POLITICS

‘ภูมิธรรม’ โชว์ผลงาน 99 วัน Quick Win ทีมพาณิชย์ ลดค่าครองชีพ 7.8 พันล้านบาท

กระตุ้นเศรษฐกิจ 1.2 หมื่นล้านบาท เผยข้อจำกัดงบประมาณ-สารพัดปัญหาท้าทาย ต้องเร่งบริหารต่อจากรัฐบาลที่มาจากรัฐประหาร

วันนี้ (27 ธ.ค. 66) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ (รมว.) กระทรวงพาณิชย์ แถลงผลการดำเนินงาน Quick Win 99 วัน กระทรวงพาณิชย์ โดยมี นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ (รมช.) กระทรวงพาณิชย์ นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วมด้วย ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ ตำบลบางกระสอ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี

นายภูมิธรรม กล่าวถึงข้อจำกัดในเบื้องต้นว่า ภายใต้การบริหารโดยไม่มีงบประมาณประจำปี แต่ใช้งบประจำที่มีอยู่ 99 วันที่ผ่านมา ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เป็นทีมพาณิชย์ ประสานงานกันอย่างดี ทั้งนี้ ผู้ประกอบการก็ไม่ได้มีศักยภาพทุกคน องค์กรใหญ่สามารถเดินไปได้ แต่คนตัวเล็กซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ในประเทศ ต้องเผชิญภาวะวิกฤต เป็นคนตัวเล็กที่มีโอกาสน้อย เป็นเรื่องความยากลำบากครั้งนี้

“เราเข้ามาท่ามกลางปัญหามาก ในสถานการณ์ที่โลกเปลี่ยนแปลงมาก ภาวะภัยแล้ง น้ำท่วมรุนแรง เมื่อวาน (26 ธ.ค. 66) ก็เกิดในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นความท้าทายที่ธรรมชาติทดสอบเรา มีทั้งเรื่องราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ต้นทุนการผลิตสูง เศรษฐกิจโลกหดตัว สงครามก็มีผลกระทบต่อเราโดยตรง อย่างการปิดช่องแคบเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้น ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น กระทรวงพาณิชย์จึงเป็นด่านแรก เรามาท่ามกลางปัญหา” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวถึง การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ว่า สิ่งที่ได้รับฟังจากนายกฯ คือ “ทำงานอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย” ก็พิสูจน์ได้จริง ไม่ใช่แค่ข้าราชการ แต่รวมถึงรัฐมนตรีด้วยที่ต้องทำตาม เมื่อเรามีธงนำที่ดี นายกฯ มองเห็นปัญหาและมีศักยภาพ จึงผลักดันและนำเราไปด้วยโดยนัย ดังนั้น เมื่อเข้ามาด้วยคำขวัญและความเชื่อมั่นให้กับประชาชนแบบนี้ หากปัญหาไม่มีทางแก้ก็ต้องจัดการหาทางแก้ด้วย

“กระทรวงพาณิชย์ เป็นกระทรวงที่สัมพันธ์กับผู้บริโภค สัมพันธ์กับผู้ประกอบการทั้งหมด เป็นงานที่พาประเทศเราให้มีรายได้มากขึ้น ดูแลรายจ่ายประชาชน และสร้างโอกาสใหม่ ๆ ของการทำงานทุกกรม” รมว.พาณิชย์ กล่าวก่อนแจกแจงผลการดำเนินงาน 3 ระยะ ดังนี้

หัวข้อที่ 1 คือ “3 ซ่อม เพื่อลดช่องว่าง” ให้คนตัวเล็กทั้งประชาชน เกษตรกร ผู้ประกอบการ ลดค่าครองชีพ เข้าถึงแหล่งวัตถุดิบ พยุงราคาสินค้าเกษตร เสริมความเข้มแข็งในการค้าขาย

1.ช่วยประชาชน โดยการจำหน่ายสินค้าราคาประหยัด ผ่าน 5 กิจกรรมหลักทั่วประเทศ ลดสูงสุดกว่า 82% ลดค่าครองชีพไปแล้วกว่า 7,758 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ 12,000 ล้านบาท

2.ช่วยเกษตรกร ผ่านการรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตร 4 ชนิด คือ ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด และปาล์มน้ำมัน ตลอดจนผ่านการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายและการตลาด เชื่อมตลาดในและต่างประเทศ คิดเป็นมูลค่า 3,369 ล้านบาท

3.ช่วยผู้ประกอบการ ผ่านการอำนวยความสะดวกทางการค้า เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน หาช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ อาทิ ตลาดน้ำคลองลัดมะยม หนานหนิง เซี่ยงไฮ้ และคุนหมิง

“ภายใต้รัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ประชาชนและสังคมโลกเขาไม่สบายใจ พอเป็นตอนนี้ เราสามารถใช้การจัดการทางบริหารทำได้ … เราไม่ถือว่าเป็นรัฐบาลเก่าทำให้เรา แต่เมื่อเกิดขึ้นมาก็เป็นหน้าที่เราต้องบริหารจัดการโดยเร็ว” รมว.พาณิชย์ กล่าว

หัวข้อที่ 2 คือ “8 สร้าง เพื่อต่อเติม” ปรับฐานเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรและผู้ประกอบการ บริหารต้นทุน แปรรูปผลผลิตเพิ่มช่องทางการแข่งขันทางการตลาด สร้างแต้มต่อ เพื่อรองรับบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลง

1.สร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานราก โดยวางแผนกระจายสินค้าเกษตรล่วงหน้า มีมาตรการบริหารจัดการผลไม้ปี 2567 ตลอดจนควบคุมและจัดสรรต้นทุนปุ๋ย และอาหารสัตว์ ในราคายุติธรรม

2.สร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการในการแข่งขัน โดยการจัดมหกรรมรวมพลัง SMEs ไทย และให้บริการข้อมูลเชิงลึก

3.สร้างกลไกพาณิชย์จังหวัด ทูตพาณิชย์และทีมไทยแลนด์ ร่วมมือกันขยายตลาดไปต่างประเทศรองรับนโยบายทีมไทยแลนด์ของรัฐบาล

4.สร้างยุทธศาสตร์การค้าชายแดน/ผ่านแดน ตั้งศูนย์บริการค้าชายแดนเบ็ดเสร็จจุดเดียว (One Stop Service: OSS) 8 จังหวัด

5.สร้างยุทธศาสตร์การส่งออกให้สอดคล้องกับบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลง เช่น การสร้างทีมไทยแลนด์ 10 ตลาด เจาะตลาดรายมณฑลและเมืองรอง หารือนักลงทุน และสร้าง Shop/Corner ผ่านร้าน Thai SELECT

6.สร้างแต้มต่อทางการค้าด้วยความตกลงการค้าเสรี (Free Trade Agreement: FTA)

7.สร้างอาชีพ สร้างโอกาสทางการค้าด้วยซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านอาหารไทย ภาพยนตร์/เกม การท่องเที่ยวคุณภาพสูง หนังสือ แฟชั่น งานออกแบบ และการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการไทย

8.สร้างความเข้มแข็งของธุรกิจด้วยนวัตกรรม

หัวข้อที่ 3 คือ “4 เสริม เพื่อยั่งยืน” เสริมความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่อง

1.เสริมกลไกเพื่อรักษาระดับราคาสินค้าเกษตร อย่างครบวงจร วางแผนล่วงหน้าร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ

2.เสริมยุทธศาสตร์ของหน่วยงานรองรับการเปลี่ยนแปลง

3.เสริมมาตรฐาน SMEs ไทย โดยการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ต้นแบบ เช่น กาแฟดงดิบ

4.เสริมขีดความสามารถทางการค้าไทย

“ทั้งหมดคือผลงานของกระทรวงพาณิชย์ที่ทำมา 99 วัน ให้ประชาชนได้รับความพึงพอใจ ใช้เทคโนโลยีพัฒนาให้เศรษฐกิจการค้าให้ไปได้ดีมากขึ้น ขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยกันผลักดัน จากนี้ไปจะเห็นผลงานที่มากขึ้นผลิดอกออกผล ให้ประชาชนเดินหน้าต่อไปในอนาคตอย่างมีความหวัง” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ กล่าว

Related Posts

Send this to a friend