‘ณฐพร’ หอบเอกสาร ให้ปากคำสำนักงานอัยการสูงสุด กรณีร้องตรวจสอบพรรคภูมิใจไทย

‘ณฐพร’ หอบเอกสาร ให้ปากคำสำนักงานอัยการสูงสุด กรณีร้องตรวจสอบพรรคภูมิใจไทย ย้ำ มีทีมงานรวบรวมข้อมูล ไม่ได้มาจากดีเอสไอ ไม่กังวลหากถูกฟ้องหมิ่นประมาท บอก แม้ต้องเข้าเรือนจำก็เขียนสำนวนได้ มั่นใจ ทุกอย่างจบใน 2-3 เดือน

วันนี้ (29 พ.ค 68) ที่ สำนักงานอัยการสูงสุด นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน หอบเอกสารหลักฐานปึกใหญ่ เข้าให้พนักงานอัยการเพื่อให้ตรวจสอบเพิ่มเติมกรณีที่ก่อนหน้านี้ได้มาร้องกับสำนักงานอัยการสูงสุด ให้ตรวจสอบพรรคภูมิใจไทย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49

นายณฐพร เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้มาร้องกับสำนักงานอัยการสูงสุดให้ตรวจสอบพรรคภูมิใจไทย ซึ่งอัยการสูงสุดรับดำเนินการ จึงมาให้ปากคำ รวมถึงนำเอกสาร 2 กระเป๋าใหญ่ รวบรวมจากทุกสำนวนที่ได้ไปร้องหน่วยงานต่าง ๆ ไว้ รวมถึงข้อมูลจากสื่อมวลชนที่นำเสนอมาให้เป็นหลักฐาน

นายณฐพร กล่าวถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทยบอกว่าได้ข้อมูลมาจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิด เนื่องจากมีทีมงานคอยรวบรวมข้อมูลจากสื่อต่าง ๆ ข้อมูลจากสื่อมวลชน เป็นข้อมูลตามข้อเท็จจริงที่ศาลมองว่ารับฟังได้ จึงไม่กลัวหากจะถูกฟ้องฐานหมิ่นประมาท เพราะคงไม่โง่นำข้อมูลที่ได้มาโดยมิชอบมาร้อง

นายณฐพร ฝากถึงพรรคภูมิใจไทยว่า ให้เตรียมตัวสู้คดีดีกว่า และในคดีล้มล้างฯ เข้าองค์ประกอบทุกอย่าง แม้กระทั่งความเห็นนักวิชาการและนักกฎหมายก็เอามาใส่ในสำนวนว่า เเข้าองค์ประกอบล้มล้างฯ อย่างไร ดำเนินการอย่างไร พฤติการณ์เชื่อมโยงแม้กระทั่งความเห็นว่า สว.ชุดนี้ทำหน้าที่อะไร มีอำนาจอะไร อยากพูดถึงพฤติกรรมของ สว. ว่าจะแสดงอาการอะไรขอให้อยู่บนพื้นฐานมารยาทและจริยธรรม อย่าทำลิงหลอกเจ้าให้สังคมเห็น คนจะยิ่งไม่ชอบ ยืนยันว่า ที่ออกมาไม่ได้หิวแสง ทำด้วยความสุจริตใจ ไม่ได้ทำเพื่อใคร จะกล่าวหาไงก็ได้ แต่ข้อเท็จจริงมีหนึ่งเดียว มั่นใจทุกอย่างจะจบลงภายใน 2-3 เดือน

นายณฐพร บอกด้วยว่า สิ่งที่ทำเป็นข้อเท็จจริง มีพยานหลักฐานปรากฏชัดเจน เรื่องพวกนี้ไม่ต้องห่วง ต่อให้พรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยจะตกลงกันจริงตามที่คาดเดา ก็ไม่ทำให้คดีที่ดำเนินอยู่สะเทือน ทุกอย่างจะเดินหน้าไปตามกระบวนการ หากทำในสิ่งที่ดีที่ชอบ และสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ก็ไม่กลัวใครทั้งนั้น หากดำเนินการไปแล้วจะโดนอะไรก็ตามก็ช่วยไม่ได้

นายณฐพร ยืนยันว่า ไม่ได้กลั่นแกล้งหรือโกรธเคืองพรรคภูมิใจไทย ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ ส่วนตนเองจะโดนกลั่นแกล้งหรือไม่ รู้สึกเฉย ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นให้สื่อมวลชนและสังคมพิจารณาเอง แต่กระบวนการนี้หยุดไม่ได้ ต่อให้ถูกส่งฟ้องศาลแล้วไม่ได้ประกันตัว อยู่ในเรือนจำก็เขียนสำนวนได้ จะทำยังไงก็ตามไม่มีทางหยุดได้ เพราะศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาจากเอกสาร และมีเอกสารเรื่องเลือกตั้งเป็น 10 ลังใหญ่ ๆ ส่วนที่นายอนุทิน ออกโรงมาพูดถึง มองว่านายอนุทินมีปัญหา คงโกรธเคือง คิดว่าสิ่งที่พรรคภูมิใจไทยห่วง และคิดมากที่สุด คือเรื่องคดีที่ตนเองทำ เพราะว่ากลัวจะเสียอำนาจรัฐไป