POLITICS

‘ธนาธร’ ยอมรับ คุย ‘ทักษิณ’ จริงเมื่อเช้านี้

หลังเจ้าตัวมาขอเสียงหนุน ‘ชัยเกษม’ เป็นนายกฯ ชี้ ประเทศต้องมาก่อน ไม่ตอบ ต้องคุยกับผู้นำสีน้ำเงินเพิ่มหรือไม่ โยน ‘ประชาชน’ ตัดสินใจ บอกข้อเสนอ ‘ภูมิใจไทย’ อยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว

วันนี้ (30 ส.ค. 68) เวลา 17.15 น. ที่โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีการไปพูดคุยกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อขอเสียงโหวตสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล โดยยอมรับว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ตนเองได้เจอกับนายทักษิณ และพูดคุยกับทักษิณแบบตัวต่อหน้า หลังจากที่ได้รับการติดต่อมา เพื่อมาขอคุยตั้งแต่เมื่อวานนี้

นายธนาธร กล่าวต่อว่า นายทักษิณได้มาปรึกษาหารือในกรณีที่พรรคประชาชนจะยกมือสนับสนุนให้นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ ซึ่งตนเองได้ตอบไปว่า พรรคประชาชนมีจุดยืนเรื่องนี้อย่างชัดเจน และพรรคประชาชนได้แถลงจุดยืนเรื่องนี้มา 2 เดือนแล้ว ในเรื่องของ TOR หรือเงื่อนไขของการยกมือสนับสนุนผู้ใดผู้หนึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเงื่อนไขคือยุบสภาฯ ภายใน 4 เดือน รวมถึงจัดทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เสร็จ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนเองได้บอกกับนายทักษิณไป

ส่วนความกังวลว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยหรือไม่นั้น นายธนาธร ระบุว่า พรรคประชาชนมีเงื่อนไขที่ชัดเจน ขึ้นอยู่กับพรรคเพื่อไทยจะยอมรับเงื่อนไขของพรรคประชาชนได้หรือไม่ หากพรรคเพื่อไทยยอมรับเงื่อนไขของพรรคประชาชนได้ ก็ไม่ต้องมาคุยกับตนเอง ไปคุยกับหัวหน้าพรรคประชาชนได้เลย ซึ่งหัวหน้าพรรคได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่า ยังไม่ได้มีการติดต่อหรือนัดหมายจากทางพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการมาที่พรรคประชาชน

ส่วนกรณีที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่อาจจะใช้นามสกุลในการพูดคุยกัน และขอโหวตให้พรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า นายสุริยะเป็นอา และตนเองกับนายพงศ์กวินเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ด้วยความเคารพทั้งสองท่านกับตนถือเป็นญาติกัน แต่เรื่องปัญหาของบ้านเมืองไม่ได้ใช้จุดนี้มาคุยกัน และยังไม่ได้รับการติดต่อเพื่อพูดคุยกับทั้งสองคน

ส่วนพรรคประชาชน ยังไม่ปิดประตูเลือกนายชัยเกษม ใช่หรือไม่นั้น นายธนาธร ตอบเพียงว่า “หัวหน้าพรรคประชาชนได้ตอบชัดเจนแล้ว”

สำหรับพรรคประชาชนควรจะเลือกพรรคไหนนั้น นายธนาธร กล่าวว่า ตนเองเข้าใจว่า เหตุผลที่พรรคประชาชนยื่น TOR มีเงื่อนไขขึ้นมาไม่ได้อยากมีอำนาจหรืออยากเป็นรัฐบาล และพรรคประชาชนยังเป็นฝ่ายค้านเช่นเดิม แต่สิ่งที่พรรคประชาชนต้องการคือการพาประเทศไปข้างหน้า เพราะด้วยสภาในปัจจุบันไม่มีกลุ่มการเมืองไหนที่มีความชอบธรรม และมีศักยภาพเพียงพอที่จะพาประเทศไปข้างหน้า ไม่มีใครที่จะมีความสามารถในการแก้ปัญหาของประเทศได้ทั้งการแก้ปัญหายาเสพติด และการฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน รวมถึงปัญหาทางการเมือง

ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือ การคืนอำนาจให้กับประชาชนด้วยการยุบสภาฯ ทำให้พรรคประชาชนมีเงื่อนไขแค่ 2 ข้อ ตอบโจทย์ปัญหาเฉพาะหน้า และสิ่งที่ต้องการคือสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ เพื่อพาประเทศไปข้างหน้า ซึ่งคือโจทย์ใหญ่ของสังคม

ส่วนระยะเวลา 4 เดือนในการทำประชามติเพียงพอหรือไม่นั้น นายธนาธร เชื่อว่า พรรคประชาชนได้คำนวณมาแล้วว่าเพียงพอ ในการทำประชามติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่ว่าจะเลือกทางไหน พรรคประชาชนอาจจะเจ็บทั้งคู่ เพราะผู้สนับสนุนไม่ได้อยากได้ทั้งพรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทย นายธนาธร ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย รวมถึงพรรคประชาชน ไม่มีกลุ่มไหน รวมเสียงข้างมาก และจัดตั้งรัฐบาลได้ ดังนั้นจึงต้องสื่อสารกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมาว่า สถานการณ์เช่นนี้ การคืนอำนาจให้ประชาชนเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล ส่วนจะเลือกใครก็ต้องดูว่า พรรคไหนมีโอกาสทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนพรรคประชาชนพร้อมรับฟังข้อเสนอ

ส่วนความกังวลเรื่องการจะถูกฉีก MOU นายธนาธร เผยว่า ต้องให้ประชาชนตัดสิน หากพรรคไหนรับเงื่อนไขของพรรคประชาชนไปแล้วไม่ทำตาม ก็ขอให้ประชาชนตัดสิน

ส่วนจะคุยกับผู้นำของพรรคภูมิใจไทยเพิ่มเติมอีกหรือไม่ นายธนาธร ตอบว่า ให้ไปถามหัวหน้าพรรคประชาชน เพราะตอนนี้ข้อเสนอของพรรคภูมิใจไทยอยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว

Related Posts

Send this to a friend