‘เทวฤทธิ์’ ลุกแจงญัตติชะลอตั้งองค์กรอิสระ ขอวุฒิสภาเดินตามหลักการ
‘เทวฤทธิ์’ ลุกแจงญัตติชะลอตั้งองค์กรอิสระ ขอวุฒิสภาเดินตามหลักการ อย่าปล่อยเพื่อนโดดเดี่ยว หลังมี 13 สว.ลาออก กมธ.สอบประวัติ ป.ป.ช. หวั่นผลประโยชน์ทับซ้อน
วันนี้ (30 พ.ค. 68) ในการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 2 สมัยวิสามัญ เป็นพิเศษ ที่มี นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้เลื่อนญัตติขอให้ชะลอการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อัยการสูงสุด รวมทั้งให้ความเห็นชอบกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จนกว่ามีคำตัดสินในคดีที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวนมาก ตกเป็นผู้ถูกร้องและผู้ร้องขณะนี้ ขึ้นมาพิจารณาก่อนที่จะมีการตั้งกรรมาธิการตรวจสอบประวัติฯ และให้ความเห็นชอบตำแหน่งต่าง ๆ
นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว. ในฐานะผู้เสนอญัตติ ได้อภิปรายแสดงเหตุผลยืนยันถึงหลักการทับซ้อนแห่งผลประโยชน์ เพราะ สว.จำนวนหนึ่งกำลังเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบโดย กกต.หรือ ป.ป.ช. แม้จะยังสถานะเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ญัตติดังกล่าวเกิดจากสิ่งที่ สว.หลายท่านกรุยทางไว้ ไม่ว่าจะเป็นการร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ และ ป.ป.ช.เพื่อขอให้ตรวจสอบบทบาทของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ที่มาแทรกแซงกระบวนการได้มาซึ่ง สว. รวมถึงกรณีที่มี สว. 13 คน ลาออกจากกรรมาธิการสอบประวัติฯ ผู้ได้รับเสนอชื่อเป็น ป.ป.ช. เพื่อเป็นการป้องกันประเด็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ระหว่างปฏิบัติหน้าที่กับประเด็นการร้องทุกข์กล่าวโทษที่ได้ร้องทุกข์ไว้และอยู่ระหว่างการพิจารณาของ ป.ป.ช.
เมื่อ สว.คำนึงถึงปัญหาการแทรกแซงกระบวนการปัญหาการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ในวันนี้ที่ สว. กำลังจะใช้สถานะผู้ให้ความเห็นชอบใน 3 องค์กรอิสระที่ สว. จำนวนมาก กำลังตกเป็นคู่กรณี ทั้งในสถานะผู้ร้องหรือผู้ถูกร้อง ดังนั้นจึงหนีไม่พ้นที่จะมองว่าเรื่องที่ดำเนินการอยู่นี้ผิดหลักการขัดกันแห่งผลประโยชน์ พร้อมเรียกร้องว่าไม่ควรปล่อยให้ สว.ทั้ง 13 คนซึ่งได้ลาออกจากคณะกรรมาธิการฯ ต้องเดินตามหลักการอย่างโดดเดี่ยว เพราะพวกท่านนำทางไว้ให้เราแล้ว
ส่วนข้อกังวลว่าจะเกิดสุญญากาศหากไม่มีคนเข้าไปทำงานในองค์กรอิสระต่าง ๆ เราไม่ได้ชะลอตลอดไป เพียงแค่ในช่วงที่มีการตรวจสอบ คาดว่า 6 เดือนน่าจะแล้วเสร็จ ยังมีรักษาการดำรงตำแหน่งอยู่ได้ จึงขอให้สมาชิกคำนึงถึงผลเสียที่จะตามมาระหว่างการเดินหน้าต่อหรือชะลอไปก่อน
