นายกฯ ชี้ ควรลดดอกเบี้ย หาก GDP โตขึ้น อสังหาฯ ก็ดีขึ้น

นายกฯ ปาฐกถา ชี้ ควรลดดอกเบี้ย หาก GDP โตขึ้น อสังหาฯ ก็ดีขึ้น ยัน เดินหน้าดิจิทัล วอลเล็ต บอก อย่าพูดเป็นวาทกรรม เศรษฐกิจวิกฤตหรือไม่ ย้ำชัด ให้ต่างชาติเช่าที่ดิน ไม่ใช่การขายชาติ เชื่อ ช่วยดึงเงินเข้าประเทศ

วันนี้ (29 มี.ค. 67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “นักธุรกิจรุ่นใหม่กับโอกาสในการสร้างธุรกิจและการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ” ณ ห้องสุรวงศ์ บอลรูม 2 – 3 โรงแรมแบงค็อก แมริออท เดอะ สุรวงศ์ ถนนสุรวงศ์ แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ

นายกรัฐมตรี กล่าวว่าแปลกใจว่าทำไมคนหันมาทำอสังหาริมทรัพย์เยอะ หลายคนทำได้ดี มุ่งมั่น ทำงานหนัก ถือเป็นองค์ประกอบของธุรกิจทุก ๆประเภท และใครที่ทำอยู่ก็อยากให้มาช่วยสังคมบ้าง การแข่งขันเป็นเรื่องที่ดี การที่อยู่มาได้ยาวนานเพราะเรามีคู่แข่งที่ดี ซึ่งต้องแข่งขันให้ถูกต้อง ถ้าจะเป็นนักอสังหาริมทรัพย์ ขอให้เป็นอย่างจริงจัง เราอยู่ในสังคมมานานแล้ว อะไรที่ดีจะถ่ายทอดให้ฟัง และตอนนี้ดอกเบี้ยแพงมาก โดยควรจะลดตั้งนานแล้ว ยังไม่ลดอีก และเงินเฟ้อ -0.8% เราก็เดือดร้อน ตนเองก็รู้สึกผิดเหมือนกัน เพราะอยู่ในกลุ่มอสังหาฯ มาก่อน เดี๋ยวถ้าเรียกร้องมาก ก็หาว่าทำเพื่อตัวเองอีก และเรื่องเก็งกำไรในอสังหาฯ ก็ไม่มีใครโง่ไปเก็งกำไร อย่าไปฐิถิ ตนเองเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ไม่มีอำนาจ เลยไม่สามารถทำได้

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า เรื่องกำลังซื้อเป็นเรื่องสำคัญ ไม่มีหรอก เก็งกำไร อะไรเลิกได้เลิก ดังนั้น การกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญไม่ต้องพูดเรื่องวิกฤติแล้ว พูดไปก็เป็นวาทกรรม เถียงกันไม่จบ อยู่ที่ใครเป็นแฟนใครมากกว่า ตนเองมองว่า 90% ในที่นี้เห็นด้วยว่าต้องกระตุ้น

ส่วนเรื่องการครอบครองที่ดินของชาวต่างชาติ 1 ไร่ ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าแย่งที่ดินคนไทย มองว่าขายชาติ ซึ่งต้องข้ามข้อนี้ไปให้ได้ ตนเองเชื่อว่าชาติขายไม่ได้ เพราะคือจิตวิญญาณของพวกเรา เขาเอาไปไม่ได้ ต่อให้มีเสียงในสภา ก็ไม่ผ่าน เพราะคนไทยยอมไม่ได้ให้ต่างชาติมาถือที่ดินในไทย ดังนั้นการปล่อยให้เช่าที่ดินในประเทศไทย เราจึงต้องทำให้ถูกต้องเหมาะสม ให้การทำธุรกรรมผ่านไปได้ เป็นหน้าที่รัฐบาลในการทำให้มันผ่านไปได้ง่ายขึ้น หากเช่าแล้ว สัญญาก็เป็นของคนเช่า จะทำอะไรก็ได้ เป็นสิทธิของคนเซ็นอนุมัติไม่ต้องมาขอใหม่ การลงรายละเอียดก็สำคัญ ต้องดูสัญญาและความรับผิดชอบ ไม่ใช่เรื่องง่าย กฎหมายลูกมารองรับทำให้ทำงานให้ง่ายขึ้น

ส่วนคำวิจารณ์ที่บอกว่าทำไมตอนเป็นนักธุรกิจถึงใจร้อน แต่พอมาเป็นรัฐบาลเฉื่อยชา ตนเองยืนยันว่าไม่ได้เฉยชาแต่มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายฉบับที่จะต้องมีการแก้ไขกันไป และเชื่อว่า ถ้าเกิด GDP ไปดี การเจริญเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์ก็ไปได้ดี จึงไม่จำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นพิเศษเพราะกระตุ้นเศรษฐกิจปกติก็ส่งผลให้ดีขึ้นแล้ว

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ว่า ในรอบ 10 ปี เศรษฐกิจไทยโต 1.8% คนรายได้น้อยเข้าถึงที่อยู่อาศัยลำบาก ไม่มีอะไรดีขึ้นเลยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา อย่างโครงการก่อนหน้านี้ที่มีการแจกเงิน 500 บาทหรือ 1,000 บาท ก็เป็นการหยอดน้ำข้าวต้มไปเรื่อย ๆ ไม่เกิดประโยชน์ ดังนั้น จึงขอยืนยันว่าโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ไม่มีการทุจริต เป็นเงินที่รัฐบาลจะส่งตรงถึงผู้ซื้อ โดยจะมีเงื่อนไขมากกว่าโครงการที่ผ่านมาทั้งอายุระยะเวลาในการใช้เพราะอยากให้เกิดสึนามิการใช้เงินโดยเร็ว เราไม่อยากให้คนมาใช้เงินในเมืองใหญ่ อยากให้กระจายไปในเมืองเล็ก ๆ จะไม่มีข้ออ้างไม่กลับบ้าน เพราะได้เงินหมดทุกคน ถ้าเกิดเงินเดือน เงินเก็บไม่เกินเงื่อนไข หากจะให้เงินลดจำนวนกลุ่มเป้าหมายลง ว่าคนรวยที่ไม่ควรจะได้ ก็เกิดคำถามว่ารายได้เท่าไหร่ต่อเดือนถึงเรียกว่าคนรวย ที่โครงการมันช้ามาขนาดนั้น เพราะมีองค์กรบอกให้กู้เลย ไม่ต้องให้คนรวย พอทำก็มาเอ๊ะ ถามว่า 25,000 บาทคือคนรวยเหรอ ตนเองก็คอยอยู่เดือนกว่า ก็ไม่บอกว่าเท่าไหร่ถึงเป็นคนรวย จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงต้องให้ทุกคน แต่คน 1% ก็ไม่มาใช้หรอก เราก็พยายามฟังทุกความเห็น ทำให้เหมาะสมที่สุด และหากได้เงินไตรมาส 4 มีเงินเข้ากระเป๋าคนที่เป็นร้านค้า เงินเข้าระบบ มีการผลิตสินค้าทันที ซึ่งจะทำให้มีเงินทั้งหมดคิดเป็น 17% ของงบประมาณประจำปี

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง การเดินทางไปต่างประเทศ เราไม่ได้อยู่ในโลกนี้คนเดียว ประเทศรอบ ๆ ข้างก็ทยอยโตขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น จึงต้องรีบกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนที่นโยบายอื่น ๆ จะปล่อยออกมาเมื่อเวลาเดินทางไปที่ต่างประเทศก็ไปแนะนำตัวกับประเทศใหญ่ ๆ เพื่อประกาศให้ชาวโลกรู้ว่าประเทศไทยเปิดแล้ว ให้เขามาลงทุน หากถามว่ามาหลายหน ผลยังไม่เกิด ถามว่าใน 7 เดือนมีใครตกลงได้เข้ามาลงทุนเป็นแสนล้านบ้าง ผลงานยังไม่ออก ให้คอยไปก่อน คนนั่งทางในอยู่บนหอคอย อยากให้เอาเท้าสัมผัสโคลน ลงมาตอบบ้าง ยืนยันว่า ไม่สนุกหรอกที่เดินทางไปต่างประเทศ ที่ผ่านมาตนเองก็ไปสนุกกว่าสบายกว่า การไปแต่ละครั้งลำบาก แต่ก็ต้องทำ เพราะประเทศไทยเปิดแล้ว ตั้งแต่บริหารงานมา งบยังไม่ใช้สักบาท ใช้แต่นโยบายอย่างเดียว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อเข้ามาก็ประกาศฟรีวีซ่าจีน แต่ซวยเจอเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในสยามพารากอน แต่ก็มีวิธีแก้ปัญหากันไป โดยได้เจรจากับจีน ให้ฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวลาวไทยด้วยเช่นกัน และในอีกหลาย ๆ ประเทศ อย่างเรื่องเชงเก้นก็พยายามทำอยู่ แต่ใช้เวลานาน เราเคยเป็นนักธุรกิจ เรารู้วิญญาณว่าการเดินไปหาใคร มันมีความหมาย แสดงว่าเราอยากทำจริง ๆ

ส่วนการยกระดับเมืองรอง เพราะเมืองรองมีคุณค่า มีอาหารอร่อย วัฒนธรรมที่ดี แต่ไม่มีสนามบิน ก็ต้องไปดูว่าควรสร้างที่ไหนบ้าง หากใจไม่เป็นธรรม คงบอกว่าเอาแล้ว งบจัดซื้อจัดจ้างมาแล้ว แต่หากไปดูการสร้างโครงสร้างพื้นฐานในไทยตลอด 17 ปีที่ผ่านมานั้น ไม่มีเลย

ส่วนเรื่องความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เชื่อว่าเมื่อคนมีเงินในกระเป๋า จะไม่หมกหมุ่นกับความไม่สงบ ตอนที่ลงพื้นที่ไป ก็มีความเสี่ยง แต่ตนเองไม่ให้ใครใส่เสื้อเกราะ เชื่อว่าเราไปด้วยเจตนารมณ์ที่ดี อยากบอกว่า เราไม่มี สส. ในพื้นที่ เราก็ไป เราให้ความสำคัญกับเรื่องการท่องเที่ยวอย่างมาก ลองจินตนาการว่าถ้าไม่มีสนามบินสุวรรณภูมิ เราจะอยู่ตรงไหนของโลก

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ยังมีเรื่องสนามกอล์ฟข้างสนามบิน จนคนบอกว่าตนเองเลียรองเท้าบูท ยืนยันว่า ไม่ได้เลียรองเท้าบูท แต่ต้องพูดคุยด้วยความเหมาะสม ตนเองไปขอร้องอธิบายว่าคืนสนามกอล์ฟตรงนี้มา จะเกิดผลประโยชน์ขนาดไหนกับประเทศ อาจเป็นศูนย์ซ่อม ที่จอดไพรเวทเจ็ท มีหลายอย่างที่ทำอยู่ และดอกผลเห็นอีก 2-3 ปีข้างหน้า

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การมาสร้างฐานผลิตในไทย ก็ขายส่งออกต่างประเทศ เราก็ต้องทำให้ส่งสินค้าไปต่างประเทศได้ง่ายขึ้น ดังนั้น เราต้องเซ็นสัญญา FTA ให้มากขึ้น และเรื่องการขนส่งสินค้าก็สำคัญ ต้องมีท่าเรือน้ำลึก จึงเป็นที่มาของแลนด์บริดจ์ และการเดินทางไปต่างประเทศทำให้เข้าใจภูมิศาสตร์ทางการเมืองมากขึ้น ประเทศไทยเป็นกลาง อยากให้เป็นเวทีในการเจรจาเรื่องความขัดแย้ง และไม่ต้องสงวัยว่าทำไมถึงมาลงทุนที่ไทย เพราะเราเป็นกลางทางด้านการเมือง

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง ความมั่นคงทางอาหาร จุดยืนของไทยที่มีความเป็นกลาง ผลิตออกมาแล้วส่งออกได้ เพราะการลดลงของประชากรโลก รวมถึงในประเทศไทยก็ด้วย ยกเว้นแอฟริกา กับตะวันออกกลาง ซึ่งเขานับถือศาสนาอิสลาม จึงต้องมีอาหารฮาลาล ทุกคนอยากมาสร้างอาหารที่ไทย ให้ผ่านการรับรอง และส่งออกได้ เพิ่มความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านให้ดีขึ้น

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ส่วนข้อถกเถียงกับกระทรวงสาธารณสุขที่เร่งให้มีลูกหลายคนคงไม่มีปัญหา แต่มีลูกออกมาแล้วจะอยู่ในสังคมอย่างไร เลี้ยงดูอย่างไร มีสิทธิเสรีภาพที่เหมาะสมหรือไม่ ต้องทำให้มั่นใจว่าทำไมเขาอยากมีลูกออกมา เพราะหลายคนคิดว่าลำบาก เรื่องเกณฑ์ทหาร เราก็ผลักดันให้มีการสมัครใจอยู่แล้ว