ที่ประชุม สมช.เห็นชอบ ‘พล.อ.ณัฐพล’ ประชุม GBC กับกัมพูชา หาข้อสรุป
ที่ประชุม สมช.เห็นชอบ ‘พล.อ.ณัฐพล’ ประชุม GBC กับกัมพูชา ที่จันทบุรี หาข้อสรุปถ้อยแถลงร่วม ตามกรอบข้อตกลงกัวลาลัมเปอร์ ไทยเสนอหยุดยิง 72 ชม.ก่อนปล่อยตัวเชลยศึก ‘อนุทิน’ ย้ำ ขอเป็นการลงนามครั้งสุดท้าย จะได้เกิดสันติภาพในพื้นที่ ทางกองทัพ ยันไทยบรรลุเป้าหมายแล้ว
วันนี้ (26 ธ.ค. 68) เวลา 17.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติสภาความมั่นคงแห่งชาติ มีมติให้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปหรือ GBC กับทางฝ่ายรัฐมนตรีกลาโหมของกัมพูชา ในวันพรุ่งนี้ที่ จ.จันทบุรี โดยที่ประชุมใช้ มาตรา 8 ตาม พรบ.การบริหารราชการแผ่นดิน ขอมติคณะรัฐมนตรีเพื่อให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปเจรจากับทางฝ่ายกัมพูชา ถือว่ามีความสมบูรณ์
สำหรับกรอบข้อตกลงที่ฝ่ายเลขานุการ GBC ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นชอบจากการพูดคุยตลอด 3 วันที่ ผ่านมา นายอนุทิน เปิดเผยว่า เป็นไปตามข้อตกลงกัวลาลัมเปอร์ หรือ Join Declaration เมื่อวันที่ 26 ต.ค.68 ซึ่งไทยยังไม่เคยหลุดกรอบ และไทยยังทำตาม 4 ข้อหลัก ถ้าพรุ่งนี้ รมว.กระทรวงกลาโหม สามารถบรรลุข้อตกลงระหว่างไทยและกัมพูชา ยอมรับกันได้ ก็จะมีการลงนามในร่างถ้อยแถลง Joint Statement
“จะเรียกชื่ออะไรไม่สำคัญ แต่ต้องรักษาสัญญากันว่า ต้องไม่คุกคาม ยั่วยุ ลดความเป็นภัยต่อความมั่นคงของทั้ง 2 ประเทศ สาระหลักๆได้รับ การหารือของฝ่ายเลขานุการ พล.อ.ณัฐพงษ์ เพราแก้ว รองเสนาธิการทหาร ได้รายงานถึงแนวโน้ม ถ้าเป็นอย่างที่ท่านว่า ก็จะเป็นข้อยุติที่ดี ที่ทำให้ไทย ดำรงอธิปไตย สถาปนา บูรณภาพแห่งดินแดน ตามจุดเป้าหมายที่ทางกองทัพกำหนดไว้ได้ครบ
นายอนุทิน เปิดเผยว่า ถ้าพรุ่งนี้ รมว.กระทรวงกลาโหม บรรลุถ้อยแถลง กรอบข้อตกลงจะเดินอยู่ใน 4 ข้อเดิม ที่ทำร่ววมกันที่กัวลาลัมเปอร์ ทั้งการถอนกำลังอาวุธหนัก ฝ่ายไทยเก็บกู้วัตถุระเบิด การปราบปรามสแกม และแก้ปัญหาที่บ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว
ส่วนข้อเสนอที่จะหยุดยิง 72 ชั่วโมงนั้น นายอนุทิน เปิดเผยว่า เป็นข้อกำหนดที่ไทยขอให้ฝ่ายยอมรับ ยอมรับ ถ้าทำได้ เราจะพิจารณาปล่อยทหารกัมพูชา หรือเชลยศึกทั้ง 18 คน
“เราต้องถามว่าประเทศไทยได้สิ่งที่ตัวเองต้องการในเบื้องต้นแล้วหรือยัง เป้าหมายทางทหาร การประกาศบูรณภาพแห่งดินแดน ฝ่ายกองทัพได้รายงานว่าเราบรรลุเป้าหมาย เราควบคุมดินแดนที่เคยไม่ใช่ของเราได้่ ที่ผ่านมา เขาไม่ยอมรับ”
นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า ทางกองทัพยืนยันว่าไทยได้บรรลุเป้าหมายแล้ว หากวันพรุ่งนี้ฝ่ายกัมพูชาเห็นชอบก็จะเริ่มต้นไปตามข้อตกลงร่วมกัน และหวังว่ากัมพูชาจะทำตามข้อตกลง เพราะเป็นการลงนามของรัฐบาล ซึ่งไทยรักษาข้อตกลงแน่นอน
“เที่ยวนี้ขอให้ลงนามครั้งสุดท้ายเถอะ จะได้เกิดสันติภาพในพื้นที่ พี่น้องประชาชนจะได้กลับบ้านตัวเอง หวังว่า รมว.กลาโหม คงมีความคิดเหมือนผม ถ้าลงได้ในวันพรุ่งนี้ก็ดี ต้องให้กำลังใจกัน และเรามีความพร้อมมาก”
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าในด้านกองทัพก็ต้องรักษาอธิปไตยรักษาดินแดน เจรจาก็เจรจา แต่ถ้าบรรลุข้อตกลงแล้ว ก็มีห้วงเวลาอยู่ ที่อยากให้รักษาสัญญา
“การคุยทวิภาคี เราเห็นเขามาเจรจาขอให้หยุดยิง ในเรื่องการทูต เราต้องพยายามจะต้องระวังเรื่องคำพูด เรารู้สถานะของเราแล้วว่าต้องการและบรรลุวัตถุประสงค์ในสิ่งที่ต้องการแล้ว เราต้องออกไปตีฆ้องร้องเป่า เฉลิมฉลองไหม ผมว่าไม่ต้อง แต่ถ้าไม่พอใจ เกิดการสู้รบเสียหายกันอีก ไม่มีใครต้องการเกิดขึ้น ถ้ามาคุกคาม มารุกรานประเทศไทยเราพร้อมจะตอบโต้ และต้องบอกให้โลกเห็นว่า ประเทศไทยถึงเวลาเรามีเหตุมีผล”
นายอนุทิน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเคยคุยกับนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพุชา เมื่อครั้งประชุมที่มาเลเซีย แต่หลังเกิดเหตุรอบใหม่ ไม่เคยคุย
พร้อมยืนยันว่าไทยไม่เสียเปรียบ เพราะเราใช้หลักกฏการปะทะ ที่ดำเนินการก็ต้องมีกลไกที่ต้องรักษาอธิปไตย ประชาชนไม่ต้องไปกังวลเลย












