สกลธี ไม่เชื่อนิด้าโพลเพราะไม่ตรงความจริง ชี้ เป็นไปไม่ได้ที่ พลเอกประวิตร จะไม่ติดโพล
วันนี้ (27 มี.ค.66) นายสกลธี ภัททิยกุล แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะหัวหน้าทีม กทม. กล่าวถึงการเปิดเวทีปราศรัยในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า จะจัดทุกสัปดาห์ แบ่งตามโซน โดยวันเสาร์นี้ (1 เม.ย.66) จะจัดที่ใต้สะพานพระราม 8 สำหรับการลงพื้นที่ กรรมการบริหารพรรคจะไปช่วยตามเขตต่าง ๆ ผู้สมัครจะทำตารางว่าเขตใดจะส่งใครไป เพื่อที่จะเป็นกระแสให้กับผู้สมัคร
ส่วนผลนิด้าโพลไม่มีชื่อพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ชาวกรุงเทพฯ อยากให้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ไม่กังวล หากวัดเมื่อครั้งลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ได้ 1% แต่ผลออกมาได้ 9% การทำโพลต้องดูว่าใช้ตัวอย่างเท่าไร วัดอย่างไร ผลโพลเป็นเพียงกระแสบางพื้นที่ จะเหมารวมทั้งหมดไม่ได้ หากนำโพลของเราเองมาเทียบ ผลก็ต่างกันสิ้นเชิง และเป็นไปไม่ได้ที่ พลเอกประวิตร จะไม่ติดโพล อาจจะไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง
สำหรับโพลของพรรคพลังประชารัฐ ทำการสำรวจในพื้นที่ กทม. เท่านั้นหรือไม่ นายสกลธี กล่าวว่า การดูแลพื้นที่ กทม. มีการแบ่งความรับผิดชอบ กทม. เรามีโพลออนไลน์ และออฟไลน์ 40-50 วันเลือกก่อนเลือกตั้ง มีการแบ่งเขตเป้าหมายที่เราจะทำโพล เพื่อนำผลมาประเมินแก้ไขสถานการณ์
ส่วนการปรับยุทธศาสตร์ในเวทีดีเบตของแต่ละสื่อก็จะมีผู้ใหญ่ของพรรคไป หากมีการเจาะจงจะมีการพิจารณาส่งผู้สมัครไป หากเป็นพื้นที่กรุงเทพฯ ตนเองก็จะไปเอง ซึ่งตอนนี้กระแสมีความสำคัญ ภาพรวมพรรคพลังประชารัฐ และคนที่มาดูแลพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นคนมีประสบการณ์ หลายคนเป็นรัฐมนตรี การเสนอนโยบายพรรคพลังประชารัฐไม่ได้เสนอในเรื่องเล็ก แต่เราเสนอในภาพรวม เพราะรู้ว่าปัญหากรุงเทพฯ ไม่มีเจ้าภาพที่ชัดเจน ถึงแม้กรุงเทพฯ จะเป็นท้องถิ่นแต่งบประมาณของกรุงเทพฯ ไม่สามารถแก้ปัญหาให้ได้ จึงเสนอกองทุนประชารัฐพัฒนา เพื่อจะนำมาช่วยเหลือกรุงเทพฯ และหัวหน้าพรรคก็พูดแล้วว่าเราทำงานให้กับทุกคน พรรคพลังประชารัฐเป็นรัฐบาล ก็จะทำงานก็ท้องถิ่นกรุงเทพฯ อย่างเต็มที่ โดยเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้าย พลเอกประวิตร จะขึ้นเวทีด้วย ซึ่งจะจัดที่กรุงเทพฯ
สำหรับเป้าหมายในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งเป้าไว้ว่าอยากได้เท่าเดิม เราประเมินหลายอย่าง ทั้งโพลออนไลน์และออฟไลน์ ตอนนี้ที่กำลังเดินอยู่ มีตัวเลขใกล้เคียง แต่ไม่สามารถคาดการณ์ได้เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐมองใครเป็นคู่แข่งในพื้นที่กรุงเทพฯ นายสกลธี เปิดเผยว่า เราแข่งกับตนเองมากกว่า ทุกพรรคมีนโยบายที่ดี แต่เราจะมีนโยบายที่แตกต่าง
สาเหตุที่ไม่ติดโพล เป็นเพราะลงพื้นที่หาเสียงน้อยไปหรือไม่ นายสกลธี ระบุว่า ส่วนตัวมองว่าไม่เกี่ยว แต่โพลที่เราทำ พลเอกประวิตรติดทุกโพล บางทีโพลมีผลชี้นำและมีความน่าเชื่อถือ โพลออกมาอาจจะดูคัดค้าน แต่ถ้าถามโดยตรง พลเอกประวิตร เป็นหัวหน้าพรรครัฐบาลหลัก ถ้าไม่ติดก็ดูแปลก
ส่วนกระแสกลับบ้านของนายทักษิณ ชินวัตร มีผลต่อการตัดสินใจของคนกรุงเทพฯ หรือไม่ นายสกลธี ระบุว่า จุดประสงค์ที่ปล่อยข่าวออกมา คงเป็นเช่นนั้น แต่ในกรุงเทพฯ ไม่น่าจะมีผลเท่าไร ฐานคะแนนแบ่ง 2 ฝั่งชัดเจน ส่วนตัวคิดว่าไม่เกี่ยวกัน กระแสข่าวนายทักษิณ จะหนุนพลเอกประวิตร เป็นนายกฯ จะเป็นผลบวกหรือลบกับผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐกรือไม่ คงเป็นทั้งบวกและลบ มีทั้งคนสนับสนุนและไม่สนับสนุนนายทักษิณ
โดยพลเอกประวิตร ก้าวข้ามความขัดแย้ง จึงไม่สามารถบอกได้ว่าจะจับมือกับใคร ต้องรอหลังเลือกตั้งเพื่อดูจำนวนเก้าอี้ที่ได้ ส.ส. และต้องดูพรรคอื่นด้วยว่ามีตัวเลขเพียงพอจะตั้งรัฐบาลหรือไม่ ขณะนี้อาจเร็วเกินที่จะประเมิน การจับมือล่วงหน้าไม่น่าเป็นไปได้ เพราะทุกพรรคต้องแข่งกัน