POLITICS

‘หมออ๋อง’ มองเป็นสิทธิหากรัฐบาลอยากได้เก้าอี้รองประธานสภาฯ คืน

‘หมออ๋อง’ มองเป็นสิทธิหากฝ่ายรัฐบาลอยากได้เก้าอี้รองประธานสภาฯ คืน หลังศาล รธน.ชี้ชะตาคดียุบก้าวไกล บอกจะแฮปปี้ถ้ามาสานงานต่อด้วย

วันนี้ (30 ก.ค. 67) นายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก พรรคเป็นธรรม และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล ในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ว่า มีความเป็นไปได้หลายทาง ขณะนี้จึงพยายามรับผิดชอบงานทั้งหมดเท่าที่ทำได้ก่อนวันที่ 7 สิงหาคม ส่วนสิ่งที่ทำได้หลังวันที่ 7 สิงหาคมแยกออกไป ซึ่งไม่ได้ทำให้เราหยุดแผนงานในระยะต่อไป โดยได้นัดประชุมเรื่องการปฏิรูปโครงสร้างรัฐสภา การจัดรับฟังความคิดเห็น การแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยไม่ได้เตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษ

ทั้งนี้ได้พูดคุยให้กำลังใจ สส.ก้าวไกล ในฐานะเพื่อนแบบไม่มีพรรค เพราะเป็นเป็นเพื่อนกันมานานตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ เป็นที่น่าประหลาดใจเพื่อนในพรรคก้าวไกลไม่หวั่นเกรง ยังคงทำงานเต็มที่มีกำลังใจ ส่วนวันที่ 7 สิงหาคมพรรคก้าวไกลจะจัดงานที่พรรคด้วย ตนเองยังไม่ทราบคิวการนั่งบัลลังก์ เพราะงานหลักของตนเองคือรับผิดชอบการประชุม หากเพื่อน ๆ ไปรวมตัวกันที่ไหนก็จะติดตามข่าว

ส่วนความกังวลผลคำวินิจฉัยจะมีผลต่อตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่าแน่นอน เพราะคำวินิจฉัยยุบพรรคแล้วนำไปสู่การตัดสิทธิคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งคุณสมบัติของรองประธานสภาผู้แทนราษฎรเขียนไว้ว่า ต้องเป็น สส. หากสิ้นสภาพ สส.การทำหน้าที่นี้ก็จะสิ้นไปด้วย

อย่างไรก็ตามดูเหมือนฝั่งรัฐบาลยังอยากได้ตำแหน่งนี้นั้น ก็ถือเป็นสิทธิโดยชอบธรรมของสภาฯ เพราะตำแหน่งประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ เป็นการเสนอชื่อโดยสภาฯ ไม่ได้คิดว่าตำแหน่งนี้จะมีใครอยากได้มาก หรือได้ไปแล้วจะเกิดประโยชน์ทางการเมือง ใครก็ตามที่มาแทนตนเองได้ หากเห็นด้วยกับแนวทางที่ตนเองพยายามพัฒนาสภาฯ อยู่ ก็พัฒนาต่อไป ตนเองจะแฮปปี้มาก

ทั้งนี้ตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ควรเป็นตัวแทนจากพรรคก้าวไกลตาม MOU หรือไม่ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่าไม่แน่ใจว่า MOU ฉบับนั้นยังมีสาระอยู่หรือไม่ แต่เราคาดหวังการรักษาคำพูดเพราะประชาชนเจ็บปวดกับการเสียคำพูดมาหลายรอบ เราเห็นการฉีก MOU มาแล้ว จึงไม่ได้คาดหวังมาก หากเห็นถึงหลักการที่ควรจะเป็น การมีรองประธานสภาฯ 1 ใน 3 มาจากฝ่ายค้านเพื่อให้เกิดความสมดุล เกิดความเป็นกลางในเชิงสถาบันก็เป็นทางเลือกที่ดีที่วิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านจะได้คุยกัน

Related Posts

Send this to a friend