POLITICS

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แถลงปิดคดี ‘แอม ไซยาไนด์’ ชี้ เป็นคดีประวัติศาสตร์แอม ไซยาไนด์พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แถลงปิดคดี ‘แอม ไซยาไนด์’ ชี้ เป็นคดีประวัติศาสตร์

เผยผลวิจัยบ่งชี้ลักษณะฆาตกรต่อเนื่อง หากเป็นผู้หญิงจะเกี่ยวกับเรื่องเงิน – ทรัพย์สิน ส่วน ผู้ชาย เป็นคดีเกี่ยวกับทางเพศ

วันนี้ (30 มิ.ย. 66) เวลา 11:00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงสรุปคดี นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม ไซยาไนด์ ผู้ต้องหาวางยาฆ่าเจ้าหนี้ 15 คดี ในพื้นที่ 8 จังหวัด ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปี 2566 จนมีผู้เสียชีวิต 14 ราย และรอดชีวิต 1 ราย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตทั้งหมดมีความเกี่ยวพันกับแอม ไซยาไนด์ ในฐานะเจ้าหนี้เงินกู้ นายหน้าขายรถมือสอง และลูกวงแชร์ ซึ่งพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีประกอบด้วยตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปราม ตำรวจภูธรภาค 7 ตำรวจพิสูจน์หลักฐานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รวบรวมพยานหลักฐานจากพื้นที่เกิดเหตุเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด สอบปากคำแพทย์ผู้ชันสูตร ซึ่งสถาบันนิติเวชวิทยาได้ตรวจสอบเลือด และสารคัดหลั่งในกระเพาะจากศพเหยื่อรายสุดท้ายที่ จ.ราชบุรี พบสารไซยาไนด์ในเนื้อตับของผู้ตาย รวมพยานอื่นๆ ทั้งหมดกว่า 900 ปาก มีเอกสารเกี่ยวกับคดีถึง 26,500 แผ่น ใช้เวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานมากกว่า 3 เดือน

ถือเป็นคดีที่ระดมชุดสืบสวนสอบสวนมากที่สุดในประเทศไทยจนสามารถสรุปสำนวนดำเนินคดีนางสรารัตน์ รวม 15 คดี ประกอบด้วย ความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น, ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ชิงทรัพย์โดยเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และปลอมปนอาหาร ยา หรือเครื่องอุปโภค บริโภคอื่นใด เพื่อบุคคลอื่นเสพหรือใช้ และการปลอมปนนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย รวมกว่า 75 ข้อหา

นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนยังสรุปสำนวนดำเนินคดีกับบุคคลใกล้ชิดนางสรารัตน์ อีก 2 รายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำลายพยานหลักฐานได้แก่ พ.ต.ท.วิฑูรย์ อดีตสามีแอมคนล่าสุด และ น.ส.ธันย์นิชา ทนายความส่วนตัวของนางสรารัตน์ ดำเนินคดีฐาน เพื่อจะช่วยผู้อื่นมิต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสียหรือทำให้สูญหาย หรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำผิด

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า คดีนี้เป็นคดีประวัติศาสตร์ของประเทศไทยที่ผู้ต้องหาวางแผนฆาตกรรมต่อเนื่องยาวนานกว่า 8 ปี โดยวางยาพิษให้เหยื่อกินจนเสียชีวิตในลักษณะเหมือนการเจ็บป่วย ด้วยภาวะการทำงานของหัวใจล้มเหลว เพื่อให้ญาติไม่มีข้อสงสัย ก่อนหวังเอาทรัพย์สินจากเหยื่อ หรือล้างหนี้ที่เคยยืมกันมา ซึ่งมีผลการวิจัยพบว่าหากฆาตกรเป็นผู้หญิงจะเกี่ยวกับการแสวงหาผลประโยชน์จากคนใกล้ชิด หากเป็นผู้ชายจะเกี่ยวกับการฆ่า เรื่องทางเพศ และล่าเหยื่อเป็นหลัก ส่วนฆาตกรรมต่อเนื่องคือการฆ่าคนมากกว่า 2 คนขึ้นไปโดยทิ้งระยะเวลาห่างกัน ต่างจากการสังหารหมู่ ทั้งนี้ขอให้มั่นใจว่าสามารถดำเนินคดีผู้ต้องหาได้แน่นอน และจะไม่เกืดเหตุซ้ำเช่นคดีนายสมคิด พุ่มพวง หรือคิด เดอะริปเปอร์ ฆาตกรต่อเนื่องที่ออกจากเรือนจำมาก่อเหตุซ้ำแน่ พร้อมยืนยันว่านางสรารัตน์ มีสภาพจิตปกติทุกอย่าง

ด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ระบุว่า หลังมีผู้เสียชีวิตที่ จ.ราชบุรี พบหลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่มีบุคคลต้องสงสัยมาด้วยกันกับผู้ตาย เดินลงไปที่ท่าน้ำก่อนขึ้นมาและหลบหนีออกไป เมื่อตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาได้ลักทรัพย์ของผู้ตายไป จึงเปิดคดีและมารดาผู้ตาย สงสัยว่าเป็นการตายพิษธรรมชาติจึงมาร้องเรียนที่กองปราบปราม ก่อนที่ กก.5 บก.ป.ลงพื้นที่สืบสวนข้อเท็จจริง และได้รับสารคัดหลั่งจากผู้ตายมาตรวจที่สถาบันนิติเวช พบสารพิษไซยาไนด์ในเลือดและกระเพาะอาหารในปริมาณเข้มข้นสูง ทั้งยังได้ข้อมูลจากพยานบุคคลที่ได้รับถุงดำบรรจุสารโพรแทสเซียมไซยาไนด์มาจากนางสรารัตน์ ดังนั้นจึงเชื่อได้ว่านางสรารัตน์ลงมือก่อเหตุจริง จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับมาดำเนินคดี จากนั้นมีญาติผู้ตาย 13 ราย และผู้รอดชีวิต 1 ราย สงสัยว่าญาติตนเองประสบเหตุในลักษณะเดียวกัน จึงร้องทุกข์ในหลายพื้นที่ทั้งตำรวจนครบาล ภ.4 และ ภ.7 เมื่อ ผบ.ตร.เห็นว่าคดีเกิดขึ้นทั่วประเทศ จึงมีคำสั่งโอนคดีมายัง บก.ป.เมื่อสืบสวนสอบสวน พบมูลเหตุจูงใจหลัก 2 เรื่องคือ 1.ฆ่าเพื่อเอาทรัพย์สินเหยื่อไป และ 2.ผู้ตาย และผู้ต้องหามาความเกี่ยวข้องกัน โดยผู้ต้องหาหลอกยืมเงินผู้ตาย ให้เงินไปปล่อยกู้และรับดอกเบี้ยอัตราสูง และเล่นแชร์ ซึ่งไม่มีเหยื่อรู้ตัวว่าจะถูกสังหาร

พ.ต.อ.เอนก กล่าวต่อว่า แนวทางการสืบสวนยังพบว่าผู้ต้องหาติดพนันออนไลน์มีหนี้ในระบบ และนอกระบบจำนวนมาก จึงต้องหาเงินมาชดใช้คืนด้วยวิธีการดังกล่าว โดยพบพฤติกรรมก่อเหตุมี 3 ประการ คือ 1.ขับรถไปรับผู้ตายออกมาประทานอาหารจากที่บ้าน ก่อนลอบวางไซยาไนด์และนำไปส่งบ้านกระทั่งผู้ตายเสียชีวิต 2.รับผู้ตายจากบ้านและลอบวางไซยาไนด์จนเสียชีวิต และ 3.ส่งแคปซูลยาอ้างเป็นยาลดความอ้วนไปให้ผู้ตายถึงที่บ้านซึ่งมีคดีเดียวใน จ.มุกดาหาร หลังผู้ต้องหาเห็นผู้ตายต้องการจะลดน้ำหนักหลังคลอด

พ.ต.อ.เอนก กล่าวอีกว่า หลังก่อเหตุผู้ต้องหาจะโทรศัพท์หาเหยื่อหรือคนใกล้ตัวเหยื่อว่ามีอาการหรือไม่ หากมีอาการแล้วจะตัดขาดการติดต่อไป จากนั้นผู้ต้องหาพยายามทำลายพยานหลักฐานโดยไปเอาโทรศัพท์มือถือผู้ตายออกมา ก่อนนำโทรศัพท์อีกเครื่องไปวางไว้แทน หรือหาทางเอาโทรศัพท์จากญาติผู้ตายมาให้ตนเองทำลายข้อมูลในโทรศัพท์ที่จะเชื่อมโยงมาถึงตัว รวมถึงยังเอาทรัพย์สินต่างๆ ของผู้ตาย และทำหลักฐานเท็จเพื่อไปเอาทรัพย์สินจากญาติผู้ตายด้วย

อีกทั้ง ภายหลังก่อเหตุ ผู้ต้องหาจะโทรศัพท์หาเหยื่อหรือคนใกล้ตัวเหยื่อว่ามีอาการหรือไม่ หากมีอาการแล้วจะตัดขาดการติดต่อไป จากนั้นผู้ต้องหาพยายามทำลายพยานหลักฐานโดยไปเอาโทรศัพท์มือถือผู้ตายออกมา ก่อนนำโทรศัพท์อีกเครื่องไปวางไว้แทน หรือหาทางเอาโทรศัพท์จากญาติผู้ตายมาให้ตนเองทำลายข้อมูลในโทรศัพท์ที่จะเชื่อมโยงมาถึงตัว รวมถึงยังเอาทรัพย์สินต่างๆ ของผู้ตาย และทำหลักฐานเท็จเพื่อไปเอาทรัพย์สินจากญาติผู้ตายด้วย

สำหรับความเกี่ยวข้องของผู้ต้องหาที่มีความใกล้ชิดกับนางสรารัตน์ นั้น หลังผู้ต้องหาลงมือสังหารเหยื่อที่ จ.ราชบุรี ก็ได้นำทรัพย์สินใส่กระเป๋ากลับไปหาสามีที่ จ.กาญจบุรี ก่อนสามี จะไปฝากไว้ที่บ้านเกิดแม่ ใน จ.สุโขทัย จากนั้นนางสรารัตน์ จึงแจ้งแม่สามีให้ส่งกระเป๋ากลับมา โดยสามีได้วางแผนร่วมกันกับทนาย เพื่อนำกระเป๋าไปซุกซ่อนที่อยู่ของพยานใน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

ส่วนเงื่อนไขตามข้อกฎหมาย ที่พิจารณางดเว้นโทษประหารหากผู้ต้องหาเป็นหญิงตั้งครรภ์นั้น ตามที่นางสรารัตน์ ได้แท้งลูกไปแล้ว จึงถือว่าไม่เข้าเงื่อนไขข้างต้น และข้อหาที่สั่งฟ้องมีโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต ขณะที่สำนวนทั้ง 15 คดีจะเริ่มทยอยส่งให้อัยการภายในวันนี้

ขณะที่ พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ พิศมัย รอง ผบก.สส.ภ.4 เผยว่า จากการตรวจสอบไซยาไนด์ที่ใช้ก่อเหตุมียี่ห้อชื่อแพรีแอค ผลิตที่ประเทศสเปน นำเข้าโดย 1 ใน 5 บริษัทในไทย ซึ่งเป็นไซยาไนด์ที่มีความเข้มข้นถึง 75% และสั่งนำเข้ามา 2,000 ขวด ตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งพบเป็นล็อตเดียวกันกับขวดของกลางที่ใช้ สำหรับสินค้าพบว่าคงเหลือที่ 543 ขวด และอีก 1,600 กว่าขวด ถูกจำหน่ายไปหลายแห่ง ทั้งสถานศึกษา และเทรดเดอร์ต่างๆ 6 แห่ง ที่ประชาชนสามารถสั่งซื้อได้ โดยพบว่ามีแห่งหนึ่ง จำหน่ายให้ประชาชนแล้วนำไปใช้ฆ่าตัวตาย ฆ่าสัตว์ หรือใช้ผิดวัตถุประสงค์ สำหรับนางสรารัตน์ ได้สั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ของบริษัทแห่งหนึ่งข้างต้น และผู้ต้องหาให้จัดส่งผ่านแมสเซ็นเจอร์แทนไปรษณีย์

Related Posts

Send this to a friend