POLITICS

เปิดตัวคีย์แมน ‘สันติภาพชายแดนใต้’ ในรัฐบาลใหม่ มีชื่อ ‘ธนาธร’ เป็นหัวหน้าคณะพูดคุยสันติภาพคนใหม่

เปิดตัวคีย์แมน ‘สันติภาพชายแดนใต้’ หากก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล มีชื่อ ‘ธนาธร’ เป็นหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติภาพคนใหม่ น่าจับตาพรรคร่วมรัฐบาล ‘ทวี-รอมฎอน-กัณวีร์-ภราดร’ ร่วมเป็นคีย์แมนสำคัญ

ปัญหาสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นหนึ่งในนโยบาย MOU ที่พรรคร่วมรัฐบาลภายใต้ แกนนำของรัฐบาลพรรคก้าวไกล ได้ลงนามกันไปแล้ว เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 และเป็นที่ทราบกันดีว่า พรรคก้าวไกล ก็ให้ความสำคัญกับนโยบายในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผลักดันสันติภาพก้าวหน้า สันติภาพชายแดนใต้/ปาตานี

ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลทั้งพรรคเพื่อไทย แม้จะไม่ได้ชูนโยบายหลัก แต่เมื่อปี 2556 พรรคเพื่อไทยในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์​ ชินวัตร คือผู้ริเริ่มกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการลงนาม MOU ริเริ่มพูดคุยกับ ขบวนการ BRN ที่มี พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เป็นหัวหน้าคณะพูดคุยของไทย และมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอบต.ร่วมด้วย ซึ่งปัจจุบัน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็นเลขาธิการพรรคประชาชาติ หนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาล ขณะที่ พล.ท.ภราดร ก็ยังเป็นคนของพรรคเพื่อไทย

และยังมี พรรคเป็นธรรม ที่มีนโยบายและยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยนายกัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรค ที่ผลักดันนโยบายสันติภาพกินได้ ยกระดับกระบวนการสันติภาพ ยกเลิกกฎหมายพิเศษ ยุบ กอ.รมน. และยุบ ศอบต.เช่นเดียวกับ นโยบายของพรรคก้าวไกล ที่มีนโยบายชัดต่อการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

บทบาทของคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ชุดที่มีพล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เป็นหัวหน้าคณะพูดคุยฯ กำลังจะจบลง หลังการสิ้นสุดตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะเป็นการแต่งตั้งตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ทำให้ต้องจับตาว่า คณะพูดคุยฯ ชุดใหม่ ภายใต้รัฐบาลใหม่ หากเป็นการนำของพรรคก้าวไกลจะเป็นใคร

แน่นอนว่าท่าที่นโยบายของพรรคร่วมรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย จะเปลี่ยนคำว่า “การพูดคุยเพื่อสันติสุข” เป็น “การพูดคุยเพื่อสันติภาพ” เพราะมีการวิจารณ์ถึงการใช้คำนี้มาตลอด หลังเปลี่ยนรัฐบาลจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเริ่มตั้งคณะพูดคุยเพื่อสันติภาพ มาเป็นคณะพูดคุยเพื่อสันติสุข ในรัฐบาล คสช. โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จนถึงรัฐบาลปัจจุบัน

ส่วนหัวหน้าคณะพูดคุยต้องเปลี่ยนจากทหาร เป็น พลเรือน แม้ในชุดแรก พล.ท.ภราดร จะมียศทางทหาร แต่เป็นในตำแหน่งเลขาธิการ สมช.ที่เป็นหน่วยงานสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ต่อมา หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุข ที่แต่งตั้งโดย พล.อ.ประยุทธ์ ต่างเป็น ทหาร มาโดยตลอด

มีรายงานว่า คีย์แมนคนสำคัญของพรรคร่วมรัฐบาล ที่จะมีบทบาทในกระบวนการสร้างสันติภาพชายแดนใต้ มีชื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อาจมาเป็นหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติภาพ แม้จะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง แต่ในตำแหน่งนี้ที่ผ่านมามีการแต่งตั้งบุคคลที่นายกรัฐมนตรีเสนอได้ จึงน่าจับตาว่าจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมานายธนาธร มีบทบาทในการทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ จนคณะก้าวหน้า ที่ให้ความสำคัญกับปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้มากคนหนึ่ง เช่นเดียวกับ น.ส.พรรณิการ์​ วาณิช

ในส่วนของพรรคก้าวไกล มีว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายรอมฎอน ปันจอร์ ที่เป็นคีย์แมน เรื่องนโยบายสันติภาพก้าวหน้าของพรรคก้าวไกล ถูกจัดลำดับบัญชีรายชื่ออยู่ที่ลำดับที่ 20 แสดงถึงความสำคัญในนโยบายจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยนายรอมฎอน เป็นทั้งอดีตสื่อ อดีตนักกิจกรรม และนักวิชาการ ที่ติดตามเชี่ยวชาญสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้มาตลอดเกือบ 20 ปี

ในการให้สัมภาษณ์ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2566 กรณีการส่งต่อบทบาทของคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปยัง รัฐบาลใหม่ นายพิธา บอกว่า เรื่องนี้พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญ และมีบุคลากร อย่างเช่น นายรอมฎอน ปันจอร์ จะขับเคลื่อนเรื่องนี้ และยังต้องคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล ในการทำงานร่วมกันด้วย

ซึ่งแน่นอนว่า คีย์แมนสำคัญของพรรคร่วมรัฐบาล หากรัฐบาลนี้เกิดขึ้นได้จริง ยังมี นายกัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม ที่กำลังถูกจับตามองมากที่สุดขณะนี้ จากประสบการณ์อดีตเจ้าหน้าที่องค์การสหประชาชาติ ประกาศนำหลักการ มนุษยธรรมนำการเมือง มาใช้ในการทำงาน นโยบายจังหวัดจัดการตนเอง รวมถึงการผลักดันคำว่า ‘ปาตานี’ ให้อยู่ใน MOU ของพรรคร่วมรัฐบาลด้วย เนื่องจากเป็นหนึ่งในนโยบายของพรรคเป็นธรรม ที่นายกัณวีร์ พยายามผลักดันคำว่า ‘ปาตานี’ ที่สะท้อนถึงความเป็นอัตลักษณ์และวัฒนธรรมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา และเป็นหนึ่งในปมขัดแย้งทางประวัติศาสตร์ ได้ถูกนำมาใช้ในการพูดคุยเพื่อให้เกิดการแสดงออกทางสิทธิและเสรีภาพ และเป็นประเด็นสำคัญที่จะถูกนำไปคุยในโต๊ะพูดคุย และมีการยืนยันว่าไม่ใช่นโยบายสุดโต่ง แต่เป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการสันติภาพ

กระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงน่าจับตาอย่างยิ่งภายใต้การนำของรัฐบาล ชุดใหม่ ซึ่งจะยกระดับให้เป็นวาระแห่งชาติ มีการเสนออกกฎหมายในการเจรจาสันติภาพมารองรับ รวมถึงการเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจของฝ่ายความมั่นคง ยังเป็นนโยบายที่ท้าท้ายจากหน่วยงานความมั่นคงมากเช่นเดียวกัน

รวมถึงการมีแนวคิดเปลี่ยนผู้อำนวยความสะดวกจากประเทศมาเลเซีย เป็นประเทศอื่น ก็กำลังถูกจับตาต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ว่าจะได้รับการยอมรับหรือไม่ และท่าทีของ ขบวนการ BRN ต่อโฉมหน้าของคณะพูดคุยเพื่อสันติภาพชุดใหม่ ซึ่งระหว่างนี้การพูดคุยจะหยุดชะงักไปจนกว่า จะมีรัฐบาลใหม่ ในเดือนสิงหาคมนี้

Related Posts

Send this to a friend