นายกฯ รับ คุยอาเซียนผนึกกำลังเจรจาภาษี ‘ทรัมป์‘ ยัน ทำเต็มที่ทุกทาง

วันนี้ (29 เม.ย. 68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข้อสั่งการเรื่องการร่วมมือกับอาเซียน ในการแก้ปัญหาภาษีทรัมป์ จะร่วมมือกันในลักษณะใดบ้าง ว่า มีการคุยเรื่องนี้ที่ไปคุยกับนายกฯ กัมพูชา และได้คุยนอกรอบกับนายกฯ มาเลเซียด้วย ว่าจะเน้นในเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติ และทรัพยากรที่เรามีอยู่แล้ว ซึ่งเป็นจุดที่เรามีแต่ละประเทศมารวมพลังกัน เพื่อเป็นข้อต่อรองที่สำคัญ ส่วนในแต่ละประเทศก็ทำงานของแต่ละประเทศไป แต่ในอาเซียนจะร่วมมือกัน ดูด้วยว่าเรามีอะไรที่เป็นความพิเศษแต่ละกลุ่มอาเซียนที่จะสามารถร่วมมือกันได้เพื่อจะเจรจาต่อรองกับสหรัฐฯ โดยเมื่อรวมกลุ่มอาเซียนจะมีประชากรมากขึ้น และจะมีน้ำหนักที่มากขึ้นเพื่อต่อรอง และเดี๋ยวคงมีการประชุมกันนอกรอบอีกครั้ง ส่วนกับกัมพูชาก็จะมีการประชุม และพูดคุยกันด้วย

ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมายอมรับว่าการฟ้องนายพอล แชมเบอร์ส นักวิชาการ อาจถูกหยิบยกมาเป็นเงื่อนไขในการเจรจา จะทำให้การเจรจายากขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการไป ควบคู่ไปกับกระทรวงพาณิชย์ด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ เจรจาในภาพรวมทั้งหมดอยู่แล้ว ถ้าอะไรที่เกี่ยวข้องก็คุยหมด ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และกระทรวงการต่างประเทศ

ส่วนเรื่องของวันเจรจา นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ระบุออกมา ไม่ว่าเราจะคุยกันในเรื่องกรอบกลุ่มของอาเซียนจะร่วมมือกัน หรือรอดูเหตุการณ์ เราก็เห็นได้ชัดว่าเรื่องความเร็วไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่เป็นเรื่องของความแม่นยำมากกว่า และต้องมีข้อมูลที่ละเอียดมากยิ่งขึ้นในการไปเจรจากับสหรัฐฯ ซึ่งก็ยังคงทำอย่างต่อเนื่อง

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ารัฐบาลไทย ไม่ได้ถูกเลื่อนการเจรจา แต่ไม่ได้มีการประสานตกลงวันเจรจาตั้งแต่แรก นายกรัฐมนตรี ถามกลับว่า เอาข่าวมาจากไหน ก่อนบอกว่า เป็นข่าวลือ ซึ่งถ้าเป็นข่าวลือในประเทศ ไม่อยากให้ลืออะไรแบบนี้ เพราะเรากับสหรัฐฯ มีความสัมพันธ์ที่ดีกันมาเป็นระยะเวลายาวนาน การจะลือเพื่อเล่นประเด็นการเมืองมันไม่ควร จริง ๆ เราต้องนึกกำลังกันไว้ เพื่อให้ทุกฝ่ายช่วยกันให้การเจรจาต่อรองเราเข้มแข็ง ไม่ใช่มามัวแต่คิดถึงประเด็นการเมือง และยิงกันเองก่อน เรายังไม่ได้มีอะไรที่จะไปคุย เราต้องแข็งแรงกันเองก่อน และไม่อยากให้ปล่อยข่าวลือแบบนี้

ส่วนกรณีที่บางฝ่ายอยากให้มีการไปเจรจายกแรกก่อน เพื่อให้เห็นความต้องการของสหรัฐฯ จะมีความเป็นไปได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เราคุยกันหลังไมค์อยู่แล้ว ถึงเรื่องความต้องการของสหรัฐฯ ต้องบอกว่าก่อนที่จะมาแถลง ต้องมีการพูดคุยกันข้างหลังก่อน มิเช่นนั้น จะเกิดผลกระทบระหว่างประเทศเยอะ เพราะฉะนั้น การทำงานร่วมกันในกลุ่มต่าง ๆ ทั้งเรื่องการค้า ที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นคนรับผิดชอบอยู่ตอนนี้ ก็ต้องคุยกันทุกแง่มุมข้างหลังให้เรียบร้อยก่อน มิฉะนั้น จะไม่สามารถออกมาพูดในที่สาธารณะได้ ยืนยันว่า ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุม และร่วมมือกันตลอด ไม่ได้หายไปไหน และยังติดต่อกับทางสหรัฐฯ ตลอด

เมื่อถามถึงแผนเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลภายหลัง ธนาคารโลกปรับตัวเลขจีดีพีของประเทศไทย นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลมีแผนทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ซึ่งดำเนินการมาตลอด โดยระยะสั้นเป็นเรื่องของดิจิทัล วอลเล็ต รวมถึงเรื่องของการลงทุน ที่จะดึงการลงทุนเข้ามา ซึ่งตอนนี้ก็ทำอยู่ ที่สำคัญที่ตนเองประชุมกับสำนักงบประมาณ ได้เร่งการลงทุนของภาครัฐ ซึ่งตอนนี้เราได้เปอร์เซ็นต์สูงที่สุดแล้วในประวัติศาสตร์ ที่มีการลงทุนจากภาครัฐกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่มีไม้ไหนเลยที่เราดึงออก เราเต็มที่กับเรื่องนี้ และทราบดีว่าวิกฤติเศรษฐกิจ ไม่ใช่แค่ของประเทศเรา แต่เป็นวิกฤตทั่วโลก เพราะฉะนั้น เราจะลดเรื่องไหนไม่ได้เลย ต้องทำเต็มที่ทุกเรื่อง เช่นเดียวกับเอนเตอร์เทนเม้นคอมเพล็กซ์ที่ไม่ผ่าน เราก็ผลักดันเรื่องนี้ให้มีผลดีในอนาคตเช่นเดียวกัน