‘ชลน่าน’ เห็นใจ ‘ทักษิณ’ กลับไทยไม่ได้ จึงปกติที่ลูกสาวจะไปพบพ่อ
‘ชลน่าน’ เชื่อกระแส ‘ประยุทธ์’ ตีไม่ขึ้น เห็นใจ ‘ทักษิณ’ กลับไทยไม่ได้ จึงปกติที่ลูกสาวจะไปพบพ่อ ปัดมีปฏิญญาฮ่องกง ยัน ‘อุ๊งอิ๊ง’ ไร้เอี่ยวคัดว่าที่ผู้สมัคร
วันนี้ (26 ธ.ค. 65) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ตอบคำถามสื่อมวลชน ณ สำนักงานใหญ่พรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับประเด็นการเมืองในปัจจุบัน
ผู้สื่อข่าวถามถึงโอกาสในการร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองอื่นหลังการเลือกตั้ง โดยเฉพาะเมื่อ นายเนวิน ชิดชอบ ให้สัญญาณความเป็นไปได้นั้น นพ.ชลน่าน ยืนยันว่า สำหรับพรรคเพื่อไทยไม่อยากพูดในประเด็นดังกล่าว เพราะยังไม่ถึงเวลา ยังไม่เหมาะสม การพูดอะไรไปก่อนเลือกตั้งนั้น เราต้องคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชน เราต้องรับมอบอำนาจของประชาชนก่อนจะพูดได้ นี่เป็นหลักสำคัญที่สุดของพรรคเพื่อไทย
“เป้าหมายเราต้องการขออำนาจประชาชน ไว้วางใจให้ได้ ส.ส. มากกว่า 250 เสียงขึ้นไป เมื่อเป็นเสียงข้างมาก ก็สามารถเลือกพรรคการเมืองที่ประชาชนไว้วางใจให้มาทำหน้าที่ร่วมรัฐบาลได้”
นพ.ชลน่าน ย้ำถึงเงื่อนไขของพรรคร่วมคือ พรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์เดียวกัน คำนึงถึงอำนาจของประชาชนเป็นหลัก ส่วนพรรคการเมืองที่มีที่มาที่ไป อุดมการณ์ต่างกัน หรือเกี่ยวเนื่องกับการสนับสนุนการใช้อำนาจเผด็จการที่ยื้อแย่งอำนาจจากประชาชนไป อันนี้ต้องพิจารณาหนัก ที่สำคัญต้องถามพี่น้องประชาชนว่าพรรคที่มาร่วมนั้นตอบสนองความต้องการของประชาชนได้หรือไม่
“ส่วนคนอื่นจะพูดอย่างไร ก็เป็นความคิดเห็นทางการเมือง เป็นเสรีภาพในการแสดงความเห็น เราไม่ก้าวล่วง เพียงแต่คนที่พูดต้องคิดถึงเสรีภาพของพรรคเพื่อไทยด้วย ถ้าไปพูดในมุมที่เราเสียหาย เราก็ต้องปกป้องเสรีภาพของพรรคเพื่อไทยด้วย”
สำหรับกระแสความนิยมในตัว พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่มากขึ้นภายหลังประกาศตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ นพ.ชลน่าน มองว่า ขึ้นจริงหรือเปล่า ไม่แน่ใจ เพราะอ้างอิงจากนิด้าโพลที่สำรวจก่อนการประกาศตัวของ พลเอก ประยุทธ์ ยังได้คะแนนจาก 20% ลดมาเหลือ 14% ก็ได้อันดับ 2 แต่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้ 34% มาเป็นอันดับ 1 มากกว่าอันดับ 2 ถึง 2 เท่าตัวกว่า และไม่เชื่อว่าโพลจะสะท้อนกระแสนิยมตัว พลเอก ประยุทธ์ มากขึ้นได้หรือไม่ จึงต้องรอการสำรวจต่อไป แต่มั่นใจว่ายิ่งสำรวจ ความนิยม พลเอก ประยุทธ์ ก็ไม่มากกว่านี้
“ต้องขอบคุณท่าน ในความชัดเจนของท่านต่อระบบการเมืองของประเทศ เมื่อชัดเจน ประชาชนจะได้ตัดสินใจถูกต้องว่าจะมอบอำนาจให้ พลเอก ประยุทธ์ สืบทอดอำนาจต่อไปหรือไม่ ? แต่หากมอบให้โดยไม่มีการแทรกแซง ก็เป็นการมอบโดยสุจริต ยินดีกับ พลเอก ประยุทธ์ ด้วย แต่หากอยากให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล ก็ต้องเลือก ส.ส. ให้ได้เกิน 250 เสียง”
ผู้สื่อข่าวยังสอบถามถึงกรณี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เดินทางไปพบ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ฮ่องกง จะนำไปสู่การจัดทำปฏิญญาฮ่องกง ต่อการจัดสรรว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ระหว่างรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่หรือไม่ นพ.ชลน่าน ตอบว่า เป็นปกติวิสัยที่ครอบครัวจะได้พบปะพูดคุยกันในช่วงเทศกาล เป็นสิ่งที่น่าเห็นใจที่ท่านไม่สามารถเข้ามาในประเทศนี้ได้ ถ้ามองในมุมบวกก็เป็นเรื่องดีและน่าเห็นใจที่ครอบครัวได้มีความสุขจากการได้พบกันชั่วครู่ชั่วยาม จากการกระทำที่โหดร้ายต่อครอบครัวท่าน ควรจะได้รับการชดเชย ถือเป็นเรื่องปกติ
ส่วนการเป็นปฏิญญาฮ่องกงนั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า แล้วแต่วิพากษ์วิจารณ์ พรรคเพื่อไทยเราปกป้องสิทธิเรา การสื่อสารการเมืองยุคนี้ไม่จำเป็นต้องมีปฏิญญาฮ่องกงอะไรเลย เราคำนึงถึงระเบียบที่เกี่ยวข้องและจุดมุ่งหมายของฝ่ายตรงข้ามที่ต้องการทำลายเราตลอดเวลา
“การจะมีครอบครัว แกนนำ คนรู้จักมักคุ้น ไปพบปะแสดงความยินดีในเทศกาลคริสต์มาส และส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ มั่นใจไม่มีปฏิญญาฮ่องกง และไม่เกี่ยวข้องตามกระแสข่าว กับการจัดตัวคนรุ่นเก่า คนรุ่นใหม่”
นพ.ชลน่าน ยืนยันว่า นางสาวแพทองธารเคารพหน้าที่บทบาทอยู่เสมอ ทำหน้าที่ประธานคณะที่ปรึกษาด้านนวัตกรรมฯ ทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัว ทำหน้าที่ในการแสดงวิสัยทัศน์ ทำหน้าที่ตรงนั้นอย่างแจ่มชัด ไม่เคยเข้ามาเกี่ยวข้องกับการคัดสรรว่าที่ผู้สมัคร ตามที่มีคณะกรรมการอยู่แล้ว และเป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย
“ดังนั้น สิ่งที่สมมติกันเป็นเรื่องที่ทุกคนวิพากษ์วิจารณ์ตามสิทธิเสรีภาพที่แต่ละคนพึงมี อย่าให้ร้ายพรรคเพื่อไทย ไม่งั้นเราจะใช้สิทธิกลับบ้าง” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว
