ผ่านก็ต้องไปดูว่าจะเอาอย่างไร และ สสร. ในวันนั้น ก็ไม่รู้ว่าจะเอาใคร หรือเป็นสีอะไร ดังนั้น เรื่องรัฐธรรมนูญฟังไปฟังมาแล้ว ห่างไกลความเป็นจริงมาก

“ถ้าวิ่ง 100 เมตร 4 ปีที่แล้ว ผมวิ่งมา 80 เมตรแล้วมาหกล้มเอาตอนที่ 81 ใครทำให้หกล้ม ก็รู้ พอสมัยนี้ พวกผมก็วิ่งมาได้ 60 กว่าเมตรแล้ว ก็จบข่าว แต่ที่จะทำกันต่อไปนี้ใน MOA เต็มที่ แม้ประชามติผ่านได้เพียง 10 เมตร ยังห่างไกลจากความเป็นจริงมาก” นายสุทิน กล่าว

การเคารพประชาชน เป็นเรื่องที่ดี แต่บางเรื่องประชาธิปไตยในเรือรบ อาจจะไม่มีที่เป็นความลับ และเป็นข้อมูลที่ต้องจำกัด การรับรู้ เราจะไม่เผยแพร่กันให้ชาวบ้านรู้ ถกเถียงกัน ดีเบตกัน แก้ไม่แก้ มีผลดีผลเสียอย่างไร ด้านความมั่นคง ถือว่าไม่ได้

ดังนั้น ฝากปัญหาภาคใต้ ท่านมีเจตนาดีแต่ 4 เดือนนี้ ไม่เสร็จ สุดท้ายจะโทษใคร จริง ๆ แล้วก็อยากโทษคนไปทำ MOA กันนั่นแหละ ทำไมใจร้ายให้แค่ 4 เดือนเอง และตำหนินายกรัฐมนตรี ก็ไปรับกับเขาอย่างละละม่อม ไม่ขอให้มากหน่อย หากพูดแบบนี้ ก็จะย้อนว่าพรรคเพื่อไทย ก็ยอมรับเหมือนกัน แต่ผมบอกว่า 4 เดือน อย่าเอา แต่ตั้งนายกรัฐมนตรีแล้วยุบสภาเลย ให้ได้รัฐบาลใหม่” นายสุทินกล่าวทิ้งท้าย

Related Posts

Send this to a friend