‘พิจารณ์‘ กราบขอโทษประชาชน เปลี่ยนตัวผู้สมัคร สส.กทม.กะทันหัน เหตุถูกออกหมายจับเอี่ยวฟอกเงินยาเสพติด

ยันพรรคปรับปรุงระบบคัดเลือก เพิ่มขั้นตอนตรวจประวัติอาชญากรรม-เครดิตบูโร ลั่นมีส้มไม่มีเทา ไม่ขอก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรม

วันนี้ (29 ธ.ค.68) นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรคประชาชน แถลงข่าวด่วนกรณีเปลี่ยนตัวผู้สมัคร สส.เขต 33 กรุงเทพมหานคร กะทันหันว่า เมื่อ 07.00 น. ที่ผ่านมา ตนเองได้โทรศัพท์หานายบุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์ ผู้สมัคร สส.เขต 33 (บางพลัด-บางกอกน้อย) กรุงเทพมหานคร ถึงตารางการลงพื้นที่ในช่วงปีใหม่ ซึ่งนายบุญฤทธิ์เล่าให้ฟังว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเข้ามาตรวจค้นในที่พักอาศัย ตนเองจึงสอบถามเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งพบว่ามีการออกหมายจับเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.68 ในข้อกล่าวหาฟอกเงิน หลังจากที่พรรคได้รับทราบ
จึงมีการหารือกับคณะกรรมการบริหารพรรค และมีความจำเป็นที่จะต้องรีบเปลี่ยนตัวผู้สมัคร

“ผมกราบขอโทษพี่น้องประชาชนในเขตบางกอกน้อย-บางพลัดที่เราทำได้ไม่ดีในการคัดเลือกผู้สมัครมาเป็นตัวแทนของพรรคเข้าสู่การเลือกตั้ง”

นายพิจารณ์ กล่าวต่อว่า กระบวนการคัดสรรของพรรคประชาชน เราพัฒนาปรับปรุงในหลายด้านทุกการเลือกตั้ง รอบนี้มีการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมและเครดิตบูโร มีการประกาศชื่อผู้สมัครให้ประชาชนเข้ามาแสดงความเห็น ซึ่งจากการแสดงความคิดเห็นผู้สมัครในเขตนี้ไม่ได้พบข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้น

โดยหมายจับออกเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.68 พรรคมีการทำไพรมารีโหวตในวันที่ 19 ธ.ค.68 และส่งผู้สมัครเข้าไปสมัครในวันที่ 27 ธ.ค.68 ไม่อาจทราบได้ว่ามีข้อกล่าวหาดังกล่าว จึงกราบขออภัยพี่น้องประชาชนอีกครั้ง เราจะเร่งหาผู้สมัครให้เร็วที่สุดเพื่อส่งผู้สมัครคนใหม่ให้ทันในวันที่ 31 ธ.ค.นี้

นายพิจารณ์ ยืนยันว่าเพิ่งทราบเรื่องเมื่อช่วงเช้านี้ นายบุญฤทธิ์แจ้งตนเองผ่านโทรศัพท์ จึงได้มีการสอบถามพูดคุยในรายละเอียดและแจ้งให้ทราบว่าถ้าเป็นลักษณะเช่นนี้ พรรคจำเป็นจะต้องเปลี่ยนตัว เพื่อให้นายบุญฤทธิ์เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม พรรคประชาชนยืนยันว่าจะไม่เข้าไปก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรม

ส่วนที่พรรคประชาชน ระบุว่า “มีเราไม่มีเทา” เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะทำให้กระแสพรรคประชาชนลดลงหรือไม่ นายพิจารณ์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่เรายืนยันว่า “มีส้มไม่มีเทา” ไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องปกป้องใคร ปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมว่ากันไป ขณะนี้ผู้สมัครถูกออกหมายจับแล้ว การออกหมายจับครั้งนี้คงไม่ได้มาเล่น ๆ คงจะมีการสืบสวนสอบสวนมาอยู่แล้ว ผู้สมัครต้องเข้ากระบวนการยุติธรรมต่อไป ขณะนี้อาจจะมีความเคลือบแคลงสงสัยจึงจำเป็นจะต้องเปลี่ยนตัวผู้สมัครทันที เพื่อให้ได้ผู้สมัครและตัวแทนพรรคที่จะให้ประชาชนเลือกอย่างดีที่สุด

ส่วนจะมีการตรวจสอบผู้สมัครคนอื่น ๆ ด้วยหรือไม่นายพิจารณ์ ยืนยันว่ากระบวนการคัดสรรผู้สมัครทำรอบคอบที่สุด ไม่ใช่แค่ระดับเขตแต่รวมถึงระดับบัญชีรายชื่อด้วย กระบวนการเลือกตั้งทุกครั้งพรรคพัฒนากระบวนการคัดสรรผู้สมัคร มีการอบรมและการประเมินการทำงาน สิ่งที่พรรคทำได้ในช่วงเวลาที่มีอยู่คือ การตรวจสอบในรายละเอียดซ้ำอีกครั้งหนึ่ง

ทั้งนี้นายบุญฤทธิ์ ได้พยายามอธิบายว่าเขาเข้าไปเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นในบริษัทที่เพื่อนดำเนินธุรกิจอยู่ ซึ่งบริษัทนี้มีการส่งออกน้ำมันไปในต่างประเทศ เข้าใจว่าอาจจะมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินตามหมายจับ ขอให้นายบุญฤทธิ์เข้าสู่กระบวนการเพื่อพิสูจน์ตนเอง

นายพิจารณ์ กล่าวต่อว่าในการคัดสรรผู้สมัคร เรามีผู้สมัครหลายคนที่เข้ามาอบรมสัมภาษณ์ บางคนอาจจะสมัครในเขตเลือกตั้งอื่น เราก็จะนำผู้สมัครเหล่านี้มาพิจารณาและเข้าสู่กระบวนการไพรมารี่อีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้อาจจะมีเหตุการณ์ที่ทำให้ประชาชนผิดหวัง จึงกราบขออภัยอีกครั้งที่ผู้สมัครเราไม่สมบูรณ์แบบ 100% แต่ยืนยันได้ว่าพรรคประชาชน “มีส้มไม่มีเทา” มีเราจะต้องแก้ปัญหาทุจริต ทุนเทา สแกมเมอร์ เมื่อเราพบทันทีเราจะหาตัวผู้สมัครที่ดีที่สุดให้ประชาชนเลือก

“เมื่อพรรคประชาชนเข้าสู่อำนาจ เราจะไม่อ่อนข้อต่อทุนเทา การทุจริตคอรัปชั่น เพื่อพาประเทศไทยไปสู่ประเทศไทยที่ไม่เทา เท่าเทียมกัน และเท่าทันโลก”