ตะวัน-แบม ยื่นหนังสือถึงประธานศาลฎีกา ขอย้ายเข้าไปทำกิจกรรมในรั้วศาล

ตะวัน-แบม ยื่นหนังสือถึงประธานศาลฎีกา ขอย้ายเข้าไปทำกิจกรรมในรั้วศาล หลังถูก ขว้างปาขวดน้ำ – ข่มขู่ ยืนยันทำอดอาหารต่อไม่กลับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ

วันนี้ (27 ก.พ. 66) เวลา10:00 น. ที่บริเวณด้านหน้าศาลฎีกา น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ 2 นักกิจกรรมที่อดอาหาร กับน้ำประท้วง เรียกร้องสิทธิการประกันตัวผู้ถูกกล่าวหาคดีทางการเมือง ยื่นหนังสือถึงประธานศาลฎีกา เพื่อขอเข้าใช้พื้นที่บริเวณพระบรมรูปพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ในการทำกิจกรรม โดยมี นายวราพงศ์ จันทนพันธ์ นิติกรปฎิบัติการ สำนักงานศาลยุติธรรม เป็นตัวแทนรับมอบ

น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ทะลุวัง เข้าพูดคุยตัวแทนจากศาล เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่เข้าไปรับหนังสือ กับตะวัน และแบม ด้วยตัวเอง ตามเจตนารมณ์ของทั้งคู่ แต่เจ้าหน้าที่จากศาลปฏิเสธ โดยให้เหตุผลเรื่องความปลอดภัย และกังวลว่าจะนำเชื้อโรคเข้าไปถึงตะวัน และแบม ก่อนที่ น.ส.เนติพร จะเข้าไปพูดคุยกับตะวัน และแบมอีกครั้ง

ต่อมา น.ส. เนติพร จึงเป็นตัวแทนของ ตะวัน และแบม ออกมายื่นหนังสือให้กับนายวราพงศ์ และขอให้เซ็นกำกับเพื่อให้ตะวัน และแบมทราบว่าใครไปผู้มารับหนังสือ พร้อมกล่าวว่า ทั้งคู่อยากเข้าไปทำกิจกรรมบริเวณด้านในอย่างสงบ และไม่ให้เกิดความวุ่นวายเหมือนที่เคยโดนคดีในทุกครั้งที่ผ่านมา และอยากทราบว่าประธานศาลฎีกาจะอนุมัติหรือไม่ภายในกี่วัน

น.ส. เนติพร กล่าวอีกว่า ภายหลังจากที่ทราบว่า นักกิจกรรมอีก 2 คนที่ถูกคุมขังในระหว่างการพิจารณาคดีไม่ได้รับการประกัน ตนจึงแจ้งข่าวให้ทั้งคู่ทราบ ซึ่งทั้งคู่ก็พยายามที่จะลุกมาพูดคุย ก่อนที่จะหน้ามืด และกลับไปนอน พร้อมระบุอีกว่า ทั้งคู่จะยกระดับการเรียกร้องขึ้นไปอีก จากเดิมที่จิบๆ น้ำ ก็จะไม่รับน้ำเข้าสู่ร่างกายอีก

อีกทั้ง สภาพอากาศที่มีอุณหภูมิสูง ทำให้ร่างกายของทั้งคู่สูญเสียน้ำ ซึ่งหากเกิดเหตุฉุกเฉินไปมากกว่านี้ ตนจึงปรึกษาขอให้ปรับเปลี่ยนการเรียกร้อง ซึ่งทั้งคู่ก็ตกลงกันว่าจะขอเข้าไปอดอาหารด้านในศาลฎีกา เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาระหว่างการอดอาหาร มีผู้ไม่หวังดี ขว้างขวดน้ำเข้ามา และข่มขู่ ซึ่งตนเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยจึงเห็นด้วยกับความคิดนี้ นำไปสู่การยื่นหนังสือของวันนี้

ทั้งนี้ หากการเรียกร้องไม่เป็นผล น.ส.เนติพร กล่าวว่า ต้องรอความคิดเห็นของทั้งคู่ว่าจะดำเนินการกันต่อไปอย่างไร แต่อาจจะต้องใช้เวลา เพราะร่างกายของทั้ง 2 คน เริ่มคิด และพูดได้ช้าลง ซึ่งจะต้องให้ทั้งคู่ค่อยๆ ตัดสินใจกันต่อ ส่วนการจะย้ายกลับไปอดอาหารที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรตินั้น ทั้งคู่ยืนยันว่าจะไม่กลับไป และพวกตนก็ได้เตรียมความพร้อมในกรณีฉุกเฉินไว้แล้ว

ขณะที่ นายวราพงศ์ ระบุว่า ตนจะนำเรื่องดังกล่าวไปเรียนต่อประธานศาลฎีกาเพื่อให้พิจารณา และมีคำสั่งต่อไป