มติพรรคร่วมฝ่ายค้าน จี้ ‘นายกฯ’ ลาออก เหตุแก้โควิดล้มเหลว ด้าน ‘เสรีพิศุทธ์’ ฉะ ‘ประยุทธ์’ ถูกปรับไม่สวมแมสแค่สร้างภาพ
พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรีถูกปรับเพราะไม่สวมหน้ากากอนามัยขณะประชุมว่า มันคือการสร้างภาพให้ดูเหมือนว่านายกฯ อยู่ภายใต้กฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้ประชาชนดูออกแล้วใครจะเชื่อ พร้อมตั้งคำถามว่าเหตุใดนายกรัฐมนตรีจึงไม่ไปเสียค่าปรับที่สถานีตำรวจเอง ต้องเรียกพนักงานสอบสวนมาที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่เสียเวลาในการทำงานอย่างอื่น พร้อมมองว่า ประกาศเรื่องของการสวมหน้ากากอนามัย กทม.ควรเว้นระยะเวลาให้ประชาชนทำความเข้าใจก่อน ไม่ใช่บังคับใช้ทันที อย่างน้อยควรให้เวลา 30-60 วัน เหมือนการบังคับใช้กฎหมายทั่วไป เพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อม เพราะขณะนี้ประชาชนกำลังยากลำบาก แต่ต้องควักเงินซื้อหน้ากากอนามัย อีกทั้งการปรับกระทบกับประชาชน หากไม่มีค่าปรับเรื่องถึงศาล และหากไม่มีเงินจ่ายอาจต้องติดคุก
ทั้งนี้ เมื่อถามถึงกรณีที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีทบทวนและลาออกจากตำแหน่ง พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านได้มีมติ ให้พลเอกประยุทธ์ลาออก เพราะไม่สามารถทำตามกฎหมายที่ออกมาได้ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาโรคระบาดที่เกิดมา 4 ครั้ง ล้วนมีสาเหตุมาจากเจ้าหน้าที่รัฐและคนในคณะรัฐมนตรี แต่พลเอกประยุทธ์ ก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้
โดย 4 ครั้งที่เกิดขึ้นเกิดจากเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้เกิดจากประชาชนซึ่งพลเอกประยุทธ์ ก็ทำอะไรไม่ได้ จึงมองว่าไม่สามารถปกครองประเทศได้ พรรคร่วมฝ่ายค้าน จึงมีมติให้พลเอกประยุทธ์ ลาออก มีอำนาจปลดรัฐมนตรีก็ไม่กล้าปลด แม้ว่าเขาจะส่งคนออกมาด่า ก็ไม่กล้าปลด เพราะกลัวจะอยู่ไม่ได้ กลัวไม่มีอำนาจ 7 ปี ยังไมอิ่มอีกหรอ ยิ่งอยู่ยิ่งแย่
ส่วนกรณีที่พลเอกประยุทธ์ ประกาศยึดอำนาจสั่งการเรื่องของ โควิด-19 ไว้เองทั้งหมด พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ไม่ควรยึดอำนาจไว้ที่นายกรัฐมนตรีคนเดียว ควรแบ่งกระจายอำนาจให้คนอื่นทำ
“กูจะบ้าตาย คนเราแม่งมีสมอง สองมือ จะมีปัญญาสักแค่ไหน แบ่งการกระจายอำนาจให้คนอื่นเขาทำเหมาะสมแล้ว ประเทศทั้งประเทศมึงจะทำอย่างไรคนเดียว เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ปกครองทั้งทหารทั้งตำรวจ มาเรื่องโควิดกูก็จะดูเองอีก ที่ประเทศที่เขาเจริญเขาไม่มีนะ ไม่มีหรอกเอาทหารมานั่งรับผิดชอบ มาดูแลการบริหารโควิด ไอ้พวกนี้ก็จะให้ลูกน้องมีเงินใช้ มีค่าเสี่ยงภัย มีโน้น มีนี่ใช้ มีเบี้ยเลี้ยงใช้”
ขณะเดียวกัน เมื่อถามย้ำว่า กองทัพชี้แจงสาเหตุที่ต้องซื้อยุทโธปกรณ์ต่อ เนื่องจากเป็นสัญญาผูกพัน พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า สถานการณ์ของประเทศเรา ขณะนี้มีความจำเป็นต้องใช้เงินไม่ควรอ้างเรื่องงบผูกพัน เพราะมันสามารถงดหรือชะลอการชำระได้
