POLITICS

‘วราวุธ’ แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตเหตุชายแดนไทย-กัมพูชา

‘วราวุธ’ แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตเหตุชายแดนไทย-กัมพูชา กำชับทีม พม. – สหวิชาชีพ เร่งช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง พร้อมเยียวยาสิทธิสวัสดิการ-กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย

วันนี้ (26 ก.ค. 68) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า ศูนย์บริหารการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ (ศบปภ.) รายงานความคืบหน้าการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่ประสบภัยจากสถานการณ์พื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา

ทั้งนี้ ทีม ศบปภ. พม.อุบลราชธานี ลงพื้นที่พบว่า มีกลุ่มเปราะบางเข้าพักในศูนย์พักพิง 10 แห่ง ในพื้นที่ อ.เดชอุดม 306 คน มีเด็ก อายุ 0-6 ปี จำนวน 36 คน ผู้สูงอายุ 178 คน คนพิการ 60 คน และผู้ป่วยติดเตียง 32 คน จึงได้ให้ลงทะเบียนกลุ่มเปราะบาง พร้อมพูดคุยให้กำลังใจครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งให้คำปรึกษาแนะนำในเรื่องสิทธิสวัสดิการสังคม และการช่วยเหลือเยียวยาจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย

อย่างไรก็ตาม ศูนย์พักพิงยังมีความต้องการเครื่องอุปโภคบริโภค อาหาร น้ำดื่ม มุ้ง ผ้าห่ม และเสื่อ รองรับกลุ่มเปราะบางและประชาชน โดยเฉพาะที่ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นผู้ป่วยอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด จึงประสานเครือข่ายในพื้นที่ร่วมสนับสนุนสิ่งของที่จำเป็น

ทีม ศบปภ. พม.สุรินทร์ รายงานว่า ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัย 13 ราย ที่โรงพยาบาลสุรินทร์ โดยเข้าไปพูดคุยให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมให้คำปรึกษาแนะนำในเรื่องจุดบริการศูนย์พักพิงชั่วคราว แนะนำเรื่องสิทธิสวัสดิการสังคม และการช่วยเหลือเยียวยาจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย

นายวราวุธ กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป และขอแสดงความเสียใจกับกองทัพบกที่ได้สูญเสียบุคลากรที่สำคัญไป ต้องขอขอบคุณครอบครัวของทหารหาญที่เป็นกำลังใจและเสียสละทุ่มเทให้กับแผ่นดินไทย เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และหวังว่าจะสงบได้โดยเร็ว

ในส่วนของกระทรวง พม. ได้กำชับให้ดูแลกลุ่มเปราะบางที่อยู่ในศูนย์พักพิงทุกแห่งของจังหวัด และให้ทำงานใกล้ชิดกับผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษคือกลุ่มผู้สูงอายุที่ส่วนใหญ่มีความผูกพันอยู่กับบ้านเรือนที่พักอาศัยเป็นประจำ กระทรวง พม. ต้องมีข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ เพื่อเข้าไปช่วยเหลือเคลื่อนย้ายกลุ่มเปราะบางจากพื้นที่ได้ทันที

ส่วนที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์การช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป จนกว่าจะสิ้นสุดสถานการณ์ ดังนี้

1) เห็นชอบกรอบอัตราช่วยเหลือพลเรือน ได้แก่ กรณีเสียชีวิต รายละ 1,000,000 บาท กรณีทุพพลภาพ รายละ 700,000 บาท กรณีบาดเจ็บสาหัส รายละ 200,000 บาท กรณีบาดเจ็บมาก รายละ 100,000 บาท และกรณีบาดเจ็บเล็กน้อย รายละ 50,000 บาท

2) เห็นชอบให้ความช่วยเหลือข้าราชการ ทหาร ตำรวจ โดยจ่ายเพิ่มจากหน่วยงานต่าง ๆ ได้ครบตามอัตราที่กำหนดให้ความช่วยเหลือพลเรือน

3) มอบหมายกระทรวง พม. แจ้งพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ตรวจสอบข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมรวบรวมเอกสารเพื่อใช้เบิกจ่ายเงินช่วยเหลือ ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว และใช้เวลาน้อยที่สุด

4) เห็นชอบให้ประชาสัมพันธ์ให้ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมบริจาคเงินสมทบเข้ากองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี บริจาคผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย ประเภทออมทรัพย์ เลขบัญชี 067-0-06895-0

Related Posts

Send this to a friend