‘ณัฐพงษ์’ มองชุมนุมไล่ ‘แพทองธาร’ เป็นสิทธิ ชี้เหตุถูก ‘ฮุน เซน’ ทำลาย เพราะไร้ประสิทธิภาพในการสื่อสาร
วันนี้ (30 มิ.ย.68) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แสดงความเห็นกรณีกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ออกมาชุมนุมเรียกร้องให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีลาออก
นายณัฐพงษ์ เชื่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุมออกมาเรียกร้องด้วยความบริสุทธิ์ใจ อยากให้มีการเปลี่ยนตัวนายกฯ เพียงแต่ว่าวิธีการในการเปลี่ยนตัวมีหลายแบบ ทั้งนายกฯ ลาออกเอง การใช้กระบวนการนิติสงครามถอดถอน หรือการที่นายกฯ ตัดสินใจยุบสภาเลือกตั้งใหม่ รวมถึงช่องทางที่ไม่เป็นไปตามประชาธิปไตย เช่น การปฏิวัติรัฐประหาร
แม้กลุ่มผู้ชุมนุมจะชุมนุมด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่เรามีความเป็นห่วง เพราะอาจจะมีความต้องการของบางกลุ่มก้อนที่ฉกฉวยสถานการณ์เพื่อเรียกร้องกระบวนการนอกรัฐธรรมนูญหรือกระบวนการที่เป็นไปตามประชาธิปไตย ข้อเรียกร้องอย่างเป็นทางการของกลุ่มที่ชุมนุมคือ การเรียกร้องให้นายกฯ ลาออกและพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว แต่แกนนำหลายคนเป็นคนเดิม ๆ ที่เคยเรียกร้องชุมนุมต่อต้านซึ่งนำไปสู่การปฏิวัติรัฐประหารในอดีต
แม้ในเวทีชุมนุมอาจจะไม่ได้พูดชัดเจนว่า เรียกร้องให้มีการปฏิวัติรัฐประหาร แต่ก็ไม่ได้พูดชัดเจนเพียงพอว่าไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติรัฐประหาร กลับเปิดช่องว่างถ้าจะปฏิวัติก็ไม่อยากเห็นนายกฯ ที่มาจากทหาร สิ่งต่าง ๆ ทำให้เรามีข้อกังวลว่า การชุมนุมมีวัตถุประสงค์แอบแฝงโดยแกนนำหรือไม่
จึงขอสื่อสารไปยังทุกคน การชุมนุมเรียกร้องให้นายกฯ ลาออกเป็นสิ่งที่สามารถชุมนุมเรียกร้องได้ แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้ตัวเราถูกเป็นเครื่องมือของคนที่เรียกร้องกระบวนการนอกรัฐธรรมนูญ
ส่วนการออกชุมนุมเรียกร้องจะกลายเป็นเข้าทางฝั่งกัมพูชาที่ต้องการให้เปลี่ยนแปลงรัฐบาลหรือเกิดความวุ่นวายหรือไม่ นายณัฐพงษ์ ระบุว่าสาเหตุหลักที่ทำให้มาถึงจุดนี้ ทั้งความไร้เสถียรภาพหรือความไม่แน่นอนระหว่างปัญหาไทย-กัมพูชา คือ การขาดความชัดเจน และขาดประสิทธิภาพในการสื่อสารของรัฐบาล หลายครั้งที่มีการเจรจาฝ่ายกัมพูชามักจะออกมาสื่อสารก่อนหน้าเรา
ขณะที่การวางตัวของนายกฯ การเจรจาไม่ว่าจะเป็นหน้าบ้านหรือหลังบ้าน หากนายกฯ ใช้บทบาทวางตนเองในฐานะผู้นำประเทศ รัฐต่อรัฐ การสนทนาก็จะไม่ได้ออกมาเป็นรูปแบบนี้ แต่ถ้านายกฯ ใช้วิธีการความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวต่อครอบครัว บทสนทนาก็เปลี่ยนไปอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เอามาใช้ประโยชน์ทำลายฝั่งไทย












