กระทรวงแรงงาน เร่งผลิตพนักงานขับรถบรรทุก ป้อนสู่ตลาดอุตสาหกรรมโลจิสติกส์
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมโลจิสติกส์และระบบการขนส่ง จะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศในภาคการผลิต บริการ รวมถึงการส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภค และยังช่วยลดต้นทุน เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ
ปัจจุบันเมื่อสถานการณ์โควิด-19 เริ่มดีขึ้น อุตสาหกรรมโลจิสติกส์และระบบการขนส่งจึงมีความต้องการแรงงานในสาขานี้เป็นจำนวนมาก เพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะพนักงานขับรถบรรทุกมีความต้องการเป็นพิเศษ กรมพัฒนาฝีมือแรงงานจึงต้องเร่งผลิตกำลังแรงงานในสาขานี้ให้มีทักษะฝีมือตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงานทั้งในและต่างประเทศ
นางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า สำหรับปี 2567 กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มีเป้าหมายพัฒนาพนักงานขับรถบรรทุกและรถโดยสารสาธารณะป้อนอุตสาหกรรมขนส่งสินค้าและบริการไม่น้อยกว่า 3,500 คน ภายใต้โครงการพัฒนาบุคลากรด้านโลจิสติกส์และโครงการพัฒนาศักยภาพวัยแรงงานรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยจะร่วมกับเครือข่ายพัฒนาหลักสูตรและพัฒนาบุคลากรด้านขนส่งและบริการ จัดฝึกหลักสูตรพนักงานขับรถบรรทุก พนักงานขับรถหัวลาก พนักงานขับรถโดยสารไฟฟ้า และช่างเทคนิคและซ่อมบำรุง
ที่ผ่านมาระหว่างปี 2565–2566 มีผู้เข้าฝึกอบรมในหลักสูตรต่าง ๆ แล้วจำนวน 175 คน ซึ่งมีทั้งหลักสูตรเทคนิคการขับรถเชิงป้องกันและปลอดภัย นักปฏิบัติการขนส่งสินค้าทางถนน พนักงานขับรถบรรทุกขนส่งสินค้า พนักงานขับรถโดยสารไฟฟ้า และการบำรุงรักษารถบรรทุกในงานขนส่งสินค้า เป็นต้น
นางสาวบุปผา กล่าวต่อไปว่า กรมพัฒนาฝีมือแรงงานยังมีสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานนานาชาติ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานในกลุ่มอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และระบบการขนส่ง มีการจัดฝึกอบรมสาขา “เทคนิคการขับรถลากจูง” ระยะเวลาการฝึกอบรม 210 ชั่วโมง ซึ่งในช่วงระหว่างปี 2564-2565 มีผู้ผ่านการฝึกอบรม 189 คน สำหรับในปี 2566 ดำเนินการฝึกอบรมไปแล้ว 95 คน โดยมีสถานประกอบการรับเข้าทำงานในตำแหน่งต่าง ๆ เช่น พนักงานขับรถบรรทุกขนส่งสินค้าอันตราย พนักงานขับรถบรรทุกขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ พนักงานขับรถยกสินค้าขนาดไม่เกิน 10 ตัน เป็นต้น มีรายได้เฉลี่ย 30,000 – 40,000 บาทต่อเดือน
“การพัฒนาทักษะฝีมือเป็นกลไกสำคัญต่อการส่งเสริมและสนับสนุนให้แรงงานมีงานทำและมีรายได้ที่ยั่งยืน ช่วยให้แรงงานสามารถทำงานได้อย่างมืออาชีพ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงาน เพื่อรับรองการเติบโตของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และขนส่ง รวมถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย” อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าว
