‘พลโทอดุลย์’ ชี้ทหารไม่เหมือนนักธุรกิจ ถ้าแพ้คืออธิปไตยของชาติ
ลั่นรบไม่ใช่เรื่องยาก เคยผ่านมาแล้วแต่ปัจจุบันบริบทเปลี่ยน ย้ำแผ่นดินไทยต้องเป็นของไทย
วันนี้ (30 ก.ย. 68) ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วาระเรื่องด่วน 1 คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่มีนายมงคล สุรสัจจะ รองประธานวุฒิสภา เป็นประธานในการประชุม
พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ตอบการอภิปรายเกี่ยวกับปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา โดยระบุว่า ตนเองจบการศึกษา รับราชการอยู่ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ และปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดน เคยเป็นแม่ทัพภาคที่ 2 จึงทราบดีว่าปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชามีบริบทอย่างไร ยืนยันว่ามีบริบทที่เปลี่ยนแปลงไปจากสมัยก่อนมาก ปัญหาความมั่นคงชายแดนในเวลานี้เกินกว่ากำลังทหารและหน่วยงานด้านความมั่นคงหน่วยเดียวที่จะแก้ปัญหาได้ตามลำพัง ยังมีบริบทอื่นที่จะต้องพูดคุยเพื่อแก้ปัญหาให้เป็นแนวทางเดียวกัน
มิติแรกคือ ด้านการทูตและการต่างประเทศ ซึ่งการแสดงวิสัยทัศน์ของนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) เป็นการทูตเชิงรุกที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมและต้องทำอย่างต่อเนื่อง
มิติด้านข้อมูลข่าวสารสำคัญมาก คู่ขัดแย้งใช้แพลตฟอร์มในการโฆษณาชวนเชื่อ บ่อนทำลายบิดเบือนข้อมูล สร้างสถานการณ์ยั่วยุ พยายามเก็บหลักฐานไว้ใช้ในเวทีโลก หากเชื่อและคิดตามที่เขากำหนด เราจะยืนเคียงข้างเขาโดยที่ไม่รู้ตัว แปลว่าท่านกำลังทำลายชาติ เพราะเป็นสิ่งที่เขาต้องการให้เป็น
ยกตัวอย่างข่าวที่ระบุว่า “ฝากดูแลทหารไทยรอบภูมะเขือ กินแต่มาม่าปลากระป๋อง ฝนตกหนัก” พลโท อดุลย์ ระบุว่าอาหารเหล่านี้ในสถานการณ์ที่เผชิญหน้ากันถือว่าดีที่สุดแล้ว เพราะตนเองเคยผ่านมาแล้ว ตั้งแต่ยศร้อยตรีถึงพลโท ไม่มีใครเอาเสบียงไปส่ง น้ำวันละขวดก็เยอะแล้ว ความภาคภูมิใจไม่ได้อยู่ที่การกินอาหารดี ๆ แต่ความภาคภูมิใจอยู่ที่การรับใช้ชาติ ปกป้องอธิปไตย ไม่มีใครเรียกร้องอาหารดี ๆ ในสถานการณ์แบบนั้น
มิติด้านเศรษฐกิจ ปัจจุบันไทยกดดันคู่ขัดแย้งด้วยการปิดด่านชายแดน ซึ่งถือเป็นบ่อนการพนัน ที่ตั้งของสแกมเมอร์เป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับทหารในพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และสระแก้ว ปัจจุบันทหารกัมพูชาได้รับการเลี้ยงดูจากบ่อนเหล่านี้ ทั้งนี้การปิดด่านต้องยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อประชาชนบางส่วนที่ค้าขายอยู่ชายแดน และผู้ผลิตสินค้าบางประเภท
คนไทย 70 กว่าล้านคนต้องช่วยกันในลักษณะ “ไทยช่วยไทย” ในภาวะที่ชาวบ้านเดือดร้อน เรื่องสินค้าเราช่วยกันซื้อ พร้อมทั้งสนับสนุนช่องทางการจำหน่ายโดยเฉพาะทางออนไลน์ ซึ่งได้ประสานกับนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เรื่องนี้ทำได้ไม่ยากภายในระยะเวลาสั้น ๆ
พลโท อดุลย์ กล่าวว่าสงครามไม่ใช่แบบเดิมเป็นสงครามผสมแบบใหม่ ผสมผสานระหว่างกำลังทหารและกำลังที่ไม่ใช่ทหาร ทำสงครามเพื่อเอาชนะไม่ต้องรบ เช่น การเดินสายไปบิดเบือนข้อเท็จจริง ยั่วยุ ไม่เคยจริงใจในการแก้ปัญหาตามข้อตกลง ทั้งในเวที RBC และ GBC ที่สำคัญยังเล่นบทเหยื่อในเวทีโลก เป็นสิ่งที่นายสีหศักดิ์ได้ไปชี้แจงแล้วอย่างยอดเยี่ยม ตนเองเข้าใจความอึดอัดของประชาชนแต่ขอให้ใจเย็น ๆ เพราะความอดทนก็มีขีดจำกัดอยู่แล้ว
“ผมยืนยันว่าการรบกันไม่ใช่เรื่องยาก อาชีพทหารไม่เหมือนกับนักธุรกิจกำไรขาดทุนปีหน้าเริ่มใหม่ แต่พวกผมทหารแพ้คืออธิปไตยของชาติ ตายบาดเจ็บลูกเมียอยู่ลำบาก ผมขอให้ความเชื่อมั่นว่ากองทัพจะไม่ยอมเป็นอันขาด แผ่นดินไทยต้องเป็นของไทย เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ผมอยากขอกำลังใจฝากไปถึงน้อง ๆ ทหารที่อยู่ชายแดน อย่าบอกว่าทำไมไม่ดูแลลูกน้อง ๆ มันจะบั่นทอนความรู้สึกของผู้บังคับหน่วย ยืนยันว่าไทยรักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด” พลโท อดุลย์ กล่าว












