POLITICS

‘สุชาติ’ เผยกราบลา ‘ประวิตร’ แล้วพร้อมลาออก กก.บห.พลังประชารัฐ ย้ำ ไปกับ ‘ประยุทธ์’

‘สุชาติ’ เผยเข้ากราบลา พล.อ.ประวิตรแล้วพร้อมลาออก กก.บห.พลังประชารัฐ แต่ยังเคารพรักลุงป้อมเหมือนเดิม บอกมีภารกิจต้องไปทำเพื่อชาติ ย้ำจุดยืนชัดเจน พล.อ.ประยุทธ์ไปไหนไปด้วย

วันนี้ (29 พ.ย. 65) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่าตนได้ไปกราบลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแล้ว และถือโอกาสลาออกจาก กรรมการบริหารพรรคเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวานนี้ (28 พ.ย. 65) ช่วงเช้า ตอนเเรกตนไม่ได้คิดจะออกมาพูด แต่เมื่อเป็นข่าวแล้ว ก็อยากให้ฟังจากปากของตนเองมากกว่า ซึ่งสื่อก็เห็นว่าตนมีความชัดเจนในหลายเรื่อง แล้วถ้าจะอยู่เพื่อกั๊กตำแหน่งที่สำคัญในพลังประชารัฐ มันก็ไม่ใช่ตัวผม ที่มีความชัดเจน เพราะยังมีผู้ใหญ่ที่มีความสามารถและมีความสำคัญในพรรค ที่เหมาะสมจะมาทำหน้าที่ ผู้อำนวยการพรรค ตนจึงถอยออกมา เพื่อไม่ขวางให้พรรคเดินหน้าเติบโตไปได้ ตนจึงต้องแสดงจุดยืน ในการไปกราบลา พล.อ.ประวิตรและลาออกจาก กรรมการบริหารพรรค ด้วย

นายสุชาติ บอกด้วยว่า พล.อ.ประวิตร เข้าใจ ซึ่งตนยังให้ความเคารพรัก อย่างที่สุดอยู่แล้ว แต่ในทางการเมืองต้องมีความขัดเจนและจุดยืนของตน ซึ่งแสดงไปแล้วว่า การเลือกตั้งครั้งต่อไป ตนก็ต้องออกมาทำภารกิจที่คิดในใจว่าจะต้องทำอะไร

เมื่อถามย้ำว่า พล.อ.ประวิตรได้อวยพรอย่างไรบ้าง นายสุชาติ บอกว่า “พล.อ.ประวิตรท่านก็รับทราบและเข้าใจผม ลูบหัวผม เข้าใจสิ่งที่ผมปฏิบัติและมีความชัดเจน เป็นคนที่ตรงๆ พูดจริงพูดตรง” ถึงผมจะไม่ได้อยู่เป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐในวันนี้ แต่ก็อยากให้เกิดความชัดเจนมากกว่า ไม่อยากให้มองว่าเป็นตัวขวางหรือตัวถ่วงของใคร

เมื่อถามต่อว่า พล.อ.ประวิตรได้พูดถึง ส.ส.ที่จะย้ายตามไปอย่างไร นายสุชาติ กล่าวว่า ส่วนนี้ไม่ได้พูดถึง พร้อมบอกว่า เพื่อน ส.ส.ยังไม่ได้สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ในทางการเมือง เราแค่มองอนาคตทางการเมืองในพื้นที่ ของตนและเพื่อน ส.ส. ที่เรามีความผูกพันธ์ มันเป็นความคิดที่เพื่อนทุกคน มีความคิดเป็นของตัวเอง ถ้าใครคิดว่าในพื้นที่อยู่ตรงไหนแล้วสามารถที่จะทำงานให้ประเทศชาติ บ้านเมืองได้ หรือที่จะสามารถเข้ามาเป็น ส.ส.ได้ในสมัยหน้า ตรงนั้นไม่สามารถการันตีได้ แต่ส่วนตัวต้องตัดสินใจของตนก่อน

นายสุชาติ ยังได้ชี้แจงคำว่า “ตัวถ่วง” ไม่ได้หมายความว่าตนขัดแย้งกับใคร แต่เป็นอย่างที่ตนโพสต์ว่าถ้ามีอะไรขึ้นมา หรือที่เคยพูดแล้วสื่อเสนอ ตนก็ต้องแสดงจุดยืน ในการไปกับนายกรัฐมนตรีถ้ามีเหตุการณ์เกิดขึ้น ดังนั้นการที่ตนพูดไว้แล้ว ถ้าตนยังอยู่ในพรรค ขณะที่พรรคกำลังเติบโต หรือทำให้พรรคไม่สบายใจก็ต้องพิจารณาตัวเอง ซึ่งการโพสต์ทำให้มีการพูดกันว่าทำให้คนอื่นไม่สบายใจ ตนคิดก่อนคนอื่นและไม่สนใจ ใครจะพูดอะไรก็พูดไป แต่ตนต้องไปพูดและกราบเล่า ความรู้สึกให้ พล.อ.ประวิตร รับทราบเท่านั้น ขอให้พล.อ.ประวิตร เข้าใจตนคนเดียวก็พอ และที่ผ่านมาตนก็ได้ทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่

ส่วนจะมีความชัดเจนว่าจะไปร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติเมื่อใดนั้น นายสุชาติ ตอบว่าต้องรอความชัดเจนของสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น บางอย่างพูดตอนนี้ไม่ได้เพราะติดเรื่องกฎหมาย แต่ตนต้องแสดงความรับผิดชอบและจุดยืนของตน เพื่อให้ผู้ใหญ่ในพรรครวมถึงเพื่อ ส.ส.สบายใจ และในพรรคก็มีคนที่พร้อมทำหน้าที่ เมื่อเราไม่พร้อมก็ต้องถอย เรื่องความชัดเจนตนบอกในส่วนตนเองได้ตั้งโพสต์แล้ว แต่ส่วนของผู้ใหญ่นั้นไม่สามารถตอบแทนได้

นายสุชาติเลี่ยงที่จะตอบคำถามว่าใจ ไม่ได้อยู่กับพรรคพลังประชารัฐแล้ว แต่บอกว่าไม่ใช่เรื่องใจ อยู่ที่ว่าตนจะไปทำอะไรมากกว่า จะบอกว่าใจตนไม่อยู่กับพรรคพลังประชารัฐก็ไม่ใช่ เพราะยังรักลุงป้อม ซึ่งภารกิจที่ตนจะไปทำมีความสำคัญในการทำงานเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองบางอย่าง จึงคิดว่าตนไปอยู่ตรงไหนจะทำประโยชน์ให้ได้มากที่สุด

พร้อมกันนี้นายสุชาติ ยังเลี่ยงที่จะพูดถึงจุดอ่อนของพรรคพลังประชารัฐ โดยบอกว่าทุกพรรคการเมืองมีทั้งคนเข้าคนออกเป็นเรื่องปกติ อยู่ที่บริบท สถานการณ์ วันนี้และวันข้างหน้าที่จะเกิดขึ้น อยู่ตรงที่ทุกคนคิดว่าไปถึงเป้าหมาย ก็อยู่ตรงนั้น ทุกพรรคการเมืองมีทั้งจุดอ่อนและจุดเเข็ง ไม่มีพรรคไหนที่จะมีแต่จุดเเข็งทั้งหมด

เมื่อถามว่าการแยกทางการเมืองของ พล.อ.ประวิตรและ พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นอย่างไร นาย สุชาติ มองว่า ขณะนี้ยังไม่เกิดภาพชัดเจน เมื่อถึงวันนั้นจะเห็นอะไรหลายอย่าง วันนี้ยังพูดไม่ได้ เพราะทั้ง 2 คนก็ยังรักกัน เหมือนตนก็ยังรักลุงป้อมอยู่เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ในทางการเมืองต้องเลือกในสิ่งที่เราคิดว่าได้ประโยชน์ และทำประโยชน์เพื่อชาติได้ พร้อมย้ำจุดยืนตนเป็นจุดยืนเดียวกับนายกฯ ต้องไปช่วยนายกฯ

เมื่อถามว่าสุดท้ายแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ไปต่อไม่ได้ นายสุชาติกล่าวว่า “ตัวตนผมอยู่ที่ท่านนายกฯ “

เมื่อถามย้ำว่าถ้านายกฯ ไปต่อไม่ได้ก็ยังจะอยู่กับนายกฯ ใช่หรือไม่ นายสุชาติ ย้ำว่าบอกไปแล้วว่าตนก็ยังจะอยู่กับ นายกฯ เป็นหลัก

ขณะเดียวกันนายสุชาติ ยอมรับด้วยว่า การเเยกทางการเมืองเป็นสิ่งที่ตัดสินใจยากมาก โดยเปรียบเหมือนความรักต่อพ่อแม่ ที่อยู่ด้วยกันแต่มีความจำเป็นที่จะต้องแยกกันอยู่คนละจังหวัด คนละประเทศ จะเลือกอย่างไร เช่นพ่อแม่ต้องไปทำธุรกิจจะทำอย่างไร แต่ยืนยันไม่ใช่บ้านแตกเพราะยังรักกันอยู่ แต่มีภารกิจบางอย่างซึ่งพ่อแม่ก็ยังรักกัน แต่คนเป็นลูกก็ต้องคิดว่าจะต้องทำอย่างไร

ส่วนมองว่าเป็นการแยกกันตีหรือไม่ นายสุชาติ บอกว่าก็มองได้หลายมุมเพราะความรักยังมีอยู่ทั้งหมดไม่ได้ทะเลาะกัน

เมื่อถามว่า นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช บอกว่ารักพล.อ.ประยุทธ์ เหมือนพ่อ รัก พล.อ.ประวิตรเหมือนแม่ แต่ต้องเลือกแม่ เพราะเป็นลูกต้องดูดนมเเม่ นายสุชาติ บอกว่าทุกคนที่เป็นสมาชิกและ ส.ส.ในพรรค พล.อ.ประวิตร ดูแลพวกเราเป็นอย่างดีเหมือนคนในครอบครัว แต่บริบททางการเมืองแต่ละพื้นที่ หรือจุดยืน อุดมการณ์ มันปรับเปลี่ยนตามสถานะและห้วงเวลา

เมื่อถามว่ายืนยันได้หรือไม่ จะไม่ไปสังกัด รวมไทยสร้างชาติ ทั้งในขณะนี้และในอนาคต นายสุชาติ ร้องโอ๊ะ บอกว่ายังพูดไม่ได้อนาคตการเมือง บางคนวันนี้บอกอยู่ตรงนี้ อีกไม่กี่วันยังไปตรงอื่นได้ แต่ยืนยันว่าตนไปกับ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมบอกว่า การลาออกของตนไม่เกี่ยวกับกระแสข่าว ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า จะกลับมาพรรคพลังประชารัฐ

Related Posts

Send this to a friend