นายกฯ ‘เชื่อมั่น’ ปมชายแดนไทย-กัมพูชาคลี่คลาย ส่ง ผบ.ทบ. คุยบ่ายนี้ ย้ำจุดยืนปกป้องอธิปไตย
วันนี้ (29 พ.ค. 68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยแสดงความเชื่อมั่นว่าจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น พร้อมกันนี้ ผู้บัญชาการทหารบกมีกำหนดการเดินทางไปหารือกับฝ่ายกัมพูชาในช่วงบ่ายของวันนี้ สำหรับท่าทีของสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่แสดงออกผ่านการโพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กนั้น นายกรัฐมนตรีมองว่าเป็นการแสดงจุดยืนเพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศตนเอง ซึ่งเป็นหลักการปกติ และเห็นว่าท้ายที่สุดแล้วสมเด็จฮุน เซน ก็ไม่ประสงค์ให้เกิดการปะทะ
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า เป็นเรื่องปกติที่ผู้นำแต่ละประเทศต้องแสดงจุดยืนในการปกป้องอธิปไตยของชาติตนเอง ทั้งนี้ จากการประสานงานกันตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา (28 พ.ค.) ผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองประเทศมีกำหนดการพบปะหารือกันในช่วงบ่ายวันนี้ (29 พ.ค.) เพื่อสร้างความชัดเจนและเสริมสร้างความเข้าใจอย่างเป็นทางการยิ่งขึ้น โดยสถานการณ์ในพื้นที่ยังคงปกติ ไม่พบเหตุการณ์รุนแรง เนื่องจากทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันที่จะรักษาความสงบจึงได้ถอยกำลังของแต่ละฝ่าย ซึ่งได้มีการพูดคุยกันมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) และทั้งสองประเทศต่างไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงในพื้นที่พิพาท โดยผู้บัญชาการทหารบกจะไปทำความเข้าใจให้กระจ่างชัดในวันนี้ ซึ่งนางสาวแพทองธารย้ำความเชื่อมั่นว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
นางสาวแพทองธาร เน้นย้ำว่า ในระดับผู้นำได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วและไม่พบประเด็นปัญหาใดๆ การส่งผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองฝ่ายไปหารือกันนั้น ก็เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างเป็นทางการมากขึ้น และเพื่อพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติมว่าแต่ละฝ่ายจะสามารถสนับสนุนซึ่งกันและกันในเรื่องใดได้บ้าง ซึ่งคงต้องรอผลการหารือในรายละเอียดต่อไป
ต่อข้อซักถามที่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมีสาเหตุจากความเข้าใจผิดในพื้นที่อ้างสิทธิใช่หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี ขอให้รอผลการหารือระหว่างผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองฝ่ายในช่วงบ่ายวันนี้ก่อน เนื่องจากเป็นประเด็นละเอียดอ่อน หากให้ข้อมูลใดๆ ไปก่อนอาจส่งผลกระทบได้ อย่างไรก็ตาม ผู้นำรัฐบาลไทยย้ำว่าในระดับนโยบายไม่มีปัญหาต่อกัน และยินดีสนับสนุนความร่วมมือต่างๆ เพราะไม่ต้องการให้เกิดข้อพิพาท ซึ่งถือเป็นเจตนารมณ์สำคัญ
สำหรับประเด็นการเสริมกำลังประชิดแนวชายแดน หลังจากมีรายงานว่าฝ่ายกัมพูชาได้เสริมกำลังนั้น เมื่อผู้สื่อข่าวกล่าวถึงประเด็นนี้ นางสาวแพทองธารได้อุทานออกมาสั้นๆ ก่อนจะชี้แจงว่า การเสริมกำลังเป็นหลักปฏิบัติปกติของทุกประเทศอยู่แล้ว หากมีการหารือในประเด็นที่ตึงเครียดหรือมีแนวโน้มจะเกิดการเผชิญหน้า ก็จำเป็นต้องเตรียมความพร้อม ไม่มีประเทศใดปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ซึ่งรวมถึงประเทศไทยที่ต้องเสริมกำลังหากสถานการณ์รุนแรง แต่หากไม่มีสถานการณ์ใดๆ ก็พร้อมที่จะยุติเพื่อสันติภาพและความปลอดภัยของประชาชน
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ส่งกำลังใจไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามแนวชายแดนทุกนาย โดยย้ำว่ารัฐบาลไม่ต้องการให้เกิดปัญหาระหว่างพรมแดนไม่ว่าจุดใดก็ตาม และขอให้เจ้าหน้าที่ทุกนายมีขวัญกำลังใจที่ดี ทั้งนี้ การลงพื้นที่ของผู้บัญชาการทหารบกก็เพื่อช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายและสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างกันมากยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ยังขอให้เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายในพื้นที่ใช้ความอดทนอดกลั้นและหันหน้าเข้าสู่การเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกันอย่างสันติ
ในประเด็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนในพื้นที่แนวชายแดนนั้น ผู้นำรัฐบาลไทยยืนยันว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่มีปัญหาใดๆ และรัฐบาลพยายามสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ได้ขอบคุณสื่อมวลชนที่มีส่วนช่วยในการนำเสนอข่าวสารข้อเท็จจริงให้ประชาชนเข้าใจสถานการณ์อย่างถูกต้อง โดยย้ำว่าผลจากการพูดคุยล่าสุดระหว่างสองฝ่ายยังไม่พบประเด็นที่เป็นอุปสรรค และขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในการดำเนินการของรัฐบาลเพื่อรักษาความสงบ
