POLITICS

ป.ป.ช. รับสลิปโอน ‘กล้วย’ เป็นหลักฐานได้ อยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริง

ป.ป.ช. รับสลิปโอน ‘กล้วย’ เป็นหลักฐานได้ อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อเท็จจริง ชี้ไม่ผิดหากแค่ยืมตามอ้าง แต่ถ้าให้เพื่อจูงใจโหวตผิด ป.อ. ม.149 อาจขัดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง เผยชี้มูล ‘กนกวรรณ’ ล้ำเขตอุทยานฯ แล้ว 3 ใน 4 แปลง

วันนี้ (26 ก.ค. 65) ที่อาคารรัฐสภา นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงกรณีกระแสสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) รับทรัพย์สิน หรือ กล้วย เพื่อกำหนดแนวทางลงมติในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี (รมต.) เป็นรายบุคคล

นายนิวัติไชย กล่าวว่า ตอนนี้มีสำนักการข่าวและกิจการพิเศษรวบรวมข้อเท็จจริงในประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอำนาจและหน้าที่ของ ป.ป.ช. อยู่ตลอดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ รวมถึงเปิดรับการส่งพยานหลักฐานให้พิจารณาด้วย เช่น กรณีเปิดโปงหลักฐานธุรกรรมโอนเงิน ซึ่งหากจะดูว่าจะนำเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้เมื่อไร ต้องดูว่าข้อเท็จจริงครบถ้วนหรือไม่ และอยู่ในอำนาจและหน้าที่ของ ป.ป.ช. หรือไม่ และหากมีคนร้องเรียนก็จะนำมาประกอบกัน

หากพิจารณาจากกระแสข่าวเบื้องต้นที่ทราบว่าเป็นการยืมเงิน นายนิวัติไชย กล่าวว่า ก็ต้องไปดูว่าเป็นการยืมเงินจริงหรือไม่ หากยืมเงินจริง เขาก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่หากไม่ใช่การกู้ยืม เป็นการให้ ซึ่งการให้นี้สืบเนื่องจากอะไร ถ้าให้เฉย ๆ ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ ก็ต้องดูตามกรอบว่าให้ไม่เกิน 3,000 บาทหรือไม่ เพราะหากเกินกว่านั้นต้องรายงานผู้บังคับบัญชาเพื่อทราบและอนุญาตให้ถือครองทรัพย์สิน

“แต่หากเป็นการให้เพื่อจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่หรือการทำงานในตำแหน่งหน้าที่ อาจเป็นการรับหรือเรียกรับไว้ เพื่อกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งในตำแหน่ง ก็ต้องไปดูว่าตำแหน่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีหน้าที่ทำอะไร อย่างการลงคะแนนเสียงใช่หรือไม่ ก็อาจเข้าสู่องค์ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ได้ ซึ่งจะต้องดูรายกรณีไป และทั้งสองกรณีอาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ ก็ต้องดูอีกที แต่ข้อเท็จจริงที่ยืมเฉย ๆ ก็อาจไม่ต้องหยิบยกอะไรขึ้นมา” เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เอกสารที่ออกมาในแชตไลน์หลุดสามารถเป็นหลักฐานพิจารณาได้หรือไม่ นายนิวัติไชย ตอบว่า เป็นหลักฐานชิ้นหนึ่งที่จะรวบรวมมาพิจารณา แต่ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเป็นการกู้ยืมหรือการให้หรือไม่ และอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. หรือไม่

ส่วนแนวทางการสอบสวนข้อเท็จจริงจะเหมือนกับกรณีนาฬิกายืมเพื่อนของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น นายนิวัติไชย ตอบว่า คงไม่เหมือนกัน เพราะกรณีนั้นเราวินิจฉัยชัดเจน การยืมนาฬิกาเพื่อนมีการยืมแบบคงรูปหรือสิ้นเปลืองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ยืมก็ไม่ได้ผิดอะไร ทำได้ ต่างจากการให้ ซึ่งให้ไปเลย ต้องดูแล้วแต่กรณี ต้องแยกแยะให้ชัดเจน

“ปัญหาว่า ผู้ให้ ให้เพื่ออะไร ให้เพื่อจูงใจเพื่อปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติในหน้าที่ ผู้ให้ก็ผิดจากการให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐ ผิดทั้งผู้ให้ผู้รับ ความผิดทุกอย่างถ้าเราวินิจฉัยแล้วก็จะส่งไปตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กกต. เพื่อเป็นฐานข้อมูลไว้” เลขาธิการ ป.ป.ช. ตอบถึงความผิดต่อ ส.ส. และกรณียุบพรรคการเมือง

นายนิวัติไชย ยังตอบคำถามถึงผลการวินิจฉัยชี้มูลว่า มีกรณีที่ดิน 4 แปลง ของนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พบว่ามีการรุกล้ำเขตอุทยานฯ ถึง 3 แปลง ซึ่ง ป.ป.ช. ยื่นฟ้องแต่ละกรรมแต่ละสำนวนไป ลักษณะคล้ายกันคือมีการชี้แนวเขตบุกรุก จึงแล้วแต่ศาลว่าจะรวมพิจารณาหรือไม่

Related Posts

Send this to a friend