‘กฤษฎิ์’ ลุกอภิปรายโควตา ‘พรรคกล้าธรรม‘ หนุนงบปี 69 ของบฟื้นฟูชายฝั่งชลบุรี

‘กฤษฎิ์’ ลุกอภิปรายโควตา ‘พรรคกล้าธรรม‘ หนุนงบปี 69 ของบฟื้นฟูทะเลและชายฝั่งชลบุรี ลั่น งบจะไม่ใช่แค่ตัวเลขบนกระดาษ แต่เป็นโอกาสเชื่อมโยงประเทศสู่อนาคต
วันนี้ (29 พ.ค. 68) นางสาวกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี พรรคประชาชน ลุกอภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 โดยเจ้าตัวย้ายที่ไปนั่งรวมกับ สส.พรรคกล้าธรรม พร้อมลุกขึ้นอภิปรายสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว โดยเฉพาะในสองมิติสำคัญ ได้แก่ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม และการยกระดับเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน รวมถึงการเสนอแนวทางพัฒนาท้องถิ่น ในเขตศรีราชา บางพลัด สุรศักดิ์ ทุ่งสุขา และเกาะสีชัง
โดยในปีงบประมาณ 2569 กระทรวงคมนาคมได้รับการจัดสรรงบประมาณทั้งสิ้น 261,292.54 ล้านบาท งบประมาณส่วนใหญ่มุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น การขยายทางหลวง การบำรุงรักษาเส้นทางหลัก โครงการหลวงพิเศษระหว่างเมือง การยกระดับความปลอดภัยบนถนน จุดพักรถ และจุดตรวจน้ำหนัก งบประมาณบูรณาการคมนาคมในเขต EEC ซึ่งตนเองรับผิดชอบโดยตรง
นอกจากนี้ยังมีการลงทุนงบประมาณกว่า 50,000 ล้านบาท เพื่อเชื่อมถนนสายรองเข้าสู่ชุมชน แหล่งท่องเที่ยวและเขตชายแดนซึ่งไม่เพียงส่งเสริมการเดินทางเท่านั้นแต่เป็นการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับท้องถิ่นอย่างแท้จริง
กระทรวงเกษตรสหกรณ์ได้รับงบประมาณจำนวน 131,111 ล้านบาท โดยจัดทำแผนภายใต้สามกลุ่มนโยบายหลักได้แก่นโยบายเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยการเผยแพร่พระราชกรณียกิจและแนวพระราชดำริ นโยบายเร่งด่วนได้แก่การปรับปรุงโครงสร้างหนี้เกษตรกรและการยกระดับเกษตรสมัยใหม่ นโยบายระยะกลางระยะยาวได้แก่การจัดการที่ดิน การบริหารทรัพยากรน้ำ การขับเคลื่อนคาร์บอนนิวทรัล และการสู้เศรษฐกิจเชิงรุก
นอกจากนี้ ยังมีการบริหารจัดการสินค้าทางการเกษตรอีก 14 รายการหลัก ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ฮับ ได้แก่ ข้าว ทุเรียน กุ้ง โคนเนื้อ ยางพารา ปาล์ม ถั่วเหลือง โกโก้ และหม่อนไหม เป็นต้น โดยเน้นการพัฒนาศักยภาพเกษตรกรให้แข่งขันได้ในระดับสากล
นางสาวกฤษฎิ์ กล่าวต่อว่า ในนามจากผู้แทนพื้นที่ศรีราชา บางพลัด สุรศักดิ์ ทุ่งสุขา และเกาะสีชัง ขอเสนอโครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำชายฝั่ง รวมถึงปะการังซึ่งกำลังเสื่อมโทรมลงอย่างต่อเนื่องข้าพเจ้าเสนอให้มีการจัดสรรงบประมาณผ่านกรมประมงเพื่อผลิตพันธุ์สัตว์น้ำเช่นกุ้งปูปลาหอยทะเลเพื่อปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ จัดกิจกรรมร่วมชุมชนและท้องถิ่นเพื่อฟื้นฟูประชากรสัตว์น้ำในอ่าวมะขาม แหลมฉบัง และในเขตพื้นที่ที่ข้าพเจ้ารับผิดชอบรณรงค์สร้างจิตรสำนึกอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและส่งเสริมอาชีพประมงอย่างยั่งยืนให้กับชาวบ้านในพื้นที่ โครงการนี้ไม่เพียงแต่สร้างรายได้และความมั่นคงทางอาหารแต่ยังส่งผลดีต่อระบบนิเวศทางทะเลและเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ นางสาวกฤษฎิ์ ยังกล่าวอีกว่า งบประมาณในปี 2569 นี้ไม่ใช่เป็นเพียงตัวเลขบนกระดาษ แต่คือโอกาสที่จะเชื่อมโยงประเทศเข้ากับอนาคต และเชื่อมประชาชนเข้ากับความหวัง ไม่ว่าจะเป็น ถนนที่เชื่อมโยงเมือง งบเกษตรที่เชื่อมชาวนาเข้ากับตลาด หรือโครงการประมงที่เชื่อมโยงชาวบ้านเข้ากับท้องทะเล ตนเองขอยืนยันร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2569 เพื่อให้รัฐสามารถเดินหน้าลงทุน และเพื่ออนาคตอย่างมั่นคง