‘ภูมิธรรม’ ย้ำ ปราบยาเสพติดครั้งนี้ต้องเด็ดขาด

‘ภูมิธรรม’ ย้ำ ปราบยาเสพติดครั้งนี้ต้องเด็ดขาดวางกรอบประเมิน 3 ช่วง ทั้งเชิงปริมาณ-คุณภาพ ชี้เจ้าหน้าที่สามารถใช้วิธีตอบโต้ เพื่อป้องกันชีวิตตามหลักกฎหมาย

วันนี้ (30 ม.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังมอบนโยบายในพิธีเปิดปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด seal stop safe ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน ว่า วันนี้ต้องย้ำให้ความสำคัญพื้นที่ทั้ง 14 จังหวัด และ 51 อำเภอ เพราะว่า เป็นพื้นที่ป้องกันการหลุดรอด และลักลอบของยาเสพติด โดยมองว่า การสร้างแนวป้องกันจะเป็นการป้องกันทะลักของยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทย โดยวางกรอบการประเมินไว้ 3 ช่วง

ช่วงที่ 1 คือช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม

ช่วงที่ 2 คือช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม

ช่วงที่ 3 คือช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม

ส่วนการยกระดับหน่วยงานราชการกับชุมชนจะทำได้อย่างไรนั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า แม่ทัพภาคในแต่ละพื้นที่จะมีการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาพูดคุยหารือ และกำหนดแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน โดยรัฐบาลจะใช้ประชาชนเป็นตัวประเมินชี้วัด เพื่อให้เกิดความครบถ้วนรอบด้าน แต่มีการดำเนินงานในขั้นต้น คือ กอ.รมน. และ กระทรวงมหาดไทย ภายใต้หลักการประชาชนเข้มแข็ง เพื่อทำให้พื้นที่มีความแข็งแรงมากขึ้น เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความปลอดภัยของชุมชน เชื่อว่าจะเป็นแรงผลักดันให้ประชาชนเข้ามาร่วมทำงาน

นายภูมิธรรม ยืนยันว่า การทำงานครั้งนี้ต้องเด็ดขาด ภายใต้กรอบกติกา ที่ไม่เกินกว่าเหตุ และยึดถือให้ประชาชนมีความมั่นใจว่า ดำเนินการภายใต้หลักกฎหมายยุติธรรม

นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตัวชี้วัดในครั้งนี้จะใช้กลไกตรวจสอบในเชิงปริมาณ และคุณภาพ โดยในเชิงปริมาณให้ฝ่ายปฏิบัติประเมิน โดยนำตัวเลขที่ฝ่ายข่าวกรองมากำหนดตัวเลขให้มีความท้าทายเพิ่มมากขึ้น แล้วต้องดูว่า ยาเสพติดหลุดรอดเข้ามาทางจุดไหน โดยอ้างอิงจากผลที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ว่าสามารถทำได้เท่าไหร่และกำหนดกรอบความท้าทายเพิ่ม ส่วนในเชิงคุณภาพจะเป็นการประเมินในพื้นที่ โดยวัดจากประชาชนโดยจะนำสถาบันภายนอกเข้ามากำหนด และประเมินตัวชี้วัด

ส่วนการนำตัวเลขมาเป็นตัวตั้งจะเป็นการกดดันหน่วยงานที่ปฏิบัติงานหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า การนำตัวเลขมาเป็นตัวตั้ง เพื่อทำให้หน่วยงานที่ปฏิบัติหน้าที่ เร่งที่จะทำงานและตรวจสอบในเชิงลึกรวมถึงในเรื่องปัญหาการร้องเรียนยัดยาเสพติด และประชาชนก็ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการ เชื่อว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน เพราะประชาชนอยู่ในตัวชี้วัดอยู่แล้ว ส่วนตัวจึงได้มีการกำชับ ให้ดำเนินการให้เด็ดขาดอย่าปล่อยปละละเลยปัญหานี้ โดยให้คำนึงถึงกระบวนการยุติธรรมตามกฏหมายให้เคร่งครัด และต้องเกินเลยขอบเขตอำนาจหน้าที่

นายภูมิธรรม ระบุว่า รัฐบาลต้องเชื่อใจผู้ปฏิบัติ ที่ไม่ได้แค่ปฎิบัติหน้าที่ แต่ยังต้องเสียสละชีวิต และมีความเสี่ยงทุกครั้งในการปฎิบัติหน้าที่ และจะต้องแก้ไขปัญหาที่ตามมาตามข้อเท็จจริง

ส่วนการปฎิบัติหน้าที่หากมีการปะทะกับผู้ค้ารายใหญ่ นายภูมิธรรม ระบุว่า เราคงไม่ยืนให้เขาใช้อาวุธยิงเราฝ่ายเดียว แต่ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมหากมีการใช้อาวุธเราสามารถป้องกันได้ ดังนั้นเชื่อว่า การปฎิบัติหน้าที่จะต้องมีความระมัดระวังเพราะชีวิตของเจ้าหน้าที่รัฐบาลมีความคำนึงถึงด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถใช้ยุทธวิธีการตอบโต้ในการปฎิบัติหน้าที่ได้ ทั้งนี้ ความคาดหวังการซีลชายแดนจะทำให้ชุมชนมีความสงบสุข เพราะปัญหาที่ประชาชนกังวลใจจะได้หมดไป