‘นันทนา‘ ร่ายยาวเหตุผล สว.ควรชะลอเลือกองค์กรอิสระ
‘นันทนา‘ ร่ายยาวเหตุผล สว.ควรชะลอเลือกองค์กรอิสระ หวั่นเลือกคนเข้ามาตรวจสอบคดีตนเอง ทำงานแบบต่างตอบแทน ขู่หากลงมติ ปชช.มีสิทธิ์ยื่นสอบจริยธรรม
วันนี้ (30 พ.ค. 68) เวลา 09.30 น. ในการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 2 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ลุกขึ้นอภิปรายในญัตติ เสนอให้ชะลอการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญ เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ที่เสนอโดยนายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว.
นางสาวนันทนา กล่าวว่าหากไม่บรรจุวาระการเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช.และวาระการตั้งกรรมาธิการสามัญพิจารณาคุณสมบัติองค์กรอิสระอย่างเร่งรีบในสมัยประชุมวิสามัญนี้ เราคงไม่ต้องพิจารณาญัตตินี้ในวันนี้ เมื่อมีการบรรจุญัตตินี้แล้วก็หวังว่า สมาชิกทุกท่านจะเปิดใจกว้าง รับฟังเหตุผลและเสียงของประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศจนนำไปสู่การลงมติเห็นชอบให้มีการชะลอการลงมติใด ๆ เกี่ยวกับองค์กรอิสระออกไป
คำถามสำคัญคือ ทำไม สว.ต้องชะลอการลงมติเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรองค์กรอิสระ คำตอบที่ชัดเจนที่สุดคือ สว.กว่าครึ่งสภาฯ กำลังถูกแจ้งข้อกล่าวหาเรื่องการเข้าสู่ตำแหน่งโดยมิชอบ โดย กกต. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กำลังตรวจสอบอยู่ แม้ตามหลักกฎหมายจะถือว่าผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ถือว่าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วเป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย
หาก สว.ลงมติเห็นชอบ กกต.จะเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์หรือไม่ เลือกคนเข้ามาตรวจสอบคดีของท่านหรือไม่ อย่างนี้จะเรียกว่ามีธรรมาภิบาลหรือไม่ หรือเป็นเรื่องต่างตอบแทนกัน ส่วนกรณี ป.ป.ช. สว. จำนวน 92 คนยื่นเรื่องร้องเรียนเพื่อเอาผิดกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ข้อหาละเว้นการปฎิบัติหน้าที่มาตรา 157 จากนั้นก็มีกลุ่ม สว.สำรองยื่นร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบจริยธรรมของ สว.92 คนข้อหาใช้อำนาจนิติบัญญัติก้าวก่ายการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ
เมื่อท่านเป็นผู้ถูกร้องมีส่วนได้ส่วนเสีย โดยเป็นทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้อง แต่ท่านจะยังใช้สถานะ สว.คัดเลือก ป.ป.ช.จำนวน 3 คน เพื่อเข้าไปวินิจฉัยคดีของท่านอีกหรือ จะเป็นธรรมต่อผู้ร้องและผู้ถูกร้องหรือ หากท่านชนะคดีทั้งหมด คู่กรณีและประชาชนจะคิดอย่างไร
ขณะที่กรณีศาลรัฐธรรมนูญ สว. 92 คนยื่นร้องให้ตรวจสอบรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในข้อหาฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ขอให้ถอดถอนจากตำแหน่ง และขอให้ศาลสั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมหยุดปฏิบัติหน้าที่ ท่านเป็นผู้ร้องหากเห็นชอบตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 ท่านเข้าไปดำรงตำแหน่งในขณะที่ท่านเป็นโจทก์อยู่จะเท่ากับว่าเป็นการเลือกผู้พิพากษามาตัดสินคดีของท่านเองหรือไม่ จะเป็นธรรมต่อฝ่ายจำเลยหรือไม่
นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ สว.จำเป็นต้องชะลอการลงมติในการเลือกองค์กรอิสระและชะลอการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญพิจารณาคุณสมบัติออกไปจนกว่าคดีจะสิ้นสุด เพราะหากดึงดันสังคมจะมองว่าท่านใช้สถานะ สว.เพื่อประโยชน์แห่งคดีของท่านโดยแท้ ท่านอาจโต้แย้งเรื่องข้อกฎหมายว่า ไม่มีกฎหมายใดเปิดช่องให้หยุดปฎิบัติหน้าที่เป็นบางส่วนได้ หรืออาจมีผู้ร้องว่า สว.ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 แต่นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 93 ปีของประชาธิปไตยไทยที่ สว.ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเกินครึ่งสภาฯ ย่อมไม่มีกฎหมายไหนตามทัน เพราะเป็นเรื่องใหม่เพิ่งเกิดขึ้นในรุ่นนี้ เมื่อกฎหมายตามไม่ทันก็ต้องใช้จิตสำนึกและจริยธรรม
นางสาวนันทนา กล่าวต่อว่า ศาสตราจารย์พิเศษ จรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้เสนอทางออกไว้ กฎหมายไม่ได้เขียนห้ามก็จริงแต่ประเด็นที่ละเอียดกว่ากฎหมายสมควรทำหรือไม่ มันจะฝ่าฝืนจริยธรรมหรือไม่ ต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง ไม่เช่นนั้นที่คิดว่าไม่มีปัญหามันจะเป็นปัญหาใหญ่ทีเดียว เวลาตรวจสอบบุคคลที่ทำหน้าที่สำคัญต้องตรวจสอบทางจริยธรรมว่า เป็นแบบอย่างได้หรือไม่ เมื่อเราจะตรวจสอบเขา การตรวจสอบต้องมีมาตรฐานจริยธรรม เพราะฉะนั้นเพื่อความรอบคอบควรเลื่อนภารกิจนี้ไปก่อน เพราะคนในองค์กรอิสระยังทำงานได้อยู่ ไม่ได้มีเหตุว่าถ้าไม่ผ่านภายในวันนี้ เดือนนี้จะเกิดสุญญากาศ
ทั้งหมดเป็นคำแนะนำของปรมาจารย์ด้านกฎหมาย ที่ชี้ทางให้ สว.ทั้งหลายชะลอการทำหน้าที่เกี่ยวกับองค์กรอิสระออกไปก่อน เพื่อความสง่างามของการดำรงตำแหน่ง สว.และเพื่อไม่ให้การลงมติในวันนี้สร้างปัญหาต่อประเทศชาติและต่อตัวท่านเอง ทั้งนี้ สว.กลายเป็นเรื่องโด่งดังที่ประชาชนพากันจับตาว่า จุดจบของคดีนี้จะเป็นอย่างไร หากท่านทั้งหลายไม่ปิดหูปิดตาตนเอง ท่านย่อมทราบดีว่าขณะนี้ประชาชนจำนวนมากกล่าวขานถึง สว.ชุดนี้อย่างไร เขาคลางแคลงใจต่อที่มาของ สว.ชุดนี้มากเพียงใด
ท่านทั้งหลายอาจฟื้นฟูศรัทธาของประชาชนได้ด้วยการแสดงให้เห็นว่าการดำรงตำแหน่ง สว.ของท่าน ไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์แห่งตนหรือพวกพ้อง ด้วยการชะลอลงมติใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับองค์กรอิสระจนกว่าคดีจะสิ้นสุด เมื่อท่านบริสุทธิ์ก็จะกลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่หากท่านยังดึงดันที่จะลงมติเลือกองค์กรอิสระต่อไป โปรดรู้ไว้ว่าการกระทำของท่านได้ฝืนความรู้สึกของประชาชน และประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศย่อมมีสิทธิ์ที่จะยื่นตรวจสอบจริยธรรมท่านที่ลงมติในวันนี้ด้วย