POLITICS

ศป.กฉ. เผย น้ำท่วมใต้ 7 จังหวัด เสียชีวิตแล้ว 33 ราย จังหวัดอื่น แจ้งให้อพยพแล้ว

ศป.กฉ. เผย น้ำท่วมใต้ 7 จังหวัด เสียชีวิตแล้ว 33 ราย ชี้ จังหวัดอื่น แจ้งให้อพยพแล้ว ขอ ปชช.เร่งออกจากบ้าน ไปศูนย์พักพิง เพื่อความปลอดภัย พร้อมเปิดลงทะเบียนจิตอาสาใน ’แอพทางรัฐ‘ ช่วยค่าใช้จ่ายทั้งหมด วอน ไม่เผยแพร่ข่าวเท็จ ทำลายขวัญและกำลังใจผู้ปฏิบัติงาน

วันนี้ (26 พ.ย. 68) เวลา 12:00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผู้อำนวยศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษก ศป.กฉ. และ พล.ท.วันชนะ สวัสดี รองโฆษก ศป.กฉ. และโฆษก ศป.กฉ. ส่วนหน้า แถลงผลการประชุมเกี่ยวกับรายงานสถานการณ์อุทกภัยประจำวัน

นายภราดร ระบุว่า การประชุมอย่างเป็นทางการครั้งแรกของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย ในวันนี้เรามีโฆษกประจำศูนย์ 2 ท่าน คือ พล.ท.วันชนะ สวัสดี และสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ซึ่งจะมีการแถลงข่าวเป็นประจำรายวัน คือ ภายหลังการประชุม และในช่วงเย็นจะมีการแถลงข่าวอีกครั้ง ส่วนกำหนดเวลาที่แน่นอนจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

ขณะที่ นายสิริพงศ์ แถลงผลการประชุมว่า ในส่วนหลังวันนี้ ภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีจากสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธานที่ประชุม และได้มีการบูรณาการข้อมูลซึ่งมีข้อสั่งการ ดังนี้ สถานการณ์น้ำภาพรวม ปริมาณน้ำฝนที่เติมเข้ามาในระบบ มีปริมาณที่ลดน้อยลง แนวโน้มของน้ำในพื้นที่ภาคใต้มีแนวโน้มที่ลดลง แต่อย่างไรก็ดี ในจังหวัดที่ถัดออกไปจากจังหวัดสงขลา เริ่มมีการแจ้งเตือนแล้ว เช่น จังหวัดสตูล, นครศรีธรรมราช มีการแจ้งเตือนอพยพตั้งแต่เมื่อวานแล้ว

จากรายงานพบว่า หลังจากมีการแจ้งเตือนให้มีการอพยพ ยังมีประชาชนจำนวนหนึ่ง ยังไม่ได้อพยพ ทางศูนย์ ศป.กฉ. จึงความกังวลในอนาคตอาจจะเกิดความยากลำบากในการอพยพ จึงได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดให้ดำเนินการสำรวจกลุ่มเปราะบาง และเชิญชวนให้ไปอยู่ศูนย์พักพิง เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดอาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ในกรณีที่เป็นพื้นที่เฝ้าระวัง ศูนย์พักพิงจะมีการกำหนดจุดให้คนในพื้นที่ทราบก่อนที่จะมีคำสั่งอพยพ และจะดำเนินการเช่นนี้ทุกครั้ง

ส่วนกรณีกระแสข่าวโรงพยาบาลหาดใหญ่มีจำนวนผู้เสียชีวิต 80 คน 100 คนบ้างนั้น สิริพงศ์​ไม่เป็นความจริง โดยได้รับการรายงานจากโรงพยาบาลหาดใหญ่ ว่า มีจำนวนผู้เสียชีวิตจริง แต่มีเพียง 40 คน และเป็นผู้เสียชีวิตที่อยู่ในโรงพยาบาลอยู่แล้ว ซึ่ง 14 คน เป็นผู้เสียชีวิตจากการรักษาพยาบาล ไม่ใช่จากสถานการณ์น้ำท่วม ทางด้านกระทรวงสาธารณสุข รายงานจำนวนผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ครั้งนี้ ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย จังหวัดนครศรีธรรมราช, พัทลุง, สงขลา, ตรัง, สตูล, ปัตตานี และยะลา มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 33 คน คือ นครศรีธรรมราช 9 ราย, พัทลุง 4 ราย, สงขลา 6 ราย, ตรัง 2 ราย สตูล 2 ราย, ปัตตานี 5 ราย และ ยะลา 5 ราย โดยสาเหตุการเสียชีวิต เช่น ถูกน้ำพัด, ไฟฟ้าช็อต, ดินถล่ม, พลัดตกน้ำ และจมน้ำ

ทั้งนี้ ขอวิงวอนผ่านสื่อมวลชนถึงประชาชนผู้ไม่ประสงค์ดีทุกท่าน ในการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ เพราะการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ จะทำให้เกิดความหวาดหวั่น ความไม่เชื่อมั่น และทำลายขวัญ และกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ได้ ขอให้ใช้ความระมัดระวัง เช่น กรณี เมื่อเช้านี้ ที่มีข่าวว่ามีเฮลิคอปเตอร์ตก ใกล้โรงพยาบาล ขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ได้มีการตรวจสอบข้อมูลแล้วไม่มีเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกแต่อย่างใด ขอความกรุณาในการเผยแพร่ข่าวการแชร์ข่าวต่อขอให้ใช้ความระมัดระวังด้วย โดยทางศูนย์มีการรวบรวมข้อมูลผ่านระบบ AI เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้ส่งข้อมูลให้กับปภ.ส่วนหน้า แล้วจะมีการอัปเดตให้ทางศป.กฉ.ส่วนหน้าเป็นรายชั่วโมง

ขณะเดียวกัน ในวันนี้ ศูนย์ปฏิบัติการได้รับทราบจากประชาชนจำนวนมากที่มีความต้องการให้การสนับสนุนช่วยเหลือต่อสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ จึงขอประชาสัมพันธ์ว่า เราได้มีการเปิดศูนย์ธารน้ำใจช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ 2568 ณ พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศดอนเมือง ที่จะอำนวยความสะดวกในทุกมิติ ท่านที่อยู่ในต่างจังหวัด อาจจะมีการบริจาคของในศูนย์จังหวัดนั้นๆและจังหวัดจะเป็นผู้ดำเนินการจัดสรรมายังศูนย์นี้

ส่วนผู้ที่อยู่ใน กทม.ก็สามารถบริจาคได้ในศูนย์นี้เช่นเดียวกัน ส่วนรายละเอียดและเบอร์โทรศัพท์จะขึ้นในเพจไทยคู่ฟ้า เพื่อไม่ให้การสื่อสารคลาดเคลื่อน นอกเหนือจากข้าวของเครื่องใช้แล้ว ยังยินดีที่จะรับการสนับสนุนเป็นกำลัง และทรัพยากร เช่น เจ็ตสกี คนขับสปีดโบ๊ต รถลากจูง รถยกสูง และอุปกรณ์กู้ภัย สิ่งของที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ ซึ่งหากผู้ใดที่จะต้องการได้รับการสนับสนุน ทางศูนย์ จะมีเครื่องบิน C-130 ส่งให้ทุกวัน วันละ 5 รอบ

อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปยังอำเภอหาดใหญ่ เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเครื่องบินที่ท่านบินไปนอกเหนือจากข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น ก็ยังมีเจ็ตสกี ไปอีกประมาณ 10 ลำ เพื่อไปช่วยเหลือในสถานการณ์ดังกล่าว และในช่วงเที่ยงของวันนี้ก็ได้มีโดรนส่งอาหารจากจิตอาสาพร้อมกับทีมงานที่ได้เดินทางไปแล้ว

อีกทั้ง ในวันนี้ยังได้มีการเริ่มลงทะเบียนในแอปพลิเคชันทางรัฐ สำหรับอาสาสมัคร โดยที่รัฐจะสนับสนุนค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าที่พัก และค่าน้ำมัน ในการเติมยานพาหนะ หากท่านใดประสงค์ที่จะให้รัฐสนับสนุนในส่วนนี้ขอให้ได้เริ่มลงทะเบียนได้เลย ส่วนอาสาสมัครที่ได้ลงพื้นที่ไปก่อนหน้านี้ รัฐบาลจะลงทะเบียนย้อนหลังให้เพื่อเป็นการสนับสนุน การดำเนินการ

นายสิริพงศ์ กล่าวอีกว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าสถานการณ์ดังกล่าว ถ้าอาศัยเพียงภาครัฐอย่างเดียว กำลังอาจจะไม่เพียงพอ และอาจจะเกิดความล่าช้า และทำให้เกิดความเสียหาย อาสาสมัครเป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะช่วยเหลือให้ทันต่อสถานการณ์ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ปล่อยให้ท่านเป็นอาสาสมัครแล้วให้ท่านสู้โดยลำพัง แต่รัฐบาลสู้ไปกับท่าน ไปช่วยชาวใต้ด้วยกัน นอกจากนั้นแล้วรัฐบาลยังได้มีมาตรการในการนำเสนอข่าวสารที่ครบ เป็นประโยชน์ นำส่งประชาชนให้ทราบในทุกวัน

Related Posts

Send this to a friend