POLITICS

‘รังสิมันต์’ เตือน รัฐบาลอย่าประมาท หลังกัมพูชาผลักดันข้อพิพาทขึ้นศาลโลก

‘รังสิมันต์’ เตือน รัฐบาลอย่าประมาท หลังกัมพูชาผลักดันข้อพิพาทขึ้นศาลโลก แนะ ใช้ทางการทูต คุยประเทศต่าง ๆ หากกัมพูชาไม่จริงใจแก้ไขปัญหา ลั่น ‘มาริษ’ ไม่ให้ความร่วมมือ มั่นแก้ปัญหาเองได้ ย้ำ ปราบคอลเซ็นเตอร์เป็นสิ่งที่ต้องทำ ไม่ใช่สิ่งที่นำมาใช้ต่อรองกัมพูชา

วันนี้ (26 มิ.ย. 68) ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ กล่าวถึงกรณีข้อพิพาทไทย-กัมพูชาว่า กมธ.ทำงานเตรียมความพร้อมเรื่องต่าง ๆ ซึ่งต้องดูว่ากัมพูชาเตรียมการเรื่องพื้นที่ข้อพิพาทไปศาลโลกอย่างไร เป็นเกมการเมืองที่ต้องการพาไทยไปศาลโลก อีกทั้งต้องดูว่ากระทรวงการต่างประเทศมีความพร้อมมากแค่ไหน จึงเชิญนักวิชาการที่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศ และข้อเท็จจริงในเชิงประวัติศาสตร์ มาให้ข้อแนะนำ

อย่างไรก็ตาม หากมีการขึ้นศาลโลกจริงก็ไม่มีใครชนะหรือแพ้ ทั้งสองประเทศต้องตั้งอยู่ร่วมกัน ไม่อยากให้เป็นบาดแผลทางประวัติศาสตร์ ไม่อยากให้คนไทยและกัมพูชาขัดแย้งกัน สถานการณ์ที่มาถึงจุดนี้เกิดขึ้นจากคนไม่กี่คน ก็พยายามทำทุกวิถีทางที่ทำให้มั่นใจว่าทวิภาคีมีความเป็นไปได้ ซึ่งก็ยังไม่มีความคืบหน้ามากเท่าไหร่

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า รัฐบาลกัมพูชาอาไม่อยากเข้าสู่การทวิภาคี แต่สถานการณ์ผิดปกติจนไม่สามารถคุยกันได้เลยหรือ เราหาแนวทางที่จะสร้างกลไกทวิภาคีได้ทุกฝ่าย เราไม่ควรทิ้งบาดแผลระหว่างทั้งสองประเทศ แต่ควรหาที่จะอยู่ร่วมกัน และแก้ไขปัญหานี้เป็นแนวทางที่ควรจะเป็น

หากกัมพูชาไม่อยากใช้กลไกทวิภาคีจริง ๆ เป็นโอกาสที่คณะกรรมาธิการต้องคุยกับกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่ง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ ไม่ค่อยให้ความร่วมมือเพราะคิดว่าแก้ไขปัญหาเองได้ แต่ในความเป็นจริงกระทรวงการต่างประเทศไม่ประสบความสำเร็จในทางการทูตเลย แทนที่จะได้ใช้การพูดคุยกันข้อต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ หากกัมพูชาไม่อยากใช้กลไกทวิภาคี ก็ต้องทำงานทางการทูตกับประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะฝรั่งเศส หรือแม้กระทั่งกับโลก เพื่อให้เห็นว่ากัมพูชาไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหา

นายรังสิมันต์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ สมเด็จฮุน เซน โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีใหม่ในอีก 3 เดือนว่า ต้องรู้เท่าทันความพยายามของสมเด็จฮุน เซน นี่คือสงครามจิตวิทยา เพราะรู้ว่าโพสต์อะไรคนไทยก็จะอ่าน และติดตาม ดังนั้น อย่าไปสนใจเยอะ สิ่งที่ปรากฏในคลิปเสียงเป็นสิ่งที่แย่มาก ความพยายามที่จะแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทยจะต้องไม่ปล่อยให้เกิดขึ้น

สำหรับมาตรการปิดด่านยังขาดการบริหารเรื่องของผลกระทบที่จะตามมา หากไม่มีการรองรับผลกระทบ จะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทย อยากร้องไปถึงนายกรัฐมนตรี หากจะมีมาตรการตามแนวชายแดนต้องคิดให้รอบคอบ และมีวิธีการบริหารจัดการ ส่วนเรื่องการตัดไฟมีข่าวว่ายังตัดไม่ครบทุกจุด ต้องพิจารณาว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงไม่ตัด ส่วนน้ำมันที่บอกว่าจะไม่มีการนำเข้าจากไทยแล้ว แต่ยังมีข่าวว่ายังส่งน้ำมันไปที่กัมพูชา

นอกจากนี้ ประเทศไทยต้องปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่ใช่สิ่งที่ไทยจะเอาไปต่อรองกับกัมพูชา เป็นสิ่งที่ต้องทำ ทราบว่าทางการสหรัฐฯ ก็พร้อมให้ความร่วมมือ นายมาริษต้องรีบไปคุยว่าจะมีแนวทางอย่างไรในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนเรื่องการทูตคิดว่า ไทยต้องทำงานหนักกว่าเดิมในการเจรจาพูดคุย ควรมีแนวทางด้านการพูดและทำความเข้าใจว่ากัมพูชาพยายามจุดไฟ สร้างประกายไฟ เป็นสิ่งที่เราต้องทำ

Related Posts

Send this to a friend