POLITICS

‘ดร.เอ้’ เตือน หากไม่เร่งลงทุนวิจัย ไทยจะพลาดขบวนโลกเทคโนโลยีแร่แรร์เอิร์ธ

‘ดร.เอ้’ ชี้ การศึกษาไทยกำลังพัง ด่านสุดท้ายของชาติถูกตีแตก เตือน หากไม่เร่งลงทุนวิจัย ไทยจะพลาดขบวนโลกเทคโนโลยีแร่แรร์เอิร์ธ

วันนี้ (28 ต.ค. 68) นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ แสดงความคิดเห็นถึงภาวะ “วิกฤตการศึกษาไทย” หลังสถาบัน Time Higher Education จัดอันดับมหาวิทยาลัยในอาเซียน ปี 2026 ปรากฏว่า ไม่มีมหาวิทยาลัยไทยติด 1 ใน 10 เหลือเพียง “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” และ “มหาวิทยาลัยมหิดล” ที่ยังอยู่ใน 20 อันดับแรก ขณะที่ “มาเลเซีย” มีถึง 7 มหาวิทยาลัยติดท็อปเท็น และ “เวียดนาม” ขึ้นมามีถึง 3 มหาวิทยาลัย แซงหน้าไทยอย่างชัดเจน

นายสุชัชวีร์ ระบุว่า มหาวิทยาลัยไทยคือ “ด่านสุดท้าย” ของระบบการศึกษาไทย ที่ทำหน้าที่สร้าง “ทุนมนุษย์” เพื่อขับเคลื่อนประเทศในทุกสาขา ทั้งวิศวกร แพทย์ นักกฎหมาย นักเศรษฐศาสตร์ และนักวิทยาศาสตร์ หากมหาวิทยาลัยไทยแข่งขันไม่ได้ ประเทศไทยก็ยากจะยืนหยัดในเวทีโลกได้เช่นกัน

จึงขอโยงประเด็นนี้เข้ากับ MOU ว่าด้วยแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) ที่ไทยลงนามร่วมกับสหรัฐฯ พร้อมชี้ว่า “คุณค่าของแร่แรร์เอิร์ธ” ไม่ได้อยู่ที่แหล่งผลิตเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับ “งานวิจัยและการแปรรูป” เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กลายเป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคต เช่น รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และไมโครชิป AI ซึ่งทั้งหมดต้องอาศัย “นักวิจัยชั้นยอด” ที่เติบโตมาจากระบบมหาวิทยาลัยคุณภาพ

นายสุชัชวีร์ ยกตัวอย่างว่า สหรัฐอเมริกากำลังลงทุนจริงจังในการฟื้นเหมืองเก่าเพื่อผลิตแร่แรร์เอิร์ธ โดยมีนักวิจัยอย่าง ศ.ดร.เยตมิง ชาง จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) เป็นผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีวัสดุและแบตเตอรี่พลังสูง ซึ่งเป็นต้นน้ำของอุตสาหกรรมใหม่

ขณะเดียวกัน ไทยแม้จะมีแร่แรร์เอิร์ธจำนวนมาก แต่ยัง “ไม่พร้อม” ที่จะสร้างห่วงโซ่มูลค่าเพิ่ม เพราะขาดการสนับสนุนด้าน “วิจัย” และ “ยุทธศาสตร์ชาติ” ที่ชัดเจน รัฐบาลยังคงทำงานแบบไม่มีเป้าหมาย มุ่งแต่เรื่องเดิม ๆ โดยไม่ตอบโจทย์อนาคต

นายสุชัชวีร์ เผยอีกว่า ศ.ดร.เยตมิง ชาง มีลูกศิษย์คนไทยถึง 2 คน คือ ดร.พิมพา ลิ้มทองกุล จากศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (เอ็นเทค) สวทช. และ รศ.ดร.นงลักษณ์ มีทอง จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเป็นนักวิจัยแนวหน้าด้านวัสดุศาสตร์ มูลค่าสูง สะท้อนให้เห็นว่า “คนไทยเก่ง แต่ไม่มีโอกาส” เพราะขาดการสนับสนุนอย่างเป็นระบบ

“เราปล่อยให้มหาวิทยาลัยไทยต้องแข่งขันลำบาก ปล่อยนักวิจัยไทยสู้เพียงลำพัง ทั้งที่การศึกษาและการวิจัยคือความมั่นคงของชาติ” สุชัชวีร์กล่าว

หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่จึงประกาศผลักดันนโยบาย “สนับสนุนงานวิจัยไทยอย่างมียุทธศาสตร์” เพื่อสร้างความได้เปรียบทางเทคโนโลยี และให้ประเทศไทยอยู่รอดได้ในโลกยุคที่มหาอำนาจแข่งขันกันอย่างดุเดือดในทุกมิติ

Related Posts

Send this to a friend