‘พล.อ.ณัฐพล’ สั่ง ทบ. เชิญทูตทหารต่างชาติดูความเสียหายพลเรือน
‘พล.อ.ณัฐพล’ สั่ง ทบ. เชิญทูตทหารต่างชาติดูความเสียหายพลเรือน จ่อประท้วงกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำ ฝ่ายไทยมีหลักฐานครบ ทั้งภาพถ่ายทางอากาศ – เทคโนโลยี
วันนี้ (30 ก.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กองทัพบกเชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทยลงพื้นที่ เพื่อดูความเสียหายของพลเรือนที่เกิดจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชา พร้อมทั้งเตรียมทำเรื่องประท้วงการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงเพื่อสื่อสารให้นานาชาติรับทราบ
พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า การละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชาต้องถูกประท้วงและสื่อสารให้ประชาคมโลกรับรู้ โดยได้สั่งการให้โฆษกทุกเหล่าทัพและศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ช่วยกันสื่อสารทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
ต่อกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาปฏิเสธการละเมิดข้อตกลง พล.อ.ณัฐพลระบุว่าเป็นเรื่องปกติของฝ่ายกัมพูชา แต่ไทยไม่สามารถบิดเบือนข้อเท็จจริงได้ และต้องยืนหยัดในฐานะประเทศที่มีวุฒิภาวะ “กระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพ ได้รวบรวมข้อมูลไว้ทุกอย่างว่า กัมพูชาบิดเบือนอะไรบ้าง มีภาพ และเทคโนโลยีของ Gistda และภาคเอกชน ซึ่งเป็นภาพถ่ายทางอากาศ แต่จะไม่เปิดเผย ในช่วงนี้ก็ปล่อยให้กัมพูชาบิดเบือน แต่เมื่อไปถึงขั้นการไต่สวนกันแล้ว และมีการเผชิญหน้า ในกระบวนการไต่สวน ก็จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปชี้แจงว่า กัมพูชาบิดเบือนอะไรบ้าง“
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ณัฐพลยังย้ำถึงแนวทางของรัฐบาลหลังจากนี้ว่า กรณีที่มีการละเมิดข้อตกลงจากฝ่ายกัมพูชา ส่วนใหญ่จะให้ ศบ.ทก. ที่มีทุกหน่วยงานมาร่วมกันทำงานอยู่แล้ว เพื่อติดตามเรื่องนี้ และในส่วนตัวในฐานะรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้พูดคุยกับผู้บัญชาการเหล่าทัพอยู่ตลอด ซึ่งก่อนเดินทางไปร่วมคณะกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศมาเลเซีย ได้พูดคุยกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ และกลับมาก็ยังมีการพูดคุยกันอีก เพื่อทำความเข้าใจ และชี้แจงแนวทางปฏิบัติ ตามที่ได้มีการหารือที่ประเทศมาเลเซีย
ส่วนสถานการณ์จะยืดเยื้อหรือไม่นั้น พล.อ.ณัฐพล เผยว่า ขึ้นอยู่กับฝ่ายประเทศกัมพูชา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับฝ่ายเรา เพราะไทยไม่ได้มีเจตนาที่จะรุกรานใคร ซึ่งช่วงที่ผ่านมากระทรวงกลาโหม มีการจัดหายุทโธปกรณ์เข้ามาเพื่อปกป้องอธิปไตยเท่านั้น ไม่ได้มียุทโธปกรณ์เชิงรุก แต่ครั้งนี้สังเกตได้ว่า กัมพูชามียุทโธปกรณ์เชิงรุก ดังนั้นเหตุการณ์จะยุติช้า หรือเร็ว ขึ้นอยู่กับฝ่ายกัมพูชาเป็นหลัก
สำหรับการประชุมสภากลาโหมวันนี้ จะมีการพูดคุยกับผู้บัญชาการเหล่าทัพหลายเรื่อง ส่วนเรื่องสถานการณ์ไทย – กัมพูชา ตนจะพูดคุยกันอีกในเวที ซึ่งสภากลาโหมจะเป็นการพูดคุยในกิจการปกติ แต่ก็ต้องเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ปัจจุบันด้วย












