POLITICS

ครม.เคาะขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ มีผล 1 ม.ค.67 เป็นต้นไป

ครม.เคาะขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ มีผล 1 ม.ค.67 เป็นต้นไป นายกฯ จี้บอร์ดไตรภาคี ศึกษาปรับขึ้นรายพื้นที่-รายวิชาชีพอีกรอบ ภายในเดือน มี.ค.67

วันนี้ (26 ธ.ค. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีกระทรวงแรงงาน เสนอมติของคณะกรรมการไตรภาคี เรื่องปรับขึ้นอัตราขั้นต่ำให้กับแรงงานในอัตรา 2-16 บาทให้ที่ประชุม ครม.รับทราบว่า คณะกรรมการไตรภาคีจะประชุมเรื่องการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำอีกครั้งภายในเดือนมกราคม 2567 เพื่อกำหนดอัตราใหม่ ปรับค่าจ้างขั้นต่ำให้สูงขึ้น และจะประกาศใช้ในเดือนมีนาคม 2567 เพราะต้องปรับปีละหน ซึ่งคณะกรรมการไตรภาคีจะต้องศึกษา เพื่อขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำรายอำเภอ และรายพื้นที่เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกล่าวว่าวันนี้นำเรื่องการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเข้าที่ประชุม ครม.ให้รับทราบอีกครั้ง ซึ่งคณะกรรมการไตรภาคียืนยันค่าจ้างขั้นต่ำในอัตราเดิม โดยตนเองได้ขอหารือกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีว่าในวันที่ 17 มกราคม 2567 คณะกรรมการไตรภาคีจะประชุมอีกครั้ง เพื่อตั้งคณะอนุกรรมการไตรภาคี ศึกษาการขึ้นค่าจ้าขั้นต่ำรายวิชาชีพ รายอำเภอ และรายเทศบาล เพราะขณะนี้การประกาศเป็นรายจังหวัดไม่สะท้อนภาพความเป็นจริง เนื่องจากบางจังหวัดในเขตเทศบาลหรือเขตอำเภอมีสภาพเศรษฐกิจที่ดี แต่ในพื้นที่ชนบทเศรษฐกิจไม่ได้ดีเท่าตัวเมือง โดยจะขอข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อมาเป็นองค์ประกอบในการพิจารณาขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำด้วย โดยคาดว่าคณะอนุกรรมการฯ จะเสนอค่าจ้างขั้นต่ำอัตราใหม่ เข้าคณะกรรมการไตรภาคีชุดใหญ่ภายในเดือนมีนาคม 2567 เพื่อประกาศเป็นของขวัญวันปีใหม่ไทย

นายพิพัฒน์ระบุว่าหากลงรายละเอียดรายอำเภอ และรายสาขาวิชาชีพค่าจ้างขั้นต่ำบางพื้นที่อาจจะคงเดิม แต่ในพื้นที่เมืองค่าจ้างขั้นต่ำจะมีอัตราที่ดีกว่าที่ประกาศในวันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่คณะกรรมการไตรภาคีจะประกาศใช้มีทั้งหมด 17 อัตรา ดังนี้

1.ค่าจ้าง 370 บาท จังหวัดภูเก็ต

2.ค่าจ้าง 363 บาท กรุงเทพมหานคร จังหวัดนครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร

3.ค่าจ้าง 361 บาท จังหวัดชลบุรี และระยอง

4.ค่าจ้าง 352 บาท จังหวัดนครราชสีมา

5.ค่าจ้าง 351 บาท จังหวัดสมุทรสงคราม

6.ค่าจ้าง 350 บาท จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สระบุรีฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี ขอนแก่น และเชียงใหม่

7.ค่าจ้าง 349 บาท จังหวัดลพบุรี

8.ค่าจ้าง 348 บาท จังหวัดสุพรรณบุรี นครนายก และหนองคาย

9.ค่าจ้าง 347 บาท จังหวัดกระบี่ และตราด

10.ค่าจ้าง 345 บาท จังหวัดกาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี สงขลา พังงา จันทบุรี สระแก้ว นครพนม มุกดาหาร สกลนคร บุรีรัมย์ อุบลราชธานี เชียงราย ตาก และพิษณุโลก

11.ค่าจ้าง 344 บาท จังหวัดเพชรบุรี ชุมพร และสุรินทร์

12.ค่าจ้าง 343 บาท จังหวัดยโสธร ลำพูน และนครสวรรค์

13.ค่าจ้าง 342 บาท จังหวัดนครศรีธรรมราช บึงกาฬ กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และเพชรบูรณ์

14.ค่าจ้าง 341 บาท จังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี พัทลุง ชัยภูมิ และอ่างทอง

15.ค่าจ้าง 340 บาท จังหวัดระนอง สตูล เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี มหาสารคาม ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ แม่ฮ่องสอน ลำปาง สุโขทัย อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร พิจิตร อุทัยธานี และราชบุรี

16.ค่าจ้าง 338 บาท จังหวัดตรัง น่าน พะเยา และแพร่

17.ค่าจ้าง 330 บาท จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี และยะลา

Related Posts

Send this to a friend