POLITICS

ครป.แถลงค้านร่าง กม.ให้ต่างชาติซื้อที่ดินในไทย ซัด ‘ขายชาติ’ เตรียมยื่นศาลปกครอง

ครป. พร้อม ภาคีภาคประชาชน แถลงการณ์ คัดค้าน ร่างกฎกระทรวงฯ ให้ต่างชาติถือครองที่ดินในประเทศ ตามมติคณะรัฐมนตรี ซัด เป็นการขายชาติ คนไทยหมดอนาคต เตรียมยื่นศาลปกครองขอยกเลิกประกาศฉบับดังกล่าว

วันนี้ (29 ต.ค. 65) คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) พร้อมด้วยภาคีภาคประชาชน แถลงการณ์คัดค้าน มติของคณะรัฐมนตรี ที่อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย นำโดย นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.), นายจำนงค์ ตัวแทนเครือข่ายสลัม 4 ภาค และนายสมบูรณ์ ทองบุราณ จากกลุ่มไทยไม่ทน

นายเมธา กล่าวว่า คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย และภาคีภาคประชาชนต่าง ๆ ขอคัดค้านมติของคณะรัฐมนตรี และนโยบายของรัฐบาลที่ให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพราะนโยบายดังกล่าว ไม่ต่างอะไรกับการขายชาติ ขายแผ่นดิน ถึงแม้จะมีการกำหนดเงื่อนไขการถือครองไว้ 5 ปี แต่กลุ่มนายทุนหรือกลุ่มทุนจากต่างชาติ ก็สามารถเข้ามากอบโกยที่ดินได้ ซึ่งจะเห็นว่า เริ่มมีกลุ่มทุนสีเทา เข้ามาถือครองที่ดินในประเทศไทยได้ตามที่เป็นข่าวในขณะนี้

อีกทั้ง เมื่อมองย้อนกลับมาที่ประชาชนทั่วไปในประเทศ เห็นได้ว่าประชาชนส่วนใหญ่ กลับไม่มีที่ดินทำกิน ประชาชนต้องเช่าที่ดินทำมาหากิน จากสหกรณ์ต่าง ๆ ของรัฐ หากมองจนถึงตรงนี้เห็นได้ว่าประเทศไทยจะไม่มีอนาคต รวมถึงการที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้ว่า ใน 5 ปี มีต้องมีต่างชาติร่วมลงทุนในไทย 1 ล้านคน หรือเปรียบเป็นที่ดินที่ต้อง้สียไป ประมาณ 1 ล้านไร่ พร้อมตั้งคำถามว่าประชาชนในประเทศจะไปอยู่ที่ไหน

นายเมธา กล่าวต่อว่า มีการสอดไส้ เรื่องของสิทธิใหักับต่างชาติ ที่มีมากกว่าในมติของคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีการลงในเว็บไซต์ของ BOI ที่ใช้อำนาจตามมาตรา 27 ที่อนุญาตให้ต่างชาติใช้ช่องว่างในพระราชบัญญัติตรงนี้ ในการให้ต่างชาติครอบครองที่ดินได้ถึง 35 ไร่ โดยที่ดินที่อยู่อาศัยไม่ต้องมีพื้นที่ที่ติดกัน ส่งผลให้ชาวต่างชาติสามารถซื้อที่ดินตรงไหนก็ได้ ซึ่งจะส่งผลให้ต่างชาติเข้ามาแย่งซื้อที่ดินในประเทศไทย

นายเมธา กล่าวต่อว่า ครป. และภาคประชาชนเรียกร้องให้แก้ไขมาตรา 27 ของพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน เรื่องการให้สิทธิการถือครองที่ดินจากชาวต่างชาติ รวมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลยุติมติของ ครม.ต่อการผ่ารร่างกฎกระทรวงดังกล่าว และขอให้ BOI แสดงหลักฐานทั้งหมดว่ามีชาวต่างชาติที่ครอบครองที่ดินในประเทศไทยไปเท่าไหร่แล้วบ้าง อีกทั้งเรียกร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เข้าไปตรวจสอบอย่างเรื่องนี้จริงจัง ว่ามีใครได้รับผลประโยชน์ทั้งในรัฐบาล และในสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน

ทั้งนี้ ครป. และภาคีภาคประชาชน ตั้งข้อสังเกตว่า การร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าว กำลังผลักดันในช่วงท้ายของรัฐบาล และยังอยู่ในช่วงของการประชุมเอเปค โดยกลุ่ม ครป. และภาคีภาคประชาชน มองว่า การดำเนินการดังกล่าวกลุ่มทุนต่างชาติ มีการสมคบคิดให้รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ ออกกฎหมายฉบับนี้เพื่อกอบโกยให้กับกลุ่มทุนต่างชาติหรือไม่ โดยกลุ่มภาคประชาชนจะติดตาม และเคลื่อนไหวกดดันเรื่องนี้ต่อไป

นายจำนงค์ กล่าว่า ในทันทีที่ทราบข่าวเรื่องของมติ ครม. รู้สึกตกใจ เพราะประชาชนในทุกวันนี้ ยังไม่มีที่ทำกินแม้แต่ตารางเดียว ซึ่งภาคีสลัมก็เคยถูกบีบถูกไล่ให้ออกจากเมืองกรุงฯ รวมทั้งประชาชนในต่างจังหวัด ก็ถูกไล่ออกจากพื้นที่ทำกินตาม นโยบายทวงคืนผืนป่าของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อีกทั้ง การประชุมเอเปคที่จะถึงในเดือนพฤศจิกายนนี้ กลุ่มภาคีภาคประชาชนจะประชุมร่วมกัน เพื่อติดตามวาาการะประชุมมีการแอบแฝงอะไรหรือไม่ ซึ่งยืนยันว่าภาคประชาชนจะติดตามอย่างใกล้ชิด

“เราหวงแหนอธิปไตยที่บรรพบุรุษต่อสู้มา แต่กลับมีชายชาติทหารแบบพล.อ.ประยุทธ์ กำลังขายประเทศไทยให้กับต่างชาติ โดยไม่มีกำหนดระยะเวลา ซึ่งภาคประชาชนยอมรับไม่ได้ และขอคัดค้าน ส่วนมาตราการการกดดันจากภาคประชาชนจะเป็นอย่างไรต่อไป ก็ขอให้รอติดตามกันต่อไป” นายจำนงค์กล่าว

ด้าน นายสมบูรณ์ ระบุว่า ในประเทศไทยให้สิทธิ์ผู้สูงอายุจากต่างประเทศ หรือผู้ที่อยากเข้ามาทำงาน หรือศึกษาต่อในประเทศ ก็สามารถทำได้อยู่แล้ว แต่พอเห็นมติของ ครม. รวมถึงการชี้แจงของรัฐบาลว่าพื้นที่ให้ซื้อเป็นจุดเทศบาลต่าง ๆ ซึ่งตนเองอยากตั้งคำถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ทราบหรือว่าในบางพื้นที่ต่างจังหวัด ก็มีที่ถูกเปลี่ยนใหัเป็นเทศบาลเกือบไปหมดแล้ว ซึ่งจะส่งผลให้ต่างชาติสามารถเลือกซื้อได้เกือบทุกที่ แต่วันนี้กลับออกโฉนดที่ดินให้ชาวต่างชาติ รวมทั้งหากชาวต่างชาติที่ถือครองพื้นที่ทำผิด เราก็ไม่สามารถตรวจสอบ หรือทำอะไรต่างชาติได้หากไม่มีหมายจากศาล

ดังนั้น อยากขอให้ประชาชนช่วยกันติดตาม และคัดค้าน มติของคณะรัฐมนตรี ต่อร่างกฎกระทรวงฯ และกดดันให้แก้ไขพระราชบัญญัติ BOI ดังกล่าว

“ถ้าประชาชนยั่งนิ่งเฉยอยู่ เราจะได้เห็นรัฐบาลแบ่งที่วัดขายบ้าง หรือขายพื้นที่ในค่ายทหาร “

ทั้งนี้ คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย ขอคัดค้าน มติครม. เกี่ยวกับการเห็นชอบร่างกระทรวงฯ และร่าง พรบ. ของBOI ซึ่งถือเป็นมติอัปยศ และขอให้ ครม. พิจารณาแก้ไข มติดังกล่าวให้ถูกต้อง ซึ่งจะทำให้ชาวต่างชาติมีสิทธิ์ในประเทศ เช่นเดียวกับอยู่ในสถานฑูต และจะทำให้มีบ้านทับที่ดินของชาวต่างชาติอย่างมหาศาล และจะทำให้คนไทยไม่มีสิทธิแม้แต่เดินผ่านพื้นที่ดังกล่าว ส่วนมติของBOI ภาคีภาคประชาชน จะไปร้องต่อศาลปกครองใน 90 วัน เพื่อขอให้ศาลคุ้มรอง และดำเนินการไปสู่การยกเลิกประกาศฉบับดังกล่าว

Related Posts

Send this to a friend