‘ชนินทร์’ ลุยสุรินทร์ ตรวจศูนย์พักพิง
‘ชนินทร์’ ลุยสุรินทร์ ตรวจศูนย์พักพิง ยอมรับสร้างบังเกอร์ไม่ทัน แต่พร้อมเดินหน้าหลังเหตุสงบ ขอ ชาวบ้านวางใจ รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ
วันนี้ (26 ก.ค. 68) นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ที่จังหวัดสุรินทร์ พร้อมกล่าวให้กำลังใจชาวบ้านที่ศูนย์พักพิง โดยระบุว่า ตนเองขอเป็นกำลังใจให้ ในฐานะที่เป็นคนสุรินทร์เหมือนกัน เข้าใจสภาพปัญหาดี และรู้สึกกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันว่า รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ปะทะกัน อยากที่จะยุติเหตุการณ์เหล่านี้ให้เร็วที่สุด ขอให้ชาวบ้านไม่ต้องเป็นห่วง อยากให้อยู่ศูนย์พักพิงให้เหมือนบ้าน แม้ว่าจะไม่ใช่บ้านจริง ๆ แต่ก็อยากให้รู้สึกปลอดภัย
นายชนินทร์ กล่าวอีกว่า ตนเองได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม และหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากจังหวัดสุรินทร์เป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนมากที่สุดในภาคอีสานใต้ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ประกาศภัยซึ่งมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบเกือบ 500,000 คน และในจำนวนนี้เป็นชาวสุรินทร์ถึงเกือบ 300,000 คน จึงจำเป็นต้องมีความพร้อมด้านการบริหารจัดการศูนย์อพยพอย่างเต็มที่ ซึ่งจากการลงพื้นที่ได้รับรายงานว่าทุกหน่วยงานสามารถขับเคลื่อนงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการตั้งศูนย์อพยพ การดูแลผู้ประสบภัย และการสนับสนุนจากภาคเอกชนที่จัดหาอาหารและสิ่งของจำเป็นได้อย่างครบถ้วน ประชาชนสามารถใช้ชีวิตในศูนย์ได้อย่างไม่ขาดแคลน แม้จะไม่มีใครอยากอยู่ที่นี่นาน ทุกคนต่างหวังให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วและได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย
สำหรับปัญหาการขาดแคลนบังเกอร์หรือหลุมหลบภัยในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ นายชนินทร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้รับทราบปัญหานี้แล้ว และมีการให้คำมั่นว่าจะจัดสรรงบประมาณเพื่อรองรับการก่อสร้างบังเกอร์ โดยกระทรวงมหาดไทยได้ขยายกรอบวงเงินทดลองจ่ายของผู้ว่าราชการจังหวัดจากเดิม 20 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาทต่อจังหวัด ซึ่งสามารถนำไปดำเนินการด้านนี้ได้
ทั้งนี้ สถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ทำให้ไม่สามารถจัดสร้างบังเกอร์ได้ทันในช่วงเวลานี้ จึงได้หารือร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดว่าจะวางแผนดำเนินการหลังจากสถานการณ์คลี่คลาย ส่วนแนวทางในปัจจุบันคือการเร่งเคลื่อนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง แทนการให้หลบภัยในพื้นที่ที่ยังไม่มีสิ่งป้องกันเพียงพอ อีกทั้งในอดีต งบประมาณที่มีอยู่สามารถใช้ได้เฉพาะการปรับปรุงสิ่งปลูกสร้างเดิม ไม่สามารถใช้จัดหาใหม่ได้ แต่สำหรับงบประมาณชุดใหม่ที่เพิ่งอนุมัติ สามารถนำไปใช้สร้างบังเกอร์ใหม่ได้ เพียงแต่ยังไม่อยู่ในจังหวะเวลาที่เหมาะสมต่อการดำเนินการในขณะนี้
นายชนินทร์ ยืนยันว่า ขณะนี้กระทรวงมหาดไทยมีความพร้อมในการรับมือทุกด้าน โดยได้ประสานกับกรมบัญชีกลางและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เพื่อให้จังหวัดสามารถเบิกจ่ายงบกลางเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันที โดยได้มีการโอนเงินไว้ประจำอำเภอทั่วทั้งพื้นที่ เพื่อให้นายอำเภอสามารถใช้จ่ายดูแลประชาชนโดยไม่ต้องรออนุมัติจากส่วนกลาง พร้อมเปิดช่องทางให้ประชาชนที่มีปัญหาสามารถแจ้งผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดหรือประสานตรงมายังตนเองได้ เพื่อให้การช่วยเหลือเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด












