POLITICS

ตร. – คมนาคม – กทม. – ปภ. จับมือสำรวจทางม้าลายทั่วประเทศ

วันนี้ (28 ม.ค.65) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร พร้อมด้วยผู้แทนจาก กทม. สภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม และกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมหารือแนวทางป้องกันแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุบริเวณทางม้าลาย

ที่ประชุมมีมติสั่งการให้สถานีตำรวจทั่วประเทศ ตรวจสอบทางม้าลายร่วมกับจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แขวงการทาง หรือหน่วยงานภาคเอกชนที่เป็นเจ้าของถนน เพื่อหาแนวทางปรับปรุงแก้ไขเส้นทางข้ามให้เหมาะสม ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งการทาสี ตีเส้น ทำแถบชะลอความเร็ว ทำป้ายเตือน ปรับทัศนวิสัย ติดตั้งไฟสัญญาณจราจรควบคุมทางข้าม ติดตั้งกล้อง CCTV

นอกจากนี้ ตำรวจจะร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ พิจารณากำหนดอัตราความเร็วในเขตชุมชนที่มีประชาชนหนาแน่น หรือบริเวณสถานศึกษาหรือโรงพยาบาลตั้งอยู่ รวมถึงความเร็วขั้นต่ำก่อนถึงทางม้าลาย จัดทำป้ายจำกัดความเร็ว โดยในเขตชุมชนอาจจำกัดความเร็วที่ 30 – 40 กม./ชม. ส่วนนอกเขตชุมชน จำกัดความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม. พร้อมกับบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้ที่ฝ่าฝืน

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า แต่ละสถานีตำรวจจะจัดเจ้าหน้าที่และอาสาจราจร ดูแลความปลอดภัยบริเวณทางม้าลาย โดยเฉพาะทางข้ามที่ไม่มีการติดตั้งไฟสัญญาณจราจรควบคุมในช่วงที่มีประชาชนเดินสัญจรไปมาจำนวนมาก และจะบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังกับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับทางม้าลาย เช่น ไม่จอดให้คนข้าม ปรับไม่เกิน 1,000 บาท , แซงบริเวณทางข้าม ปรับ 400- 1,000 บาท , จอดรถในทางม้าลาย ปรับไม่เกิน 500 บาท และบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดข้อหาที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะ 10 ข้อหาหลัก เช่น ฝ่าไฟแดง ย้อนศร ขับรถเร็ว เมาแล้วขับ

สำหรับผู้พบการกระทำผิด รถไม่หยุดให้คนข้าม หรือรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรที่ทางม้าลาย สามารถถ่ายคลิปแล้วส่งให้ตำรวจเพื่อดำเนินการตามกฎหมายได้ โดยส่งมาได้ที่ศูนย์บริหารงานจราจร ผ่านช่องทางศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร.https://www.facebook.com/SocialMediaRoyalThaiPolice/) หรือเพจอาสาตาจราจร มูลนิธิเมาไม่ขับ (https://www.facebook.com/อาสาตาจราจร) หรือเพจเฟซบุค จส.100 และ สวพ.91

สำหรับคลิปที่เจ้าหน้าที่ได้รับ จะส่งต่อให้สถานีตำรวจในพื้นที่ติดตามดำเนินคดีกับผู้ทำผิด รวมถึงส่งไปพิจารณาในโครงการอาสาตาจราจรประจำเดือน มีสิทธิได้รับเงินรางวัลสูงสุดเดือนละ 20,000 บาท จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันเป็นอาสาตาจราจร เพื่อช่วยกันสร้างความตระหนักรู้ถึงผลที่อาจเกิดขึ้นจากการฝ่าฝืนกฎหมาย ความละอายต่อการทำผิด และสร้างวินัยการขับขี่ปลอดภัยให้เกิดขึ้นในสังคม

Related Posts

Send this to a friend