POLITICS

‘อนุทิน’ คัมแบค ‘มหาดไทย’ ควงรัฐมนตรีช่วยฯ มอบนโยบาย​ข้าราชการ

‘อนุทิน’ คัมแบค ‘มหาดไทย’ ควงรัฐมนตรีช่วยฯ มอบนโยบาย​ข้าราชการ​ เผย พักร้อนไป 2 เดือน ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายภายใน ใช้อำนาจการเมือง – โยกย้ายข้าราชการ ขอให้เป็นเครื่องเตือนใจข้าราชการ ยึดหลักซื่อตรง – รักษาศักดิ์ศรี ไม่เกรงกลัวอำนาจใด เพื่อประเทศชาติ และประชาชน

วันนี้ (26 ก.ย. 68) เวลา 15:35 น. ที่กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย​ นายทรงศักดิ์ ทองศรี นายศักดิ์ดา​ วิเชียรศิลป์​ และ นางสาวศศิธร​ กิตติธรกุล​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้ากระทรวงมหาดไทยเป็นวันแรก ภายหลังรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ พร้อมมอบนโยบายให้กับข้าราชการกระทรวงมหาดไทย โดยมีนายอรรถษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ และข้าราชการระดับสูงให้การต้อนรับ

​นายอนุทิน กล่าวมอบนโยบายว่า​ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ ตนดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมทั้งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยในครั้งนี้ เรารู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้​ และตั้งใจไว้ว่าจะทำงานสนองพระเดช​พระคุณอย่างสุดความสามารถร่วมกับพวกท่าน เหนือสิ่งอื่นใดตนมีความยินดี​ ดีใจที่ได้กลับมาพบกับทุกท่านอีกครั้งในกระทรวงมหาดไทยแห่งนี้

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ในขณะที่ตนพักร้อนไป 2 เดือนกว่า ได้ทราบว่ามีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการโยกย้ายข้าราชการ มีความพยายามใช้อำนาจทางการเมือง เพื่อให้เกิดการกระทำในสิ่งต่างๆ สิ่งที่ได้เกิดขึ้นนั้นเป็นเครื่องเตือนใจว่าการเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ว่าผู้บริหารระดับสูงใครจะมาใครจะไป สิ่งที่พวกท่านทั้งหลายในฐานะที่เป็นข้าราชการฝ่ายประจำ ควรจะต้องยึดมั่น ตั้งมั่น และยึดถือให้ไม่เสื่อมคลาย คือการมีความซื่อตรงต่อหน้าที่การรักษาศักดิ์ศรีความเป็นข้าราชการ ความคงเส้นคงวา และรักษาศักดิ์ศรีขององค์กร ซึ่งศักดิ์ศรีเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อพวกเราทุกคนปฏิบัติตามภารกิจหน้าที่ ตามกฎหมาย และกฎระเบียบ โดยดำเนินการทุกอย่างบนประโยชน์ของประเทศ ของรัฐบาล ของกระทรวงมหาดไทย และของประชาชน ซึ่งมีราษฎรเป็นที่ตั้ง

อีกทั้ง ตนมีความภาคภูมิใจ ที่ท่านทั้งหลายได้ร่วมกันทำงาน และยึดถือสิ่งที่ถือร่วมกันมาและสิ่งเดียวที่ตนอยากจะขอจากท่าน​ คือขอให้รักษาหลักการนี้ต่อไป ขอให้วัฒนธรรมของกระทรวงมหาดไทย ในทุกระดับให้เป็นวัฒนธรรมแห่งความเป็นมืออาชีพ มีความซื่อสัตย์สุจริตอย่างเคร่งครัด ไม่ต้องเกรงกลัวต่ออำนาจใดๆ ที่เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง หรือต้องไม่ถูกล่อใจ ด้วยผลประโยชน์สิ่งอื่นใด ที่ทำให้เจตนารมณ์ และอุดมการณ์ของท่านต้องโอนอ่อน เพราะไม่ว่าจะเป็นฝ่ายข้าราชการ หรือฝ่ายบริหารอย่างตน เรามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือธำรงไว้ซึ่งสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน

สำหรับนโยบายของกระทรวงมหาดไทยในระยะเวลา 4 เดือนข้างหน้านี้ ตนคิดว่าทุกท่านที่อยู่ในห้องนี้ และที่ร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์ ยังเป็นบุคคลหน้าเดิม อาจมีเปลี่ยนแปลงบ้าง ในบางตำแหน่ง แต่ก็ล้วนแล้วแต่ เป็นบุคคลที่คุ้นหน้าคุ้นตามีความสนิทสนมรักใคร่ปรองดองกับตนเป็นอย่างดี ที่เคยทำกันมาเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ก็ให้เป็นไปตามนั้น เพียงแต่ขอให้เพิ่มความเร่ง และมีประเด็นที่เราอาจต้องให้ความสำคัญมาก เป็นพิเศษคือปัญหาเรื่องชายแดนไทยกัมพูชา จะไม่มีการเจรจาอะไรที่เป็นภัยต่อประเทศ เพราะฉะนั้นเรื่องของการเปิดด่านไม่ว่าจะเป็นด่านชั่วคราวหรือถาวร จะไม่มีวันเกิดขึ้นจนกว่าจะมีการเจรจาที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย และประชาชนชาวไทย ซึ่งเป็นที่ยอมรับ และเป็นที่พึงพอใจของประชาชนคนไทยทั้งหมด

นายอนุทิน​ กล่าวต่อว่า​ ดังนั้นพวกเราทุกคนจะต้องใช้ ช่วงระยะเวลานี้ในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งอดทน และสนับสนุนเกื้อกูลซึ่งกันและกัน โดยขอให้ทางฝ่ายปกครอง อย่างที่ตนเคยกล่าวก่อนพ้นตำแหน่งไป อยากให้ฝ่ายปกครองได้ทำหน้าที่เป็นกำลังสนับสนุน ฝ่ายทหาร และกองทัพ ซึ่งเขาจะได้ทำหน้าที่ในสมรภูมิชายแดน ป้องกันอธิปไตยของประเทศโดยที่ไม่ต้องมีความกังวลว่า แนวหลังของเขาจะเป็นอย่างไร ฝ่ายปกครองจะต้องทำหน้าที่รักษาเยียวยาจิตใจ ดูแลให้ความสะดวก และปกป้องภัยอันตรายจากประชาชนที่เป็นแนวหลัง เราอาจจะมีเหตุการณ์อะไรที่คาดการณ์ไม่ได้ และไม่พึงประสงค์ แต่หากเกิดขึ้นขอให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการอย่างสุดอำนาจที่มีอยู่ เพื่อดูแลสารทุกข์สุขดิบของประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแนวชายแดน มีจุดเชื่อมต่อกับกัมพูชา

ส่วนนโยบายอื่นๆ เราได้ปฏิบัติกันอยู่แล้ว ตนก็ขอให้ความชื่นชม เมื่อใดก็ตามที่ประเทศมีภัย กระทรวงมหาดไทย คือคนแรกที่อยู่กับประชาชน ตนได้เห็นการปฏิบัติงาน ด้วยความวิริยะอุตสาหะ ของข้าราชการทุกท่าน รวมถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ได้ทุ่มเทกำลังกายกำลังใจ อย่างสุดความสามารถทุกอย่างเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาที่รุมเร้าประเทศ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ล้วนแต่มีความเกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย ทั้งปัญหาความมั่นคง ชายแดน ยาเสพติด และภัยพิบัติ

ทั้งนี้ ตนได้ประกาศไปว่าคณะรัฐมนตรีชุดนี้จะทำงานโดยไม่มีวันหยุด ตนไม่ได้คาดหวังจากท่าน แต่ขอให้ได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพราะสมัยที่ตนได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับท่าน ก็เห็นว่ามีความมุมานะ ไม่ว่าวันนั้นจะเป็นวันหยุดหรือวันทำงาน ขอให้สิ่งเหล่านี้กลับมาบังเกิดขึ้นอีกต่อไป เพื่อประโยชน์ของประชาชน จิตวิญญาณของเรามคือการให้ความสำคัญ อยากให้ความสำคัญกับงานบำบัดทุกข์บำรุงสุข ทำให้ประชาชนมีความสมบูรณ์พูนสุข ด้วยความทันสมัยทันโลก และทันเหตุการณ์ทันท่วงที

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า เราไม่ได้มาพบกันเป็นครั้งแรก ซึ่งหากวันนั้นไม่ได้ออกไป วันนี้คงไม่ได้กลับมา เรามีภารกิจที่ห่างเหินกันไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง ขอให้ความรักความผูกพัน ไม่ใช่เหมือนเดิม แต่ขอให้เน้นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ศึกษาวิธีการทำงาน และความเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดี รักษาความสัมพันธ์ และสายใย ให้ความสำคัญ กับความผูกพันที่เรามีต่อกัน ตลอดเวลา เพื่อที่เราจะปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันด้วยความไว้วางใจความจริงใจ เพื่อประชาชนสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาสูงสุดของพวกเรา

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ในสัปดาห์หน้าคณะรัฐมนตรีได้รับทราบมาแล้วว่า จะมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพื่อที่รัฐมนตรีทุกคนจะได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสมบูรณ์ โดยจะมีการแถลงนโยบายและรับฟังการอภิปรายจากสมาชิก ในวันที่ 29 -30 ก.ย.นี้ ซึ่งกระทรวงมหาดไทย จัดเตรียมความพร้อมในเรื่องข้อมูลต่างๆ หากมีข้อสงสัยจากสมาชิกรัฐสภา พวกตนทุกคน ก็เหมือนเดิมเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรด้วย ในอีกสถานะหนึ่ง ถึงแม้จะไม่ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ก็มีพื้นที่รับผิดชอบ ที่รัฐมนตรีแต่ละท่านจะต้องไปรับผิดชอบในนามของรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย จึงขอให้ทุกท่านให้ความสำคัญ

นายอนุทิน ย้ำว่า ตนกับข้าราชการเหมือนเดิม ว่า ทุกอย่างไม่มีอะไรค้างคาใจกัน ไม่มีอะไรที่จะมาทักท้วง หรือว่ามาทวงสัญญาอะไรกัน ขอให้มองไปข้างหน้า ไม่ต้องมองไปข้างหลัง ขออนุญาตนำท่อนหนึ่งของเพลง ‘เต๋อ เรวัต’ มอบให้กับทุกคนคือ ”ที่แล้วก็แล้วไป ไม่ตะขิดตะขวงใจ​ ถึงอย่างไรก็จริงใจรักพวกท่านทุกคน“

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่กระทรวงมหาดไทยเป็นไปอย่างชื่นมื่น บรรดาครอบครัวของรัฐมนตรี และข้าราชการ ต่างพากันมาแสดงความยินดี​ รวมไปถึงมีการเปลี่ยนป้ายชื่อรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ นายอนุทิน พร้อมด้วยรัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงมหาดไทย และผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ได้สักการะพระอนุสาวรีย์สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พร้อมถ่ายรูปกับประชาชนในพื้นที่ก่อนเดินทางกลับ

Related Posts

Send this to a friend