POLITICS

นายกฯ ขอวัยรุ่นอย่าใจร้อน ‘โวผลงาน 6-7 ปื ที่ทำไว้ถือว่าเร็วแล้ว

นายกฯ ขอวัยรุ่นอย่าใจร้อน ‘โวผลงาน 6-7 ปื ที่ทำไว้ถือว่าเร็วแล้ว ภายใต้เงื่อนไขของกฎหมาย และกระแสต่อต้าน

วันนี้ (30 พ.ค. 65) พลอ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนการประชุม นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นำคณะนักกีฬา​อี​สปอร์ต​ทีมชาติไทยที่ได้รับเหรียญทอง​จากกีฬาซีเกมส์​ ที่ประเทศเวียดนาม​ (Fifa online, ROV) และ​ นักกีฬา​อีสปอร์ตที่ได้รับรางวัลแชมป์โลก​ (เกมส์ Free fire ทีม​ Attack All Around) เข้าพบ

โดยนายกรัฐมนตรี แสดงความยินดีกับนักกีฬาอีสปอร์ต และในนามของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลยินดีกับทุกคนด้วยใจจริงและจะให้การสนับสนุนต่อไป เพื่อให้เกิดเป็นมูลค่าสร้างสรรค์ประเทศเราให้เจริญก้าวหน้าต่อไป เพราะเรามักมีรายได้ของประเทศจากสิ่งเดิมๆ ดังนั้นจำเป็นต้องหาแหล่งรายได้ใหม่ นอกจากเรื่องของกีฬา การท่องเที่ยวของเราก็พัฒนาให้มีคุณภาพ พัฒนาสาธารณณูปโภคพื้นฐาน แต่ที่สำคัญคือการพัฒนาทรัพยากร มนุษย์ ซึ่งบางครั้งจำเป็นเราต้องเรียนรู้จากคนอื่นด้วย

“อยากให้น้องๆ หลานๆ ทุกคน ค่อยๆ ไปติดตามดูว่ารัฐบาลทำอะไรไปแล้วบ้างในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นายกฯ เข้าใจว่าคนรุ่นใหม่ ค่อนข้างใจร้อน ค่อนข้างอยากจะให้เร็วๆ อยากให้เสร็จโดยเร็วง่ายๆ ทำให้ไว สิ่งที่นายกฯทำมา6-7 ปี ก็ถือว่าเร็วแล้ว คำว่าเร็วคืออะไร มันก็คือต้องผ่านขั้นตอนอีกมากมายในการจะทำอะไรก็ตาม นั่นคือการปฏิรูป จนถึงวันนี้สถานะของเราในอาเซียนไม่ได้แพ้ใคร ประเทศไทยยังเป็นแหล่งฐานในการลงทุน ทั้งการขยายอุตสาหกรรมเก่า และเพิ่มอุตสาหกรรมใหม่เราก็อยู่ในกลุ่มนี้ ที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เป็นอนาคตที่วางไว้ให้กับพวกเรา

และวันข้างหน้าเราจะมีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทางกระทรวงดีอีกำลังขับเคลื่อนจนทำให้ไทยขยับขึ้นเป็นอันดับต้นต้นของอาเซียนในเรื่องของเทคโนโลยี 5G ซึ่งดีกว่าหลายประเทศก็ได้หรือจะเรียกว่าดีที่สุดก็ได้ เป็นสิ่งที่หลายคนไม่ทราบเพราะเราไม่ค่อยสนใจในเรื่องที่ยุ่งยาก ไม่สนใจในระบบระเบียบราชการมากนัก ซึ่งโทษใครไม่ได้ เพราะคิดไวทำไวเหมือนเครื่องจักรเปิดปุ๊บออกปั๊บ แต่รัฐบาลทำแบบนั้นไม่ได้เนื่องจากติดกติกากฎหมาย

เราต้องทำทุกอย่างให้ปลอดภัยโดยเฉพาะการใช้จ่ายงบประมาณ แต่ถ้าคนเข้าใจก็จะไปต่อได้และเร็วขึ้น แรงต่อต้านก็จะลดลง วันนี้นายกฯ ยังต้องเผชิญกับเรื่องเหล่านี้อยู่โดยเฉพาะการต่อต้านต่างๆ ซึ่งบางครั้งมันไม่ใช่สาระ ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เพราะไม่เข้าใจไม่พยายามเข้าใจ นั่นคือปัญหา

อย่างไรก็ตามผมคิดว่าทุกคนในห้องนี้เข้าใจว่าผมกำลังทำอะไรให้กับประเทศ และส่วนที่สำคัญที่สุดคือครอบครัวของตัวเองในวันหน้าจะอยู่กันอย่างไร จะมีอาชีพรายได้เลี้ยงครอบครัวอย่างไร ลูกหลานต้องมีชีวิตความเป็นอยู่ที่เข้มแข็งและดีกว่าเรา รัฐบาลต้องดูแลคนทั้ง 70 ล้านคน

Related Posts

Send this to a friend