‘มงคล‘ ปิดปาก ไม่พูดถึงการเมือง หลัง ‘ภูมิใจไทย’ จ่อซักฟอกรัฐบาล

‘มงคล‘ ปิดปาก ไม่พูดถึงการเมือง หลัง ‘ภูมิใจไทย’ จ่อซักฟอกรัฐบาล บอกขอพูดเรื่องผลไม้ก่อน – สว. จัดกิจกรรม ‘ไทยช่วยไทย’ ขนทุเรียน-มังคุด กว่า 3,000 กิโล ขายข้าราชการสภาฯ รับ สถานการณ์กัมพูชาแบนผลไม้ไทย

วันนี้ (26 มิ.ย. 68) ที่รัฐสภา นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา พร้อม สว. ร่วมกิจกรรม ‘ไทยช่วยไทย’ โดยจัดจำหน่ายผลไม้ให้กับข้าราชการรัฐสภา เพื่อรับมือสถานการณ์ชายแดนไทย กัมพูชา ภาวหลังกัมพูชาประกาศงดรับซื้อผลไม้ของไทย โดยวันนี้ได้นำทุเรียนนำแร่ จาก จ.บุรีรัมย์จำนวน 600 กิโลกรัม มาจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 120 บาท และ มังคุด 2,300 กิโลกรัม จำหน่ายในราคา 5 กิโลกรัม 175 บาท โดยได้รับความสนใจจาก ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่รัฐสภา รวมถึง สส. เช่น นางสาวแนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย เป็นอย่างมาก ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2

นายมงคล กล่าวว่า ขณะนี้ผลไม้ล้นตลาด เพราะปีนี้ผลผลิตทางการเกษตรออกมาดีมากรวมถึงสถานการณ์ชายแดน เราจึงเข้าไปตัดวงจรพ่อค้าคนกลาง เพื่อให้ผลผลิตทางการเกษตรส่งตรงถึงผู้ผลิตถึงผู้บริโภคราคาทุเรียนที่นำมาจำหน่ายในวันนี้ก็สูงกว่าราคาที่เกษตรกร จำหน่ายให้พ่อค้าคนกลางถึงกัมพูชาจะประกาศแบนสินค้าทางการเกษตรไทย เรามีขายที่วุฒิสภาและเชื่อว่าหลังจากนี้หลายกระทรวง รวมถึงหลายหน่วยงานโดยเฉพาะหอการค้าแต่ละจังหวัดจะจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรเชื่อมั่นว่าราคาผลไม้ไทยจะกระเตื้องมากขึ้น

นายมงคล ยังกล่าวอีกว่า กลุ่ม สว. ของเรามีหลายกลุ่มวิชาชีพ ฉะนั้นพวกเราจะรู้ฤดูกาลผลิตที่ผลผลิตจะออกมาพร้อมกัน รวมถึงสถานการณ์ผลไม้ล้นตลาด ดังนั้นกิจกรรมครั้งนี้จะช่วยให้เกษตรกรไม่ขาดทุนเมื่อเกษตรกรเดือดร้อนเนื่องจากราคาผลผลิตตกต่ำ หากปล่อยไว้จะทำให้ได้รับความเสียหาย กิจกรรมไทยช่วยไทย เกษตรกรก็จะขายของแพง ผู้ผลิตจะได้ซื้อของถูก ยืนยันว่ากิจกรรมดังกล่าวส่วนหนึ่งมาจากการรับมือกับสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามประเด็นการเมืองถึงการที่พรรคภูมิใจไทยประกาศเตรียมขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ได้รับการประสานมาหรือไม่ นายมงคลปฏิเสธตอบ พร้อมทำมือปิดปาก ก่อนระบุว่าตนเองขอพูดเรื่องผลไม้ก่อน ขอคุยเรื่องนี้ก่อน ยังไม่ต้องการพูดเรื่องที่ยังไม่ได้เกิดขึ้น อีกทั้งยังปฏิเสธตอบคำถามสื่อมวลชนถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญเลื่อนการพิจารณาคำร้องของ 36 สว. จากเดิม 8 ก.ค. 68 มาเป็น 1 ก.ค. 68 มีนัยยะทางการเมืองหรือไม่