กระทรวงคมนาคม จับมือมูลนิธิเมาไม่ขับ และภาคีเครือข่าย ป้องกันอุบัติเหตุปีใหม่ 67
วันนี้ (27 ธ.ค. 66) ณ สถานีขนส่งหมอชิต มูลนิธิเมาไม่ขับ ร่วมกับบริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุเมาไม่ขับ ภาครัฐ ภาคเอกชน จัดกิจกรรมรณรงค์ “ปีใหม่ปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุทางถนน” โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุภาครัฐ ภาคเอกชน

นายสุริยะ กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมมีความห่วงใยต่ออุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 เนื่องจากมีวันหยุดต่อเนื่อง 4 วัน และมีพี่น้องประชาชนเดินทางกลับบ้านฉลองปีใหม่จำนวนมาก กระทรวงคมนาคม จึงต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยจากอุบัติเหตุทางถนนอย่างเข้มงวด ในฐานะที่ตนเองกำกับดูแลกระทรววคมนาคม นโยบายที่สำคัญ คือต้องอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชน ทั้งนี้ ได้กำหนดเป็นนโยบายให้พนักงานที่ขับขี่รถโดยสารสาธารณะต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ทั้งผู้ขับขี่รถ บขส. , รถ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. และรถร่วมทั้งหลาย โดยจะเข้มงวด กวดขันแก่ผู้ที่ขับขี่ต้องปลอดจากแอลกอฮอล์ ตรวจเข้มในเรื่องการเมาสุรา การขับรถเร็ว การโทรแล้วขับ ฯลฯ โดยเฉพาะรถสาธารณะ ปริมาณแอลกอฮอล์จะต้องเป็นศูนย์มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ หากตรวจพบว่าพนักงานขับรถมีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย จะมีการลงโทษสถานหนัก
“ผู้ขับขี่รถสาธารณะ เป็นบุคคลที่ต้องรับผิดชอบชีวิตผู้อื่นเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องมีมาตรฐานในการขับขี่รถที่สูงกว่าผู้ขับขี่รถทั่วไป การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แม้แต่เพียงเล็กน้อย ถือว่าเป็นเจตนาที่จะละเมิดกฎแห่งความปลอดภัย ถือว่าความผิดสำเร็จแล้วฐานดื่มสุราในขณะปฏิบัติหน้าที่ และผิดกฎหมายขนส่ง โทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับ 2,000 – 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ “ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าว
บรรยากาศภายในงานมีการจัดกิจกรรม ให้ความรู้กับประชาชน เกี่ยวกับความอันตรายจากการเมาแล้วขับ มีการแจกสติ๊กเกอร์ แผ่นพับ และคู่มือการเดินทางปีใหม่อย่างไรให้ปลอดภัย รวมถึงมีการจัดเสวนาฉลองปีใหม่อย่างไรไม่ให้ตกเป็นเหยื่อจากอุบัติเหตุ โดยมีเหยื่อเมาแล้วขับร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ จากสถิติอุบัติเหตุเทศกาลปีใหม่ เมื่อปี 2566 พบว่ามีคนไทยเสียชีวิต 317 คน บาดเจ็บ 2,437 คน สาเหตุหลักใหญ่เกิดจากการเมาแล้วขับ ขับรถเร็วเกินกว่ากำหนด และง่วงแล้วขับ เป็นต้น นอกจากนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ได้เข้าตรวจความสะอาดในห้องน้ำของ บขส. เพื่อสำรวจว่ามีความพร้อมในการให้เข้าใช้บริการ และมีความสะอาดหรือไม่ รวมถึงตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ และวัดไข้ของผู้ขับขี่รถสาธารณะ เพื่อให้มีความมั่นใจว่าผู้ขับจะปลอดจากแอลกอฮอล์ และไม่มีผลกระทบหรืออาการง่วงนอนเมื่อทานยาลดไข้ หากมีอาการป่วย เพื่อให้สามารถอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชนได้อย่างเต็มที่

ทั้งนี้ นายสุริยะ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังการเยี่ยมชมที่สถานีขนส่งหมอชิต กล่าวว่า จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน พบว่าถนนที่มีอุบัติเหตุมากที่สุด จะเป็นถนนในภูมิภาค และในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่นิยมดื่มแอลกอฮอล์ และขับขี่รถจักรยานยนต์ จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุจำนวนมาก จึงต้องมีการกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีความเข้มงวดในการตรวจขัน และดูแลด้านความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนมากขึ้น ที่สำคัญคือมูลนิธิเมาแล้วไม่ขับ ร่วมกับกระทรวงคมนาคมและกรมขนส่งทางบก มีความตั้งใจอยากให้เสนอเรื่องกฎหมายที่ผ่านมาเกี่ยวกับเรื่องเมาแล้วไม่ขับ โดยจะนำข้อมูล สถิติ มาบูรณาการและจัดทำหนังสือ เพื่อประสานงานไปยังตำรวจให้มีการแก้ไขกฎหมายให้เคร่งครัดยิ่งขึ้น เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความปลอดภัยและโทษที่จะตามมา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า สำหรับมาตราการที่ตรวจขันในปีนี้ คาดว่าจะสามารถ Set Zero และควบคุมอุบัติเหตุได้หรือไม่ นายสุริยะ ยืนยันว่า สำหรับรถโดยสารสาธารณะ “เรามั่นใจว่าสามารถควบคุมอุบัติเหตุเป็นศูนย์ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์”













