‘ปกรณ์วุฒิ’ เผย ฝ่ายค้านต้องทำงานหนักขึ้น หลังผลโพลประชาชนไม่เชื่อมั่นการทำงานของฝ่ายค้าน

หวัง นายกฯ ตอบกระทู้สดในสภาฯ สมัยหน้า งง ‘เพื่อไทย’ เสียงแตกกฎหมายนิรโทษรวม ม.112 ยินดีเห็นชอบ หากเสนอกฎหมายประกบ นิรโทษกรรมทุกความผิดในเหตุจูงใจทางการเมือง

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษมาตรา 112 ว่า หลายเรื่องที่พรรคเพื่อไทยเคยพูดมาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง คิดว่าเพื่อไทยเข้าใจดีเกี่ยวกับ 112 แต่ก็ไม่แน่ใจว่าด้วยข้อจำกัดอะไรที่ในวันนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ แต่ถ้าไปดูในรายงานกรรมาธิการที่ศึกษากันไปแล้ว มีกรรมาธิการของพรรคเพื่อไทย 8 คน ซึ่ง 4 คนเห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมมาตรา 112 แบบมีเงื่อนไข อีก 2 คนไม่เห็นด้วย และอีก 2 คนไม่แสดงความเห็น

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า กรรมาธิการที่ตั้งขึ้นมาเป็นดำริของพรรคเพื่อไทย ที่ตั้งญัตติเพื่อต้องการที่จะศึกษา ต้องการที่จะรับฟังความเห็นรอบด้าน แต่เมื่อรับฟังมาแล้วตัวแทนของพรรคเพื่อไทยกว่าครึ่งมีความเห็นแบบนี้ ตกลงแล้วพรรคเพื่อไทยจะส่งร่างนิรโทษกรรมเข้ามาประกบกับพรรคประชาชนและพรรคอื่น ๆ ในสมัยหน้าหรือไม่ และหน้าตาจุดยืนของพรรคเพื่อไทยเพื่อแก้ไขปมความขัดแย้งต่อเนื่องมายาวนานหลายปีจะมีแนวทางอย่างไร

ส่วนที่พรรคร่วมรัฐบาลอื่นมีแนวโน้มที่จะคว่ำร่างนิรโทษกรรมของพรรคประชาชน ก็ต้องมีการพูดคุยสื่อสารกับพรรคการเมืองด้วยกันเองและสังคมว่าเจตนาที่แท้จริงของเราคืออะไร การทำงานในสภาเข้าใจว่าสุดท้ายต้องเคารพเสียงข้างมาก แต่ต้องฝากว่าถ้าพรรคเพื่อไทยจะเสนอเนื้อหาที่อาจจะเปลี่ยนแปลงไปจากที่พรรคประชาชนเสนอไปบ้าง แต่ก็ยังเปิดโอกาสให้คนกระทำความผิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะฐานความผิดใดแต่ด้วยแรงจูงใจทางการเมือง ก็ควรได้รับโอกาสนิรโทษกรรม เราก็ยินดีที่จะเห็นชอบ

ทั้งนี้ อยากให้พรรคเพื่อไทยระลึกไว้ว่าทุกพรรคการเมืองไม่ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ก็มีความคิด มีอุดมการณ์เป็นของตนเอง ไม่จำเป็นจะต้องเห็นพ้องกันทุกเรื่อง แม้จะเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ถ้าเรายึดหลักการของพรรคตัวเองให้มั่น พรรคประชาชนยินดีที่จะเห็นชอบกับเรื่องต่าง ๆ ที่เป็นไปในทิศทางเดียวกับอุดมการณ์ของเรา ไม่ว่าจะพรรคไหนเป็นคนเสนอ

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวถึงผลสำรวจที่ไม่เชื่อมั่นการทำงานของฝ่ายค้านว่า สะท้อนการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้านให้เราทำงานหนักขึ้น พรรคประชาชนเพิ่งเกิดมาไม่นาน ถึงแม้จะเคยเป็นพรรคก้าวไกลมาก่อนก็ตาม แต่ก็ไม่เสียกำลังใจ จะใช้การทำงานอย่างหนักของเราพิสูจน์ในอนาคต สมัยประชุมหน้าเราจะกลับมาอย่างเต็มที่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องญัตติต่าง ๆ หรือ พ.ร.บ.ที่เสนอเข้าสภา 70 ฉบับแล้ว ก็จะทำให้ประชาชนได้เห็นอยู่เรื่อย ๆ

ส่วนกระแสนิยมอาจตกอาจเพราะประชาชนเห็นว่าทั้งก้าวไกลเดิมเคยเป็นมิตรกับพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะกรณีที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เคยพบกับนายทักษิณชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี “รอสมัยประชุมหน้า จะได้รู้ว่าเราเป็นมิตรกันจริงหรือไม่”

นายปกรณ์วุฒิ ยังกล่าวถึงการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า คาดว่าช่วงต้นสมัยประชุมหน้าน่าจะเหมาะสมมากกว่า เพราะไม่ได้เร่งรีบมาก แต่ถ้าจะเปิดสมัยประชุมวิสามัญจริง ๆ คาดว่าน่าจะต้องรอกรรมาธิการร่วมพิจารณา พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ประชุมในวันพรุ่งนี้ ซึ่งต้องดูท่าที แต่ด้วยเนื้อหาถ้าตั้งใจจริง ๆ วันเดียวก็เสร็จ และอาจจะจบภายในช่วงปิดสมัยประชุมและอาจจะเปิดประชุมสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้ได้

สำหรับภาพรวมการทำงานของฝ่ายค้าน ส่วนตัวค่อนข้างพอใจ แต่ต้องยอมรับว่าในสมัยประชุมนี้มีหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในส่วนของกระทู้เองก็คิดว่าคล้าย ๆ กัน พรรคฝ่ายค้านก็มีผลกระทบ รัฐบาลก็มีผลกระทบ แต่คาดหวังว่าในสมัยประชุมหน้าตั้งแต่ต้นสมัยประชุมจะได้เห็นนายกรัฐมนตรีจะมาตอบกระทู้สดของฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ประชาชนก็คงจะคาดหวังที่จะได้เห็น